1 of 25

Present Simple Tense

สื่อประกอบการเรียนการสอนวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 �โรงเรียนประถมสาธิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา �ปีการศึกษา 2550

นวัตถกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชานวัตถกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา�เสนอ ผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญเที่ยง จุ้ยเจริญ �โดย นายเพชรพนม จิตมั่น เลขที่ 14 ห้อง 4 �โครงการพัฒนาครูประจำการให้ได้รับวุฒิประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีครู ภาคเรียนที่ 2/2550

2 of 25

PRETEST: Present Simple Tense

1. I sometimes __________ to school. (walk, walked, walks)

2. My friend never __________ to school. (come, comes, came)

3. They usually ____________ basketball. (play, plays, played)

4. He often __________ tennis. (play, played, plays)

5. Sue rarely _________ coffee. (drink, drank, drinks)

6. My father and I always _______ my grandfather. (visit, visits, visited)

7. Jimmy doesn’t ________ guitar. (like, likes, liked)

8. You don’t ________ television everyday. (watches, watched, watch)

9. Joe and Jane __________ violin. (drive, drove, drives)

10. Does she _________ to the radio everyday. (listens, listen, listened)

3 of 25

การใช้ Present Simple Tense

ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

4 of 25

หลักการใช้

A. ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริง สัจธรรม หรือ�ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น

-The sun rises in the east and sets in�the west.

- A dog has four legs.

5 of 25

หลักการใช้

B. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนเป็นนิสัยในปัจจุบัน�และ Adverb of Frequency (กริยาวิเศษณ์�บอกความถี่) เช่น always, sometimes,�usually, etc. อยู่ในประโยคด้วย เช่น

Jane always wakes up late.

I sometimes walk to school.

6 of 25

หลักการใช้

C:ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นกิจวัตรประจำวัน และจะมี Adverb of�time (กริยาวิเศษณ์บอกเวลา) เช่น every day, every week,�every ten minutes, etc. อยู่ในประโยคด้วย เช่น

Moss’s father reads the newspaper every day.

The bus leaves the terminal every ten minutes.

7 of 25

โครงสร้างประโยคบอกเล่า:(Affirmative Sentence)

Structure = Subject + verb 1 (s,es)

Examples Sunee goes to school every weekday.

Jenny always drinks milk before going to bed.

8 of 25

โครงสร้างประโยคปฏิเสธ: (Negative Sentence)

Structure = Subject + does/do + not + verb1�(doesn’t/ don’t)

Examples Sunee doesn’t go to school every�weekday.

Jenny doesn’t drink milk before�going to bed.

9 of 25

Tip

แต่ถ้าประโยคไหนที่มี Verb to be ( is, am, are) มาเป็นกริยามาในประโยค นักเรียนไม่ต้องเอาเจ้า Verb to do (do, does) เข้ามาช่วยนะขอรับ เดี๋ยวมันจะวางมวย เอ้ย...จะผิดเอานะครับ ให้นักเรียนเพียงเติม not หลัง Verb to be (is, am, are) เท่านั้น เช่น Moss is a policeman. ถ้าจะทำเป็นประโยคปฏิเสธก็เพียงแค่เติม not เข้าไปหลัง is ก็เป็น Moss is not a policeman. แค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อยโรงเรียนประถมสาธิต

10 of 25

โครงสร้างประโยคคำถาม: (Interrogative Sentence)

Structure = Do / Does + Subject + Verb1?

Examples Does Sunee go to school every weekday?

Does Jenny drink milk before going�to bed?

11 of 25

การตอบคำถามใน Present Simple Tense

Examples Does Sunee go to school every weekday?

Yes, she does.�No, she doesn’t.

12 of 25

Tip

มีข้อสำคัญอีกประการหนึ่งที่นักเรียนควรใส่ใจในการเรียนรู้เรื่อง Present Simple Tense คือ การใช้กริยา�ให้สอดคล้องกับประธาน เพราะใน Present Simple Tense นั้นจะมีการเติม s, es ที่กริยาของประโยค�นั้น ๆ ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับประธานของประโยคด้วย

13 of 25

Tip

เขามีหลักการอยู่ว่า “ใน Present Simple Tense ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ (Singular) บุรุษที่ 3 �(Third Person) กริยาต้องเติม s หรือ es แฮ่ ๆๆๆ นักเรียนอาจจะเริ่มมีมี ง. งู สองตัวซ้อน ( งง ) ในสมองกันแล้วล่ะซิ....เอ...อะไรคือบุรุษที่ 3???? เอาล่ะ..มาลองอ่านคำอธิบายกันต่อสักนิด เดี๋ยวจะเข้าใจ

