การเดินสายร้อยท่อ
นาย.ณาศิส เลิศตระกูล
ชนิดของท่อ
1. ท่อโลหะหนา ( Rigid Metal Conduit ) R.M.C
2. ท่อโลหะหนาปานกลาง ( Intermediate Metal Conduit ) I.M.C
3. ท่อโลหะบาง ( Electrical Metallic Tubing ) E.M.T
4. ท่อโลหะอ่อน ( Flexible Metallic Conduit )
5. ท่ออโลหะแข็ง ( Rigid Nonmetallic Conduit )
การใช้งาน
ท่อโลหะหนา ท่อโลหะหนาปานกลาง และท่อโลหะบาง เป็นท่อเหล็กอาบสังกะสีเหมือนกัน แต่มีข้อแตกต่างกันตรงที่ความหนาของผนังท่อเพื่อให้เหมาะกับการนำไปใช้งาน ท่อชนิดโลหะหนาเป็นท่อที่มีความมากที่สุดทั้งท่อโลหะหนาและท่อโลหะหนาปานกลางเป็นท่อทำเกลียวได้ทั้งคู่ และมีลักษณะการใช้งานที่สามารถทดแทนกันได้ ข้อกำหนดการใช้งานและการติดตั้งท่อทั้งสามชนิดมีดังนี้
ขนาดของท่อ
ขนาดของท่อที่ผลิตใช้งานและเป็นไปตามข้อกำหนดของการไฟฟ้า ฯ เป็นดังนี้
ขนาดเล็กสุด ท่อต้องมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เล็กกว่า 12 มม. ( ½ นิ้ว ) ขนาดใหญ่สุด ท่อโลหะบาง และท่อโลหะหนาปานกลาง ต้องมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่สุดไม่เกิน 100 มม. ( 4 นิ้ว) ถ้าเป็นท่อโลหะหนาต้องมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่สุด ไม่เกิน 150 มม. ( 6 นิ้ว )
จำนวนสายไฟฟ้า
สายไฟฟ้า จำนวนสายไฟฟ้าในท่อร้อยสายไฟฟ้าต้องไม่เกินที่กำหนดไว้ ตามตารางที่ 3.7
พื้นที่หน้าตัดตัวนำ ไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่หน้าตัดท่อ
พื้นที่หน้าตัดตัวนำรวมฉนวนห่อหุ้ม ไม่เกิน 40 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่หน้าตัดท่อ
ตารางพื้นที่หน้าตัดท่อร้อยสาย
ตารางการติดตั้งสายและท่อ
การต่อสาย
การต่อสาย ให้ต่อได้เฉพาะในกล่องต่อสาย หรือกล่องต่อจุดไฟฟ้าที่สามารถเปิดออกได้สะดวก ปริมาณของสายและฉนวนรวมทั้งหัวต่อสายเมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 75 % ของปริมาตรภายในกล่องต่อสาย หรือกล่องต่อจุดไฟฟ้า
การติดตั้งท่อร้อยสายเข้ากับกล่องต่อสายหรือเครื่องประกอบการเดินท่อ การเดินท่อต้องมีบุชชิ่งเพื่อป้องกันไม่ให้ฉนวนหุ้มสายชำรุด นอกเสียจากว่ากล่องต่อสายหรือเครื่องประกอบการเดินท่อได้ออกแบบมาเพื่อป้องกันการชำรุดเสียหายของฉนวนไว้แล้ว
ท่อโลหะบางห้ามทำเกลียว เพราะการทำเกลียวจะทำให้ท่อขาดได้
มุมดัดโค้งระหว่างจุดดึงสายรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 360 องศา เพราะอาจดึงสายไม่เข้าหรือดึงเข้าไปได้ก็จะดึงสายออกมาไม่ได้ เป็นผลให้การบำรุงรักษารักษาทำได้ยากหรือทำไม่ได้
ห้ามใช้ท่อโลหะบางฝังดินโดยตรง หรือใช้ระบบไฟฟ้าแรงสูง หรือที่ซึ่งอาจเกิดความเสียหายหลังการติดตั้งได้
ท่อโลหะอ่อน
ปกตินิยมเดินเข้าเครื่องจักรหรือโคมไฟฟ้าเนื่องจากสามารถโค้งงอได้สะดวกตามความต้องการใช้งาน และยังใช้งานได้ดีกับเครื่องจักรที่มีอาการสั่นสะเทือน จึงนิยมใช้งานในช่วงความยาวสั้น ๆ ตรงจุดที่ต่อท่อเข้าเครื่องจักร แต่เนื่องจากเป็นท่อที่ไม่กันน้ำในการใช้งานจึงต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วยเป็นสำคัญ มีข้อกำหนดที่สำคัญดังต่อไปนี้
การใช้งาน ท่อชนิดนี้ให้ใช้ในสถานที่แห้งและเข้าถึงได้ และเพื่อป้องกันสายจากความเสียหายทางกายภาพ หรือเพื่อการเดินซ่อนสาย
ท่อโลหะอ่อนห้ามใช้ในกรณีดังต่อไปนี้
1. ในปล่องลิฟต์หรือปล่องขนของ
2. ในห้องแบตเตอรี่ เพราะอาจผุกร่อนได้เนื่องจากไอกรด
3. ในสถานที่อันตราย นอกจากระบุไว้เป็นอย่างอื่น
4. ฝังดิน หรือฝังในคอนกรีต
5. ในสถานที่เปียก นอกจากจะใช้สายไฟชนิดที่เหมาะสมกับสภาพการติดตั้ง และในการติดตั้งท่อโลหะอ่อนต้องป้องกันไม่ให้น้ำเข้าไปในช่องเดินสายที่ท่อโลหะอ่อนนี้ตั้งอยู่
6. ท่อโลหะอ่อนที่มีขนาดเล็กกว่า 12 มม. ยกเว้นท่อโลหะอ่อนที่ประกอบติดมากับกับขั้วหลอดไฟฟ้าและมีความยาวไม่เกิน 1.80 ม.
