1 of 33

2 of 33

3 of 33

ระบบปฏิบัติการเครือข่ายหรือ NOS (Network operating System) เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกออกแบบมาสำหรับจัดการงานด้านการติดต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ และช่วยให้คอมพิวเตอร์ที่ต่ออยู่กับเครือข่ายสามารถใช้อุปกรณ์ร่วมกันได้

4 of 33

การเลือกใช้ระบบปฏิบัติการเครือข่ายอาจมีผลต่อการดูแลและจัดการระบบ แอพพลิเคชัน โครงสร้างของเครือข่าย รวมถึงระบบการรักษาความปลอดภัยข้อมูลดังนั้นสิ่งที่ควรพิจารณาเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจมีดังนี้

1. การบริการจัดเก็บไฟล์และการพิมพ์

2. การบริการดูแลและจัดการระบบ

3. การบริการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

4. การบริการอินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ต

5. การบริการ MultiProcessing และ Clustering Service

6. บริการอื่น ๆ ที่ช่วยให้ระบบปฏิบัติการเครือข่ายมีความหลากหลายยิ่งขึ้น เช่น

การให้บริการฐานข้อมูล

นอกจากนั้นระบบปฏิบัติการเครือข่ายจะต้องมีความน่าเชื่อถือ มีความสามารถในการแก้ไขข้อผิดพลาด และสามารถกู้คืนจากความเสียหายได้อย่างรวดเร็ว

5 of 33

7.2.1 ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows Server)

ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows Server) เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับเครื่องที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องแม่ข่าย เช่น File Server, Database Server, Web Server ของบริษัท Microsoft

สัญลักษณ์ระบบปฏิบัติการ Windows Server

6 of 33

7.2.2 ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ (UNIX)

ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ (UNIX) เป็นระบบปฏิบัติการอเนกประสงค์ที่เป็นทั้งแบบ Multitasking และ Multiuser ในปัจจุบันระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทในองค์กรมากขึ้น

สัญลักษณ์ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์

7 of 33

7.2.3 ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์

ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ (Linux) เป็นระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ประเภทหนึ่ง เป็นระบบปฏิบัติการประเภทฟรีแวร์ที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายเป็นระบบปฏิบัติการเช่นเดียวกับดอส วินโดวส์ หรือยูนิกซ์ เป็น

Kernel เป็นส่วนสำคัญของระบบปฏิบัติการ ที่ทำหน้าที่ดูแลบริหารทรัพยากรของระบบ และติดต่อกับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึ่งถ้ามีเพียงเคอร์เนลอย่างเดียวย่อมไม่สามารถทำงานทุกอย่างได้ครบถ้วน จึงต้องอาศัยซอฟต์แวร์อื่น ๆ เพื่อประกอบกันเป็นระบบปฏิบัติการที่สมบูรณ์

8 of 33

ลีนุกซ์ดิสทริบิวชั่น (Linux Distribution) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ดังนี้

1. RedHatLinux เป็น LinuxDistribution

2. Slackware Linux เป็น LinuxDistribution ที่เก่าแก่มากที่สุด มีรูปแบบการติดตั้งและใช้� งานแบบเท็กซ์โหมดเป็นหลัก

สัญลักษณ์ระบบปฏิบัติการ RedHatLinux

สัญลักษณ์ระบบปฏิบัติการSlackware Linux

9 of 33

3. Mandrake Linux ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นชื่อ Mandriva Linux เป็น LinuxDistribution

4. Debian Linux เป็น LinuxDistribution ที่มาจากผู้ก่อตั้งคือ Deb และ Ian Murdock เป็น� Distribution ที่พัฒนาหลายอย่าง เช่น มีระบบจัดการซอฟต์แวร์แพคเกจ

สัญลักษณ์ระบบปฏิบัติการ Mandrake Linux

สัญลักษณ์ระบบปฏิบัติการ Debian Linux

10 of 33

5. SuSE Linux เป็นLinuxDistribution ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเยอรมัน เป็นระบบ � ปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมในแถบยุโรป

6. Ubuntu คือ ระบบปฎิบัติการคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในตระกูลเดียวกับ Linux ที่เป็น Open � Sourceภายใต้สัญญาอนุญาติแบบ GNU/GPL สามารถนำ Linux ตัวนี้ไปใช้ปรับปรุง� เปลี่ยนแปลงได้อย่างเสรี ไม่มีค่าลิขสิทธิ์

