การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง
(ร่ายสุภาพและโคลงสี่สุภาพ)
ครูโสภณ ฉิมพลีศิริ
ครูสุชาวดี ไทยสุชาติ
การอ่านออกเสียงร้อยกรอง เป็นการอ่านที่มุ่งให้เกิดความเพลิดเพลินซาบซึ้งในรสของคำประพันธ์ ซึ่งจะต้องอ่านอย่างมีจังหวะ ลีลา และท่วงทำนองตามลักษณะคำประพันธ์เเต่ละชนิด
ความหมายของการอ่านออกเสียงร้อยกรอง
การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง อ่านได้ ๒ แบบ ดังนี้�
๑. อ่านออกเสียงธรรมดา
๒. อ่านเป็นทำนองเสนาะ
๑. อ่านออกเสียงธรรมดา เป็นการอ่านออกเสียงพูดธรรมดาเหมือนกับอ่านร้อยแก้ว แต่ต้องเว้นจังหวะวรรคตอนให้ถูกต้องตามลักษณะบังคับของคำประพันธ์แต่ละชนิด มีการเน้นคำรับสัมผัสเพื่อเพิ่มความไพเราะ รวมทั้งใส่อารมณ์ให้เหมาะสมสอดคล้องกับเนื้อหาที่อ่านได้
การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง �
๒. อ่านเป็นทำนองเสนาะ เป็นการอ่านมีสำเนียงสูง ต่ำ หนัก เบา ยาว สั้น ทอดเสียง เอื้อนเสียง เน้นจังหวะ เน้นสัมผัสในชัดเจนไพเราะ และทำให้เกิดอารมณ์คล้อยตาม
การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง �
คุณสมบัติของผู้อ่าน
✹มีความรู้เรื่องฉันทลักษณ์ของบทร้อยกรองที่จะอ่าน
✹มีความเพียรพยายาม มีความอดทน
✹มีความเชื่อมั่นในตนเอง กล้าแสดงออก
✹มีน้ำเสียงแจ่มใส อวัยวะในการออกเสียงไม่ผิดปกติ
✹มีความรักและสนใจในการอ่านอย่างแท้จริง
๑. ศึกษาคำประพันธ์ชนิดต่างๆ ให้เข้าใจถ่องแท้
๒. อ่านออกเสียงดังชัดเจนให้ได้จังหวะตามรูปแบบบทร้อยกรองชนิดนั้นๆ
๓. ฝึกอ่านทอดเสียงโดยอ่านผ่อนเสียงและผ่อนจังหวะให้ช้าลง
๔. อ่านใส่ทำนองเสนาะ มีลักษณะสำคัญ คือ การแบ่งช่วงเสียงของคำในวรรค
ในบาท ในบทให้ถูกต้อง
หลักเกณฑ์ในการอ่านออกเสียงร้อยกรอง�
ร่ายสุภาพ
ร่ายสุภาพ
แผนผังร่ายสุภาพ
คณะ ร่ายสุภาพคณะหนึ่งประกอบด้วยอย่างน้อย ๕ วรรค แต่ละวรรคมักมี ๕ คำ และจะจบโดยใช้โคลงสองสุภาพ
สัมผัส คำสุดท้ายของวรรคหน้าส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๑ หรือ๒ หรือ๓ ของวรรคต่อไป และตอนจบสัมผัสแบบโคลงสองสุภาพ
ร่ายสุภาพ
การอ่านร่ายสุภาพ
๑. การแบ่งช่วงเสียงหรือจังหวะ วรรคหนึ่งมี ๕ คำแบ่งช่วงเสียง ๒ ช่วง ๐๐๐/๐๐ ในบางแห่งอาจแบ่งเป็น ๐๐/๐๐๐ เพื่อไม่ให้คำฉีก
ศรีสิทธิ์/พิศาลภพ/ เลอหล้าลบ/ล่มสวรรค์/ จรรโลงโลก/กว่ากว้าง/
แผนแผ่นผ้าง/เมืองเมรุ/ ศรีอยุธเยนทร์/แย้มฟ้า/ แจกแสงจ้า/เจิดจันทร์/
เพียงรพิพรรณ/ผ่องด้าว/ ขุนหาญห้าว/แหนบาท/
สระทุกข์ราษฎร์/รอนเสี้ยน/
(นิราศนรินทร์ : นรินทร์ธิเบศร์)
การอ่านร่ายสุภาพ
๒. การเอื้อนเสียงและทอดเสียง การอ่านร่ายเมื่ออ่านถึงคำรับสัมผัส ผู้อ่านต้องเน้นเสียงหรือทอดเสียงให้เหมาะสมกับเนื้อความ และต้องทอดเสียงท้ายวรรคทุกวรรค เมื่ออ่านถึงตอนจบซึ่งจบด้วยโคลงสองให้เอื้อนเสียงท้ายวรรคให้ยาวนานกว่าทอดเสียงท้ายวรรคอื่นๆ เพื่อให้ผู้ฟังทราบว่าเรื่องที่ฟังอยู่กำลังจะจบ
