Present Simple Tense
สื่อประกอบการเรียนการสอนวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 �โรงเรียนประถมสาธิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา �ปีการศึกษา 2550
นวัตถกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชานวัตถกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา�เสนอ ผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญเที่ยง จุ้ยเจริญ �โดย นายเพชรพนม จิตมั่น เลขที่ 14 ห้อง 4 �โครงการพัฒนาครูประจำการให้ได้รับวุฒิประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีครู ภาคเรียนที่ 2/2550
PRETEST: Present Simple Tense
1. I sometimes __________ to school. (walk, walked, walks)
2. My friend never __________ to school. (come, comes, came)
3. They usually ____________ basketball. (play, plays, played)
4. He often __________ tennis. (play, played, plays)
5. Sue rarely _________ coffee. (drink, drank, drinks)
6. My father and I always _______ my grandfather. (visit, visits, visited)
7. Jimmy doesn’t ________ guitar. (like, likes, liked)
8. You don’t ________ television everyday. (watches, watched, watch)
9. Joe and Jane __________ violin. (drive, drove, drives)
10. Does she _________ to the radio everyday. (listens, listen, listened)
การใช้ Present Simple Tense
�ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
หลักการใช้
A. ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริง สัจธรรม หรือ�ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น
-The sun rises in the east and sets in�the west.
- A dog has four legs.
หลักการใช้
B. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนเป็นนิสัยในปัจจุบัน�และ Adverb of Frequency (กริยาวิเศษณ์�บอกความถี่) เช่น always, sometimes,�usually, etc. อยู่ในประโยคด้วย เช่น
Jane always wakes up late.
I sometimes walk to school.
หลักการใช้
C:ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นกิจวัตรประจำวัน และจะมี Adverb of�time (กริยาวิเศษณ์บอกเวลา) เช่น every day, every week,�every ten minutes, etc. อยู่ในประโยคด้วย เช่น
Moss’s father reads the newspaper every day.
The bus leaves the terminal every ten minutes.
โครงสร้างประโยคบอกเล่า:(Affirmative Sentence)
Structure = Subject + verb 1 (s,es)
Examples Sunee goes to school every weekday.
Jenny always drinks milk before going to bed.
โครงสร้างประโยคปฏิเสธ: (Negative Sentence)
Structure = Subject + does/do + not + verb1�(doesn’t/ don’t)
Examples Sunee doesn’t go to school every�weekday.
Jenny doesn’t drink milk before�going to bed.
Tip
แต่ถ้าประโยคไหนที่มี Verb to be ( is, am, are) มาเป็นกริยามาในประโยค นักเรียนไม่ต้องเอาเจ้า Verb to do (do, does) เข้ามาช่วยนะขอรับ เดี๋ยวมันจะวางมวย เอ้ย...จะผิดเอานะครับ ให้นักเรียนเพียงเติม not หลัง Verb to be (is, am, are) เท่านั้น เช่น Moss is a policeman. ถ้าจะทำเป็นประโยคปฏิเสธก็เพียงแค่เติม not เข้าไปหลัง is ก็เป็น Moss is not a policeman. แค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อยโรงเรียนประถมสาธิต
โครงสร้างประโยคคำถาม: (Interrogative Sentence)
Structure = Do / Does + Subject + Verb1?
Examples Does Sunee go to school every weekday?
Does Jenny drink milk before going�to bed?
การตอบคำถามใน Present Simple Tense
Examples Does Sunee go to school every weekday?
Yes, she does.�No, she doesn’t.