ท่อโลหะอ่อนกันของเหลว
ท่อโลหะอ่อนกันของเหลว ต่างจากท่อโลหะอ่อนทั่วไปตรงที่ท่อห่อหุ้มด้วยสารพีวีซี หรือ พีอี อีกชั้นหนึ่งเพื่อกันของเหลวหรือน้ำ แต่เนื่องจากสารที่หุ้มนี้จะมีอุณหภูมิใช้งานอยู่ค่าหนึ่ง ในการใช้งานจึงต้องระวังไม่ให้อุณหภูมิโดยรอบ หรืออุณหภูมิใช้งานของสายไฟฟ้าสูงเกินอุณหภูมิใช้งานของท่อ เช่นท่อที่มีอุณหภูมิ 70๐ c จะนำไปใช้ร้อยสายไฟฟ้าชนิดซีวีที่มีอุณหภูมิใช้งาน 90๐ c ไม่ได้แต่ถ้าจะใช้ก็ต้องลดขนาดกระแสลงมาให้อุณหภูมิที่สายไม่เกิน 70 ๐ c
การใช้งาน ท่อชนิดนี้ใช้ในที่ซึ่งสภาพการติดตั้ง การใช้งานและบำรุงรักษาต้องการความอ่อนตัวของท่อหรือเพื่อป้องกันของแข็ง ของเหลว หรือไอ หรือในสถานที่อันตราย
ห้ามใช้ ท่อโลหะอ่อนกันของเหลวห้ามใช้ในที่ซึ่งอาจได้รับความเสียหายทางกายภาพ และที่ซึ่งอุณหภูมิของสายและอุณหภูมิโดยรอบสูงเกินจนทำให้ท่อเสียหาย ในข้อนี้สายไฟฟ้าที่ใช้ต้องมีอุณหภูมิใช้งานไม่เกินอุณหภูมิของท่อที่ทนได้
ขนาด ท่อที่ยอมให้ใช้ได้ต้องมีขนาดไม่เล็กกว่า 12 มม. หรือใหญ่กว่า 102 มม.
ท่ออโลหะแข็ง
ที่มีใช้งานอยู่ทั่วไปได้แก่ท่อ พีวีซี และท่อพีอี ท่อพีวีซีมีคุณสมบัติในการต้านเปลวเพลิง แต่มีข้อเสียที่เมื่อไฟไหม้จะมีก๊าซที่เป็นพิษต่อบุคคลออกมาด้วยและไม่ทนต่อแสงอุลตราไวโอเลตทำให้กรอบเมื่อถูกแดดนาน ๆ สำหรับท่อพีอีเป็นท่อที่ไฟลุกลามได้แต่คงทนต่อแสงอุลตราไวโอเลตจึงเหมาะที่จะใช้ภายนอกอาคารการใช้งานภายในอาคารจึงต้องฝังอยู่ในคอนกรีตหรือฝังดิน
ท่ออโลหะและเครื่องประกอบการเดินท่อต้องใช้วัสดุที่เหมาะสม ทนต่อความชื้น สภาวะอากาศและสารเคมี ทนต่อแรงกระแทกและแรงอัด ไม่บิดเบี้ยวเพราะความร้อนภายใต้สภาวะที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้งาน ในสถานที่ใช้งาน ซึ่งท่อมีโอกาสถูก
แสงแดดโดยตรงต้องใช้ท่อชนิดทนแสงแดดได้ ท่อที่ใช้เหนือดินต้องมีคุณสมบัติต้านเปลวเพลิง ท่อที่ใช้ใต้ดินวัสดุที่ใช้ต้องทนความชื้น ทนสารที่ทำให้ผุกร่อนและมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะทนแรงกระแทกได้โดยไม่เสียหาย ถ้าใช้ฝังดินโดยตรงไม่มีคอนกรีตหุ้มวัสดุที่ใช้ต้องสามารถทนน้ำหนักกดที่อาจเกิดขึ้นภายลังการติดตั้งได้
การใช้งาน
การใช้งาน ท่ออโลหะแข็งมีข้อกำหนดการใช้งานดังนี้
1. เดินซ่อนในผนัง พื้นและเพดาน
2. ในบริเวณที่ทำให้เกิดการผุกร่อนและมีสารเคมีถ้าท่อและเครื่องประกอบการเดินท่อได้ออกแบบไว้สำหรับใช้งานในสภาพดังกล่าว
3. ในที่เปียกหรือชื้นซึ่งได้จัดให้มีการป้องกันน้ำเข้าไปในท่อ
4. ในที่โล่ง ( Exposed ) ซึ่งไม่อาจเกิดความเสียหายทางกายภาพ
5. การติดตั้งใต้ดินควรดูข้อกำหนดในเรื่องการติดใต้ดินประกอบ
ห้ามใช้
ห้ามใช้ ท่ออโลหะแข็งห้ามใช้ในกรณีต่อไปนี้
1.ในสถานที่อันตราย นอกจากจะระบุไว้เป็นอย่าอื่น
2.ใช้เป็นเครื่องแขวนและจับยึดดวงโคม
3.อุณหภูมิโดยรอบหรืออุณหภูมิใช้งานของสายเกินกว่า อุณหภูมิของท่อที่ระบุไว้
4.ท่ออโลหะแข็งที่มีขนาดเล็กกว่า 12 มม.