ผลงานของบุคคลสำคัญในการสร้างสรรค์ชาติไทย
บาทหลวงปาลเลอกัวซ์
บาทหลวงปาลเลอกัวซ์ หรือฌอง แบบตีสต์ ปาลเลอกัวซ์ (พ.ศ. 2348 - 2405) ชาวฝรั่งเศส เป็นบาทหลวงนิกายโรมันคาทอลิกเข้ามาเผยแผ่คริสต์ศาสนาที่เมืองไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2373 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เริ่มแรกท่านพำนักอยู่ที่วัดอัสสัมชัญ ต่อมาได้ย้ายไปตามเมืองต่าง ๆ จนกระทั่งใน พ.ศ. 2381 ได้เป็นสังฆราช ณ วัดคอนเซ็ปชัญ
บาทหลวงปาลเลอกัวซ์ได้ศึกษาภาษาไทยและภาษาบาลีจนมีความรู้ดี รวมทั้งมีความรู้ด้านดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ บาทหลวงปาลเลอกัวซ์ได้สร้างสรรค์ผลงานวิชาความรู้ที่มีคุณค่ายิ่งต่อการศึกษาและประวัติศาสตร์ไทย
ด้านอักษรศาสตร์
บาทหลวงปาลเลอกัวซ์ศึกษาภาษาไทยและบาลีจนมีความรู้แตกฉาน และได้ทำพจนานุกรมภาษาไทยขึ้น โดยมีวชิรญาณเถระ (ต่อมาคือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ได้ทรงช่วยจัดทำด้วย และบาทหลวงปาลเลอกัวซ์ได้ถวายการสอนภาษาละตินให้พระองค์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบความรู้และความคิดของชาวตะวันตก
นอกจากนี้ บาทหลวงปาลเลอกัวซ์ได้เขียนพจนานุกรมสี่ภาษา คือ ภาษาไทย ละติน ฝรั่งเศส อังกฤษ หรือสัพพะ พะจะนะ พาสาไท พิมพ์ขึ้นใน พ.ศ. 2397 เขียนหนังสือไวยากรณ์ภาษาไทยเป็นภาษาฝรั่งเศส และแต่งหนังสือเรื่อง "เล่าเรื่องเมืองสยาม" ทำให้ชาวยุโรปรู้จักเมืองไทยดียิ่งขึ้น
ด้านวิทยาการตะวันตก
บาทหลวงปาลเลอกัวซ์มีความรู้ในด้านภูมิศาสตร์และวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมี และมีความรู้ความชำนาญทางด้านวิชาการถ่ายรูป รวมทั้งเป็นผู้นำวิทยาการถ่ายรูปเข้ามาในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2388 โดยสั่งซื้อกล้องถ่ายรูปมาจากฝรั่งเศส และมีฝีมือในการชุบโลหะ ซึ่งบุตรหลานข้าราชการบางคนได้เรียนรู้วิชาเหล่านี้จากท่าน นอกจากนี้ บาทหลวงปาลเลอกัวซ์ได้สร้างโรงพิมพ์ภายในวัดคอนเซ็ปชัญและจัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์
ด้านศาสนา
บาทหลวงปาลเลอกัวซ์ได้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่คริสตศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย เช่น สร้างสำนักพระสังฆราชเพื่อเผยแผ่คริสต์ศาสนาที่วัดอัสสัมชัญบางรัก และได้ย้ายจากวัดคอนเซ็ปชัญไปอยู่ที่วัดอัสสัมชัญจนกระทั่งมรณภาพ
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
-พระนามเดิม ฉิม หรือ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร
-พระราชสมภพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2310 เมืองสมุทรสงคราม
เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 4 ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกและสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี
-ทรงเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรี เมื่อวันที่ 7 กันยายนพ.ศ. 2352 พระองค์ทรงครองราชย์อยู่เป็นเวลา 15 ปี โดยเสด็จสววรคตเมื่อวันวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 พระชนพรรษา 57 พรรษา
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
-พระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระบรมราชพงษเชษฐมเหศวรสุนทร พระพุทธเลิศหล้านภาลัย
-พระอิสริยยศ พระมหากษัตริย์กรุงรัตนโกสินทร์
-พระปรีชาสามารถ
-ด้านกวีนิพนธ์ "ในรัชกาลที่ 2 นั้น ใครเป็นกวีก็เป็นคนโปรด“ ทรงเป็นยอดกวีด้านการแต่งบทละคร ตัวอย่างเช่นรามเกียรติ์ อุณรุท และอิเหนา เป็นต้น
กวีที่มีชื่อเสียงนอกจากพระองค์เองแล้ว ยังมีกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (รัชกาลที่ 3) สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส สุนทรภู่ พระยาตรัง และนายนรินทรธิเบศร์ (อิน)
พระราชลัญจกรประจำพระองค์
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
-พระนามเดิม ทับ (กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์)
-พระราชบิดาทรงเรียกพระองค์ว่า "เจ้าสัว"
-พระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระปรมาธิวรเสรฐมหาเจษฎาบดินทร พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
-พระอิสริยยศ พระมหากษัตริย์กรุงรัตนโกสินทร์
-เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ใน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ประสูติแต่ เจ้าจอมมารดาเรียม (กรมสมเด็จพระศรีสุลาลัย)
-เสด็จพระราชสมภพ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2330
-เสวยราชสมบัติ วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 ดำรงราชสมบัติได้ 27 ปี
-ในปี พ.ศ. 2541 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ถวายพระราชสมัญญาว่า "พระมหาเจษฎาราชเจ้า" และได้ใช้เป็นสร้อยพระนามสืบมาจนปัจจุบัน
สรุปเหตุการณ์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
Thank You For Watching