Tip
มีข้อสำคัญอีกประการหนึ่งที่นักเรียนควรใส่ใจในการเรียนรู้เรื่อง Present Simple Tense คือ การใช้กริยา�ให้สอดคล้องกับประธาน เพราะใน Present Simple Tense นั้นจะมีการเติม s, es ที่กริยาของประโยค�นั้น ๆ ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับประธานของประโยคด้วย
Tip
เขามีหลักการอยู่ว่า “ใน Present Simple Tense ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ (Singular) บุรุษที่ 3 �(Third Person) กริยาต้องเติม s หรือ es แฮ่ ๆๆๆ นักเรียนอาจจะเริ่มมีมี ง. งู สองตัวซ้อน ( งง ) ในสมองกันแล้วล่ะซิ....เอ...อะไรคือบุรุษที่ 3???? เอาล่ะ..มาลองอ่านคำอธิบายกันต่อสักนิด เดี๋ยวจะเข้าใจ
Tip
Persons (บุรุษ) | Singular (เอกพจน์) | Plural (พหูพจน์) |
First Person (บุรุษที่ 1) | I | We |
Second Person (บุรุษที่ 2) | You | You |
Third Person �(บุรุษที่ 3) | He�She�It | They |
Tip
เมื่อดูจากตารางดังกล่าว นักเรียนจะเห็นว่าเจ้าบุรุษที่ 3 ที่ครูกล่าวถึงนั้นมีอยู่ 4 ตัวด้วยกัน คือ He, She, It และ They แต่ตามหลักของการเติม s, es ที่กริยามีอยู่ว่า “ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ บุรุษที่ 3 กริยาต้องเติม s, หรือ es” ดังนั้นเราจะเห็นว่า กฎเน้นที่ ประธานเอกพจน์ บุรุษที่ 3 เท่านั้น เราจึงเหลือตัวเลือกเพียง He, She, It เท่านั้น คงจะเข้าใจบ้างแล้วนะครับ มาสรุปง่าย คือ
Tip
I, We, You, They | Verb 1 |
He, She, It | Verb 1 เติม s, หรือ es |
หลักในการเติม s และ es ที่กริยา
A. กริยาธรรมดา ให้เติม s ที่กริยาได้เลย เช่น
walk walks
ring rings
หลักในการเติม s และ es ที่กริยา
B: กริยาที่ลงท้ายด้วย ss, sh, ch, x, o ให้เติม es ที่กริยา เช่น
pass passes
wash washes
watch watches
box boxes
go goes
หลักในการเติม s และ es ที่กริยา
C: กริยาที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es เช่น
cry cries
try tries
fly flies
หลักในการเติม s และ es ที่กริยา
D: คำกริยาที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็น สระ (a, e, i, o, u) ให้เติม s ที่ท้ายกริยาตัวนั้นได้เลย เช่น
stay stays
play plays
lay lays
Adverb of Frequency (กริยาวิเศษณ์บอกความถี่)
always เสมอ ๆ
usually ตามปกติ
sometimes บางครั้ง. บางเวลา
often บ่อย ๆ
generally โดยทั่วไป
seldom นาน ๆ ครั้ง, ไม่ค่อยจะ
never ไม่เคย
Adverb of Time กริยาวิเศษณ์บอกเวลา
every day (week, month, year) ทุก ๆ วัน (สัปดาห์, เดือน, ปี)
every hour ทุกชั่วโมง �once a day (week, month, year) หนึ่งครั้งต่อวัน (สัปดาห์, เดือน, ปี)
now and again ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
POST TEST: Present Simple Tense
1. I sometimes __________ to school. (walk, walked, walks)
2. My friend never __________ to school. (come, comes, came)
3. They usually ____________ basketball. (play, plays, played)
4. He often __________ tennis. (play, played, plays)
5. Sue rarely _________ coffee. (drink, drank, drinks)
6. My father and I always _______ my grandfather. (visit, visits, visited)
7. Jimmy doesn’t ________ guitar. (like, likes, liked)
8. You don’t ________ television everyday. (watches, watched, watch)
9. Joe and Jane __________ violin. (drive, drove, drives)
10. Does she _________ to the radio everyday. (listens, listen, listened)
สรุปการประเมิน
การใช้นวัตถกรรมการเรียนภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
เรื่อง Present Simple Tense
10.18
16.66
73.14 %
ความน่าสนใจ
4
1.85 %
7.40 %
90.74 %
ความเข้าใจในเนื้อหาสาระ
3
16.66 %
28.70 %
54.62 %
การออกแบบ
2
4.62 %
25.92 %
69.44 %
เนื้อหาสาระ
1
ควรปรับปรุง
ปานกลาง
ดี
ระดับความพึงพอใจ
หัวข้อ
ลำดับ
สรุปการประเมิน
การใช้นวัตถกรรมการเรียนภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
เรื่อง Present Simple Tense
11
18
79
ความน่าสนใจ
4
2
8
98
ความเข้าใจในเนื้อหาสาระ
3
18
31
59
การออกแบบ
2
5
28
75
เนื้อหาสาระ
1
ควรปรับปรุง
ปานกลาง
ดี
ระดับความพึงพอใจ
หัวข้อ
ลำดับ
หมายเหตุ...จากจำนวนนักเรียน 108 คน