ศรีสิทธิ์/พิศาลภพ/ เลอหล้าลบ/ล่มสวรรค์/ จรรโลงโลก/กว่ากว้าง/
แผนแผ่นผ้าง/เมืองเมรุ/ ศรีอยุธเยนทร์/แย้มฟ้า/ แจกแสงจ้า/เจิดจันทร์/
เพียงรพิพรรณ/ผ่องด้าว/ ขุนหาญห้าว/แหนบาท/ สระทุกข์ราษฎร์/รอนเสี้ยน/
ส่ายเศิกเหลี้ยน/ล่งหล้า/ ราญราบหน้า/เภริน/ เข็ญข่าวยิน/ยอบตัว/
ควบค้อมหัว/ไหว้ละล้าว/ ทุกไทน้าว/มาลย์น้อม/ ขอออกอ้อม/มาอ่อน/
ผ่อนแผ่นดิน/ให้ผาย/ ขยาย/แผ่นฟ้าให้แผ้ว/ เลี้ยงทแกล้ว/ให้กล้า/
พระยศไท้/เทิดฟ้า/ เฟื่องฟุ้ง/ทศธรรม// ท่านแฮ
(นิราศนรินทร์ : นรินทร์ธิเบศร์)
โคลงสี่สุภาพ
โคลงสี่สุภาพ
โคลงสี่สุภาพ
คณะ
- โคลงสี่สุภาพบทหนึ่งมี ๔ บาท
โคลงสี่สุภาพ
สัมผัส สัมผัสนอกหรือสัมผัสบังคับของโคลงสี่สุภาพ คือ
- คำท้ายในบาทแรกส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๕ ของบาทที่สองและสาม - คำท้ายของบาทที่สองส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๕ ของบาทที่สี่
- สัมผัสในของโคลงสี่สุภาพนิยมใช้สัมผัสอักษรมากกว่าสัมผัสสระ
โคลงสี่สุภาพ
รูปวรรณยุกต์ บทร้อยกรองประเภทโคลงจะมีลักษณะบังคับเพิ่มเติมจากบทร้อยกรองประเภทอื่นตรงที่มีการบังคับคำที่มีรูปวรรณยุกต์เอกและโทด้วย ในโคลงสี่สุภาพนั้นมีการบังคับคำที่มี
รูปวรรณยุกต์เอกจำนวน ๗ ที่ และคำที่มีรูปวรรณยุกต์โทจำนวน ๔ ที่
การอ่านโคลงสี่สุภาพ
๑. การแบ่งช่วงเสียง หรือจังหวะของโคลงสี่สุภาพ
วรรคหน้า ๕ คำ อ่านแบ่งเสียง ๒ ช่วง เป็น ๐๐/๐๐๐ หรือ ๐๐๐/๐๐
วรรคหลัง ๒ คำ อ่าน ๑ ช่วง ถ้ามีสร้อย เพิ่มอีก ๑ ช่วง จะเป็น ๒ ช่วง
วรรคหลังบาทที่สี่ มี ๔ คำ อ่านแบ่งเป็น ๒ ช่วง เป็น ๐๐/๐๐
เสียงลือ/เสียงเล่าอ้าง// อันใด/พี่เอย// บาทที่ ๑
เสียงย่อม/ยอยศใคร// ทั่วหล้า// บาทที่ ๒
สองเขือ/พี่หลับใหล// ลืมตื่น/ฤๅพี่// บาทที่ ๓
สองพี่/คิดเองอ้า// อย่าได้/ถามเผือ// บาทที่ ๔
๒. การเอื้อนเสียงและทอดเสียง นิยมอ่านเอื้อนเสียงท้ายวรรคแรกของแต่ละบาทและในบทที่ ๒ อาจเอื้อนเสียงได้ถึงคำที่ ๑ คำที่ ๒ ของวรรคที่สองและบาทที่สี่ ระหว่างคำที่ ๒ กับคำที่ ๓ ของวรรคที่สอง และทอดเสียงตามตำแหน่งรับสัมผัส
การอ่านโคลงสี่สุภาพ (ต่อ)
๓. การอ่านออกเสียงโคลงสี่สุภาพที่มีการใช้คำยัติภังค์
ต้องพิจารณาคำที่ใช้ในโคลงให้เข้าใจ หากพบคำเดียวกันเขียนแยกวรรคกันจะต้องอ่านคำที่แยกนั้นให้ผู้ฟังทราบว่าเป็นคำใด
อยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤๅ
สิงหาสน์ปรางรัตน์บรร - เจิดหล้า
บุญเพรงพระหากสรรค์ ศาสตร์รุ่ง เรืองแฮ
บังอบายเบิกฟ้า ฝึกฟื้นใจเมือง
การอ่านโคลงสี่สุภาพ (ต่อ)
ภาระงาน
ให้นักเรียนเขียนแผนผังความคิด
เรื่องการออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง
ส่งวันจันทร์ ที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๗