14 of 25

Tip

Persons (บุรุษ)

Singular (เอกพจน์)

Plural (พหูพจน์)

First Person (บุรุษที่ 1)

I

We

Second Person (บุรุษที่ 2)

You

You

Third Person �(บุรุษที่ 3)

He�She�It

They

15 of 25

Tip

เมื่อดูจากตารางดังกล่าว นักเรียนจะเห็นว่าเจ้าบุรุษที่ 3 ที่ครูกล่าวถึงนั้นมีอยู่ 4 ตัวด้วยกัน คือ He, She, It และ They แต่ตามหลักของการเติม s, es ที่กริยามีอยู่ว่า “ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ บุรุษที่ 3 กริยาต้องเติม s, หรือ es” ดังนั้นเราจะเห็นว่า กฎเน้นที่ ประธานเอกพจน์ บุรุษที่ 3 เท่านั้น เราจึงเหลือตัวเลือกเพียง He, She, It เท่านั้น คงจะเข้าใจบ้างแล้วนะครับ มาสรุปง่าย คือ

16 of 25

Tip

I, We, You, They

Verb 1

He, She, It

Verb 1 เติม s, หรือ es

17 of 25

หลักในการเติม s และ es ที่กริยา

A. กริยาธรรมดา ให้เติม s ที่กริยาได้เลย เช่น

walk walks

ring rings

18 of 25

หลักในการเติม s และ es ที่กริยา

B: กริยาที่ลงท้ายด้วย ss, sh, ch, x, o ให้เติม es ที่กริยา เช่น

pass passes

wash washes

watch watches

box boxes

go goes

19 of 25

หลักในการเติม s และ es ที่กริยา

C: กริยาที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es เช่น

cry cries

try tries

fly flies

20 of 25

หลักในการเติม s และ es ที่กริยา

D: คำกริยาที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็น สระ (a, e, i, o, u) ให้เติม s ที่ท้ายกริยาตัวนั้นได้เลย เช่น

stay stays

play plays

lay lays

21 of 25

Adverb of Frequency (กริยาวิเศษณ์บอกความถี่)

always เสมอ ๆ

usually ตามปกติ

sometimes บางครั้ง. บางเวลา

often บ่อย ๆ

generally โดยทั่วไป

seldom นาน ๆ ครั้ง, ไม่ค่อยจะ

never ไม่เคย

22 of 25

Adverb of Time กริยาวิเศษณ์บอกเวลา

every day (week, month, year) ทุก ๆ วัน (สัปดาห์, เดือน, ปี)

every hour ทุกชั่วโมง �once a day (week, month, year) หนึ่งครั้งต่อวัน (สัปดาห์, เดือน, ปี)

now and again ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

23 of 25

POST TEST: Present Simple Tense

1. I sometimes __________ to school. (walk, walked, walks)

2. My friend never __________ to school. (come, comes, came)

3. They usually ____________ basketball. (play, plays, played)

4. He often __________ tennis. (play, played, plays)

5. Sue rarely _________ coffee. (drink, drank, drinks)

6. My father and I always _______ my grandfather. (visit, visits, visited)

7. Jimmy doesn’t ________ guitar. (like, likes, liked)

8. You don’t ________ television everyday. (watches, watched, watch)

9. Joe and Jane __________ violin. (drive, drove, drives)

10. Does she _________ to the radio everyday. (listens, listen, listened)

24 of 25

สรุปการประเมิน

การใช้นวัตถกรรมการเรียนภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

เรื่อง Present Simple Tense

10.18

16.66

73.14 %

ความน่าสนใจ

4

1.85 %

7.40 %

90.74 %

ความเข้าใจในเนื้อหาสาระ

3

16.66 %

28.70 %

54.62 %

การออกแบบ

2

4.62 %

25.92 %

69.44 %

เนื้อหาสาระ

1

ควรปรับปรุง

ปานกลาง

ดี

ระดับความพึงพอใจ

หัวข้อ

ลำดับ

25 of 25

สรุปการประเมิน

การใช้นวัตถกรรมการเรียนภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

เรื่อง Present Simple Tense

11

18

79

ความน่าสนใจ

4

2

8

98

ความเข้าใจในเนื้อหาสาระ

3

18

31

59

การออกแบบ

2

5

28

75

เนื้อหาสาระ

1

ควรปรับปรุง

ปานกลาง

ดี

ระดับความพึงพอใจ

หัวข้อ

ลำดับ

หมายเหตุ...จากจำนวนนักเรียน 108 คน