โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา

ปัญหากลุ่มที่ 12 �เด็กติดเกมมีผลต่อการแสดงพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง

สมาชิกในกลุ่ม

นางสาวพัทธวรรณ ฤกษ์ยาม เลขที่21

​

นางสาวมัณฑนา ศรีนาค เลขที่ 24

​

นางสาวอทิตยา สุทธิช่วยเลขที่25

​

รายละเอียดของข้อมูลที่ศึกษา

• การติดเกมเต็มรูปแบบถือว่าเป็นโรค (ซึ่งเหมือนกับการติดสารเสพติดทั้งหลาย เช่น บุหรี่ สุรา ยาบ้า กัญชา เฮโรอีน) เปรียบคล้ายกับคนติดสารเสพติด พยายามแสวงหามาเสพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เด็กติดเกมก็พยายามแสวงหาการเล่นเกม และต้องเล่นยาวนานมากขึ้น
• หากถูกบังคับให้เลิกหรือหยุดเล่นจะต่อต้าน หรือมีปฏิกิริยาหงุดหงิดไม่พอใจอย่างรุนแรง บางคนถึงขั้น ก้าวร้าว อาละวาด การเล่นเกมของเด็กมีผลกระทบต่อหน้าที่ความรับผิดชอบของเด็ก เช่น เด็กไม่สนใจการเรียน หนีเรียนหรือแอบหนีออกจากบ้านเพื่อจะไปเล่นเกม บางรายอาจมีปัญหาพฤติอื่นๆร่วมด้วย เช่น โกหก ลักขโมย (เพื่อนำเงินไปเล่นเกม) ดื้อต่อต้าน แยกตัว เก็บตัว ฯลฯ �

• สภาพปัญหาการติดเกม 

ผลการสำรวจพ่อแม่ผู้ปกครองโดย NECTEC เมื่อ ปี 2000  พบว่าในครอบครัวไทย

·       มีคอมพิวเตอร์ต่ออินเตอร์เน็ต   27%

·       มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีอินเตอร์เน็ต 23%

·       ไม่มีคอมพิวเตอร์             50%

• ในครอบครัวที่มีคอมพิวเตอร์  ร้อยละ 90  ของเด็กใช้งานเป็นประจำ  และใช้ในกิจกรรมดังนี้ 

·       เล่นเกม ร้อยละ 31  *

·       ทำการบ้าน ร้อยละ  20

·       ท่องเว็บเพื่อความสนุกสนาน  ร้อยละ 13

·       ใช้ซอฟแวร์เพื่อการศึกษา  ร้อยละ 11

·       ค้นข้อมูล  ร้อยละ   3  **

​

​

• การดูแลของผู้ปกครอง  ในการใช้อินเตอร์เน็ต

- ไม่ใกล้ชิดเวลาเด็กใช้อินเตอร์เน็ต  ร้อยละ 45

- ไม่รู้ว่าลูกพบเหตุการณ์ไม่เหมาะสม  ร้อยละ 30

- ไม่เคยคุยกับลูกเรื่องอินเตอร์เน็ต  ร้อยละ   20

• ประเภท เกมที่เด็กเล่น  แยกตามลักษณะเครื่องเล่น

1.  เกมคอมพิวเตอร์  ที่บ้าน ร้านเกม อินเตอร์เน็ต

2.  เกมกด เกมเครื่อง มือถือ

3.  ตู้เกม 

• ชนิดของเกม     แยกตามลักษณะเนื้อหาของเกม  ได้แก่

1. เกมสนุก  ไม่มีสาระ 

2. เกมต่อสู้  มีการทำร้าย  ทำลาย เช่น Raknarok

3.เกมยั่วยุทางเพศ  มีเนื้อหาทางเพศกระตุ้น ยั่วยุให้เกิดความรู้สึกทางเพศ 

4. เกมสร้างสรรค์ ความคิด จินตนาการ วางแผน  เช่น  The Sims

5. เกมวิชาการ ให้ความรู้  

​

�สรุปวิธีการรวบรวมข้อมูล�

สถิติการเล่นเกมของเด็กไทย

• สถิติเหล่านี้แสดงถึงความต้องการในการเล่นเกมในแต่ละครั้งของเด็กไทย

ผลการสำรวจ

สรุปวิธีการแก้ปัญหา

เนื่องจากปัจจุบันเด็กไทยมีการเล่นเกมที่มีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้มีผลกระทบต่อสังคมเป็นอย่างมาก คณะจึงมีความคิดที่จะสร้างเกมที่เกี่ยวกับความรู้ขึ้นมา เพื่อเป็นการเปลี่ยนความคิดให้เด็กๆ หันมาเล่นเกมความรู้ มากว่าการเล่นเกมที่ไร้สาระไปโดยไร้ประโยชน์

เกม ทายความรู้อาเซียน เป็นเกมที่จะสร้างมาเพื่อให้ความรู้ๆสำหรับเด็กๆที่สนใจศึกษา ให้ได้รับความรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ซึ่งคณะคิดว่าสิ่งนี้อาจจะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมในการเล่นเกมของเด็กๆได้

สรุปประโยชน์ที่ได้จาการศึกษาและการนำไปใช้

ได้เรียนรู้วิธีการทำเกม โดยใช้โปรแกรม KODU โดยได้รับความรู้จากการศึกษา และ ผู้ทำคาดหวังว่าเกมที่พวกเราจัดทำนี้จะสามารถนำไปให้เด็กๆได้เล่น เพื่อเป็นการฝึกทักษะทางความรู้ของเด็กๆเกี่ยวกับอาเซียนซึ่งเป็นเรื่องรอบตัวที่ทุกๆคนควรศึกษาและมีความรู้เกี่ยวกับอาเซียนอยู่พอสมควร และช่วยให้เด็กๆเพลิดเพลินและสนุกในการเล่นเกมที่ให้ความรู้เช่นนี้

แหล่งอ้างอิงข้อมูลที่น่าเชื่อถือ

- ปัญหาเด็กติดเกมออนไลน์

หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

- วิธีรักษาเด็กติดเกมอย่างสั้นที่สุด

โดยนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

- การป้องกันและช่วยเหลือเด็กติดเกม

นพ.  พนม  เกตุมาน  สาขาวิชาจิตเวชเด็กและวัยรุ่น  ภาควิชาจิตเวช ศาสตร์  คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล  มหาวิทยาลัยมหิดล

​

ภาคผนวก

ผศ.นพ.ชาญวิทย์ พรนภดล.เด็กติดเกม.[ระบบออนไลน์].แหล่งที่มา

http://www.si.mahidol.ac.th/th/department. (17 พฤษภาคม 2558).

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.เด็กติดเกม. [ระบบออนไลน์].แหล่งที่มา www.ayo.moph.go.th/health/file_upload. (17 พฤษภาคม 2558).

นพ.  พนม  เกตุมาน .การป้องกันและ ช่วยเหลือเด็กติดเกม. [ระบบออนไลน์].แหล่งที่มา

http://www.psyclin.co.th/new_page_46.htm. (17 พฤษภาคม 2558).

นพ.ชาญวิทย์ พรนภดล.สถิติเด็กติดเกม. [ระบบออนไลน์].แหล่งที่มา

http://news.mthai.com/hot-news/general-news/277188.html .(17 พฤษภาคม 2558).