สัญลักษณ์ระบบปฏิบัติการ SuSE Linux

สัญลักษณ์ระบบปฏิบัติการUbuntu

11 of 33

7. CentOS เป็น Linux ในระดับ Enterprise ที่มีเป้าหมายหลักในเรื่องความเสถียรเพื่อ� ใช้กับงานในระดับองค์กร CentOS

CentOS เป็นการเอา Source Code ของ redhat Enterprise ซึ่งเป็น Open Source มา Compile ใหม่และเพิ่มเติมบางอย่างลงไป

สัญลักษณ์ระบบปฏิบัติการCentOS

12 of 33

7.2.4 ระบบปฏิบัติการ Novell Netware

ระบบปฏิบัติการ NetWare เป็นระบบปฏิบัติการเครือข่ายขนาด 32 บิต ที่สนับสนุนการทำงานของ Windows, UNIX และ Mac OS

สัญลักษณ์ระบบปฏิบัติการNovell Netware

13 of 33

7.2.5 ระบบปฏิบัติการเครือข่ายแบบอื่น

ระบบปฏิบัติการอื่นที่ใช้ในการจัดการระบบเครือข่ายได้ เช่น AppleTalk, Vines และOS/2 Warp ที่เป็นระบบปฏิบัติการเครือข่ายที่บริษัทไอบีเอ็ม พัฒนาขึ้นสำหรับการค้าขายในยุคดิจิตอลซึ่งไม่ประสบความสำเร็จ

สัญลักษณ์ระบบปฏิบัติการ OS/2 Warp

14 of 33

CentOS ย่อมาจาก Community ENTerprise Operating System เป็นระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ที่พัฒนามาจาก RedHat Enterprise Linux (RHEL) โดยนำเอาซอร์สโค้ดต้นฉบับของ RedHat มาทำการคอมไพล์ใหม่โดยเน้นพัฒนาเป็นซอฟต์แวร์ Open Source ที่ถือลิขสิทธิ์แบบ GNU General Public License

15 of 33

7.3.1 คุณสมบัติระบบปฏิบัติการ CentOS

ระบบปฏิบัติการ CentOS มีความเหมาะสมที่จะนำมาทำเป็นเซิร์ฟเวอร์ใช้งานภายในองค์กร ดังเหตุผลต่อไปนี้

1. เพื่อประหยัดงบประมาณขององค์กร

2. เพื่อนำมาทำเครื่องแม่ข่ายบริการงานต่าง ๆ ในองค์กร

3. เพื่อนำมาทำเป็นเครื่องแม่ข่ายสำหรับจ่ายไอพีปลอม (Private IP Address) ให้เครื่องลูกข่ายในองค์กร รวมทั้งการตั้งเป็นระบบเก็บ Log Files

16 of 33

7.3.2 การติดตั้งระบบปฏิบัติการ CentOS

ระบบปฏิบัติการ CentOS มีแพ็กเกจที่สามารถนำมาติดตั้งใช้งานได้ทันทีจำนวนมาก ส่วนแพ็กเกจอื่นสามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ http://www.rpmfind.net

การติดตั้ง CentOS สามารถดาวน์โหลดตัวติดตั้งแบบ image file แล้วมาทำการเขียนแผ่น CD/DVD ใช้งานเอง สามารถดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ http://isoredirect.centos.org/centos/5/isos/i386/

17 of 33

1. การติดตั้งระบบปฏิบัติการ Linux แยกกับระบบปฏิบัติการ Windows

2. การติดตั้งระบบปฏิบัติการLinux ผ่านทางโปรแกรม Virtualization

3. การติดตั้งระบบปฏิบัติการ Linux เพื่อใช้งานจริง สามารถแบ่งพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ได้ 2 ลักษณะ คือ

(1) การแบ่งฮาร์ดดิสก์เป็น 2 พาร์ติชั่น

(2) การแบ่งฮาร์ดดิสก์โดยแบ่งพาร์ติชั่นแบบแยกอิสระ

การติดตั้งสามารถติดตั้งใช้งานได้หลายแนวทาง ดังนี้

18 of 33

7.3.3 ขั้นตอนการติดตั้ง Linux CentOS 7.0

ระบบปฏิบัติการ CentOSสามารถดาวโหลดได้จากลิงค์

http://isoredirect.centos.org/ centos/7/isos/x86_64/CentOS–7–x86_64–DVD–1511.iso

แล้วทำการเบิร์นลงแผ่น DVD จากนั้นจึงนำมา ใช้ในการติดตั้ง CentOS 7.0 ซึ่งมีวิธีการดังต่อไปนี้

