โครงสร้างดอกผักบุ้ง
(Anatomy morning Glory )
ดอกผักบุ้ง มีชื่อสามัญว่า morning Glory (ชื่อนี้มาจากการบานในตอนเช้าหรือมีแสงอาทิตย์จัดๆของผักบุ้งนั่นเองค่ะ) อยู่ใน Genus
(สกุล) Ipomoea ซึ่งมีมากกว่า 50 สายพันธุ์ และ 1000 สปีชี่ส์
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ipomoea aquatica Forsk (Ipos แปลว่าหนอน หรือไม้เลื้อย)
และเห็นคำว่า aquatica คือน้ำหรือชอบขึ้นในที่มีน้ำ เมื่อผักบุ้งเกิดที่ไหนก็จะปูพรมเขียวเหมือนกับเป็น “Solar panels” เป็นแผงโซลาเซลล์ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงเลยทีเดียว
ลักษณะทั่วไป
ต้น : เป็นพรรณไม้ล้มลุกที่ลำต้นเลื้อยพันหรือเลื้อยราบไปตามพื้นดิน
ลำต้นมีสีเขียวและมีขนสั้นประอยู่ทั่วทั้งต้น
ใบ : เป็นไม้ใบเดี่ยว สีเขียว ลักษณะของใบเป็นรูปหัวใจปลายใบเรียวแหลมโคนใบเว้าเข้า ผิวใบมีขนเป็นหนามสั้น ๆ ทั้งสองด้าน ใบกว้างประมาณ 2-5 นิ้วยาว 2-6 นิ้ว
ดอก : ออกเป็นช่ออยู่ตามง่ามใบลักษณะของดอกเป็นรูปกรวยตรงปลายดอกจะจักเป็นแฉก ตัวดอกด้านในเป็นสีฟ้าอมม่วงและมีแถบกลางกลีบเป็นสีออกแดง
ส่วนด้านนอกจะสีอ่อนกว่าหรือสีขาวกลีบเลี้ยงเป็นสีเขียวปลายแหลม
ผล : เป็นลูกกลม ๆ แห้ง ขนไม่มีจะเกลี้ยง
เมล็ด : ผิวเกลี้ยง กลมมีอยู่ 6 เม็ดหรืออาจจะน้อยกว่านี้
การขยายพันธุ์ : เป็นพรรณไม้กลางแจ้ง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
สรรพคุณ :
ใบ ในอเมริกาใต้นั้นนำใบมาทำเป็นยาแก้โรคซิฟิลิส และใช้เป็นยารุ
ถิ่นที่อยู่ : เป็นไม้พื้นเมืองของทวีปอเมริกา
โครงสร้างส่วนต่างๆของดอกผักบุ้ง
เกสรตัวเมีย(Pistil)
ยอดเกสรตัวเมีย(stigma)
ก้านชูเกสรตัวเมีย
(style)
รังไข่(ovary)
ไข่อ่อน(Soft egg.)
เกสรตัวเมีย (Pistil) เป็นอวัยวะสืบพันธุ์เพศเมีย ประกอบด้วยยอดเกสรตัวเมียซึ่งมีน้ำหนักเหนียวเพื่อช่วยดักละอองเรณู และก้านชูเกสรตัวเมีย นอกจากนี้ยังมีรังไข่ ภายในรังไข่จะมี ออวุลรังไข่ทำหน้าที่สร้างไข่ (เซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย)
เกสรตัวผู้ (Stamen)
ก้านชูอับเรณู(filament)
อับเรณู(anther)
เกสรตัวผู้ (Stamen) เป็นอวัยวะสืบพันธุ์เพศผู้ ประกอบด้วยก้านชูอับเรณู และอับเรณู ทำหน้าที่สร้างละอองเรณู (เซลล์สืบพันธุ์เพศผู้) เพื่อใช้ในการผสมพันธุ์
ก้านดอก (Peduncle)
ก้านดอก (Peduncle)
ก้านดอก (Peduncle)
ทำหน้าที่ชูดอก และทำให้ดอกติดกับกิ่งหรือ
ลำต้น
ฐานรองดอก (Receptacle)
ฐานรองดอก (Receptacle) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่รองรับกลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรตัวผู้ และเกสรตัวเมีย
ฐานรองดอก (Receptacle)
กลีบเลี้ยง(Sepal)
กลีบเลี้ยง
(Sepal)
กลีบเลี้ยง (Sepal)
เป็นส่วนที่อยู่ชั้นนอกสุดของดอกไม้มีลักษณะเป็นกลีบเล็กๆเจริญเปลี่ยนแปลงมาจากใบมักมีสีเขียวทำหน้าที่ห่อหุ้มและป้องกันอัตรายให้กับส่วนประกอบต่างๆของดอกที่ยังตูมอยู่ ป้องกันอันตรายจากแมลงหรือศัตรูพืช และช่วยป้องกันการระเหยของน้ำ
กลีบดอก (Petal)
กลีบดอก (Petal)
กลีบดอก (Petal)เป็นส่วนที่อยู่ถัดกลีบเลี้ยงเข้ามา กลีบดอกส่วนใหญ่จะมีสีสันสวยงามบางทีก็มีกลิ่นหรือต่อมน้ำหวานบริเวณโคนของกลีบดอก เพื่อใช้ในการล่อแมลงให้มาผสมเกสร
สรุปโครงสร้างของดอกผักบุ้ง มีลักษณะดังนี้
ดอกช่อ(inflorecence) มีดอกหลายดอกที่อยู่บนก้านดอกหนึ่งก้าน เช่น เข็ม ผักบุ้ง มะลิ กะเพรา กล้วย กล้วยไม้ ข้าวเป็นต้น แต่การจัดเรียงตัว และการแตกกิ่งก้านของช่อดอกมีความหลากหลาย นักวิทยาศาสตร์ใช้ลักษณะการจัดเรียงตัว
และการแตกกิ่งก้านของช่อดอกจำแนกช่อดอกออกเป็นแบบต่างๆ
ดอกสมบูรณ์ (complete flower) มีโครงสร้างหลักครบทั้ง 4 ส่วน ซึ่งได้แก่ กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรตัวผู้ และเกสรตัวเมีย
•ดอกสมบูรณ์เพศ (perfect flower) ดอกที่มีทั้งเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียอยู่ภายในดอกเดียวกัน
มีการถ่ายระอองเรณู(pollination) ปรากฏการณ์ที่ละอองเรณูตกลงสู่ยอดเกสรตัวเมีย
เมล็ด ในผักบุ้งจะมีผิวเกลี้ยง กลมมีอยู่ 6 เม็ดหรืออาจจะน้อยกว่านี้
แหล่งที่มา
จัดทำโดย
นางสาวจิราพัชร ใหลเจริญ เลขที่ 31
นางสาวรุจิรา วันทาแก้ว เลขที่ 37
ชั้นมัธยมศึกษาปีมี่ 5 / 2
เสนอ
อาจารย์โศจิกานต์ สตาภรณ์
โรงเรียนปิยชาติพัฒนาในพระราชูปถัมภ์ฯ
ปีการศึกษา 2 / 2554