1. กำหนดค่าใน Bios ให้บูทคอมพิวเตอร์จากแผ่น DVD

2. คอมพิวเตอร์จะบูทเครื่องจากแผ่น DVD และปรากฏหน้าแรกขึ้นมา ให้เลือก Install CentOS 7

เมนูการติดตั้ง CentOS 7

19 of 33

3. จะปรากฏหน้าต่าง Welcome ให้เลือกภาษาที่ต้องการและคลิกปุ่ม Continue

หน้าต่าง Welcome และการเลือกภาษา

20 of 33

4. ในหน้าต่าง Installation Summary เป็นการแสดงภาพรวมของการติดตั้ง ซึ่งโดยปกติการติดตั้งจะทำการจัดพาร์ทิชั่น (Partitioning) อัตโนมัติบนฮาร์ดดิสก์แต่แก้ไขได้โดยคลิกที่ "Installation Destination"

หน้าต่าง Installation Summary

21 of 33

5. จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Installation Destination ให้คลิกฮาร์ดดิสก์ที่ต้องการติดตั้ง และในกลุ่มเมนู Other Storage Options ให้คลิกเลือก I will configure partitioning จากนั้นคลิกปุ่ม Done

หน้าต่าง Installation Destination

22 of 33

6. จากนั้นให้สร้างพาร์ทิชั่นที่ต้องการ แล้วคลิกปุ่ม Done

การแบ่งพาร์ทิชั่น

23 of 33

7. จะปรากฏหน้าต่าง Summary of Changes สรุปการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด จากนั้นให้คลิกปุ่ม Accept changes

หน้าต่าง Summary of Changes

24 of 33

8. ปรากฏหน้าต่าง Date & Time ให้กำหนดวันที่และเวลาด้วยโซนที่ต้องการ แล้วคลิกปุ่มDone

หน้าต่าง Date & Time

25 of 33

9. ในหน้าต่าง Network & Hostname ให้กำหนดค่า Network และ Hostname ที่ต้องการ โดยกดที่ + เพิ่มการกำหนด network แล้วคลิกปุ่ม Configure… เพื่อกำหนดค่าของ Networkแล้วคลิกปุ่มDone

หน้าต่าง Network & Hostname

26 of 33

10. เลือก Software ที่ต้องการติดตั้ง ในหน้าต่างSoftware Selection โดยคลิกเลือกกลุ่ม Software หลักในช่อง Base Environment ด้านซ้าย แล้วคลิกเลือกตัวเลือกย่อยในช่อง Add–Ons for Selected Environment ด้านขวามือ แล้วคลิกปุ่ม Done

หน้าต่าง Software Selection

27 of 33

11. หลังจากกำหนดค่าที่จำเป็นเสร็จเรียบร้อย คลิกที่ Begin Installation เพื่อเริ่มติดตั้ง

Installation Summary และปุ่มเริ่มติดตั้ง

28 of 33

12. กำหนดค่า root password แล้วคลิกปุ่ม Done

การกำหนด Root Password

29 of 33

13. สร้าง User โดยกำหนดชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่าน แล้วคลิกปุ่ม Done

การสร้างผู้ใช้

30 of 33

14. จากนั้นจะเริ่มติดตั้งโปรแกรม ซึ่งสามารถดูความคืบหน้าได้จากแถบการติดตั้งด้านล่าง

ความคืบหน้าของการติดตั้ง

31 of 33

15. เมื่อติดตั้งเสร็จ ระบบจะต้องรีบูทเครื่องใหม่ให้คลิกปุ่ม Reboot

สถานะเมื่อติดตั้งสำเร็จ

32 of 33

16. เมื่อ Reboot เครื่องแล้ว จะปรากฏหน้า Log In สำหรับเข้าใช้ CentOS ครั้งแรก ให้คลิกเครื่องหมาย/หน้า I accept the license agreement แล้วคลิกปุ่ม Done

ข้อตกลงการใช้งาน

33 of 33

17. จากนั้นจะปรากฏหน้าจอ Desktop ของ CentOS 7.0

หน้าจอ Desktop ของ CentOS 7.0