1 of 26

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

สาระที่ 5

วรรณคดีและวรรณกรรม

2 of 26

จัดทำโดย

นางสาวจิราภรณ์ กุหลาบหอม

โรงเรียนทุ่งบ่อวิทยา สพป.ขอนแก่นเขต 4

ตำแหน่ง:ครูชำนาญการ

3 of 26

วรรณคดีและวรรณกรรม

วรรณคดี คือ ผลงานสร้างสรรค์ที่ได้รับการยกย่องว่าแต่งดี มีศิลปะในการประพันธ์ ให้คุณค่าควรแก่การศึกษา มีการอ่านสืบทอดกันมาเป็นเวลานาน

วรรณกรรม คือ ผลงานสร้างสรรค์ที่เกิดจากอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดและการใช้ภาษาอย่างมีศิลปะ

4 of 26

5 of 26

หลักการวิเคราะห์และวิจารณ์

การวิเคราะห์ คือ การแยกแยะรายละเอียดองค์ประกอบต่างๆ ศึกษาภูมิหลังประวัติที่มาของเรื่อง ประวัติผู้แต่ง เนื้อหา เรื่องราว การดำเนินเรื่อง ตลอดจนลักษณะนิสัยของตัวละคร

การวิจารณ์ คือ การใช้เหตุผล อธิบายความรู้สึกของตนเพื่อวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นต่อกลวิธีการแต่ง การใช้ภาษารูปแบบคำประพันธ์ เนื้อหา แนวคิด แล้วพิจารณา

6 of 26

เนื้อหาวรรณคดีไทย

1. วรรณคดีศาสนา มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างศรัทธาและสั่งสอนให้ผู้อ่านเข้าใจสาระหลักธรรมของศาสนา

2. วรรณคดีสุภาษิตคำสอน แต่งขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางให้ผู้อ่านนำไปประพฤติปฏิบัติ

3.วรรณคดีขนบประเพณีและพิธีกรรม

4.วรรณคดีประวัติศาสตร์ การสดุดีวีรชนที่กล้าหาญและเล่าถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง

7 of 26

หลักการวิเคราะห์คุณค่าวรรณคดี

  1. การวิเคราะห์คุณค่าด้านเนื้อหา ผู้อ่านต้องทำความเข้าใจบทประพันธ์ให้ตลอดทั้งเรื่อง และจินตนาการขึ้นในใจเพื่อจะได้เข้าใจสารที่กวีต้องการสื่อ
  2. วิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ วิเคราะห์ความไพเราะของบทประพันธ์ คือการพิจารณาว่าบทประพันธ์นั้นๆ มีความไพเราะอย่างไร

8 of 26

3. การวิเคราะห์คุณค่าด้านสังคมและสะท้อนวิถีไทย วรรณคดีและวรรณกรรมทั่วไป ผู้แต่งมักสอดแทรกความรู้ ความคิด และอารมณ์ สะท้อนวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อ

4. การวิเคราะห์ข้อคิดเพี่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน วรรณคดีหรือวรรณกรรมทั่วไป เมื่อผู้อ่านสามารถวิเคราะห์ได้ว่าเรื่องที่อ่านมีคุณค่าด้านเนื้อหา ด้านวรรณศิลป์และด้านสังคมอย่างไร

9 of 26

ประเภทโวหาร

บรรยายโวหาร หมายถึง โวหารที่ใช้ในการอธิบาย เล่าเรื่องราวเหตุการณ์ เพื่อให้ผู้อ่านได้รับความรู้ ความเข้าใจในเรื่องนั้น ๆ อย่างละเอียด แจ่มแจ้ง

พรรณนาโวหาร คือ โวหารที่กล่าวถึงความงามของธรรมชาติ สถานที่ หรือ ความรู้สึกนึกคิดอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้อ่านเกิดความซาบซึ้ง และเกิดอารมณ์ความรู้สึก คล้อยตาม

10 of 26

สาธกโวหาร คือ โวหารที่ยกตัวอย่างมาประกอบข้อความ เรื่องราวให้เข้าใจ แจ่มแจ้งยิ่งขึ้น อาจเป็นการกล่าวอ้างถึงเรื่องจริง นิทานที่เป็นที่รู้จักกันดีมาประกอบก็ได้

เทศนาโวหาร คือ เป็นโวหารที่แสดงการสั่งสอน หรือชักจูงให้ผู้อ่านเห็นคล้อยตาม ชี้แนะคุณและโทษสิ่งที่ควรปฏิบัติ  

อุปมาโวหาร คือ การใช้โวหารเปรียบเทียบ ประกอบข้อความ เพื่อให้ผู้อ่าน เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้เข้าใจเรื่องราวได้แจ่มแจ้ง การใช้อุปมาโวหารนี้มีลักษณะการใช้หลายลักษณะ

11 of 26

แบบทดสอบความรู้ ความเข้าใจ

12 of 26

นางกอดจูบลูบหลังแล้วสั่งสอน อำนวยพรพลายน้อยละห้อยให้

พ่อไปดีศรีสวัสดิ์กำจัดภัย จนเติบใหญ่ยิ่งยวดได้บวชเรียน

ลูกผู้ชายลายมือนั้นคือยศ เจ้าจงอุตส่าห์ทำสม่ำเสมียน

แล้วพาลุกมาข้างท่าเกวียน จะจากเจียนใจจะขาดอนาถใจ

เสภาเรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน ตอน กำเนิดพลายงาม : สุนทรภู่

 

 

 

  1. ความรู้คู่คุณธรรม
  2. เมื่อน้อยได้เรียนวิชา
  3. ปัญญาประดุจดังอาวุธ
  4. รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม

1. จากบทร้อยกรองข้างต้นตรงกับสำนวนใด

อ่านคำประพันธ์ข้างต้นแล้วตอบคำถาม

13 of 26

2. บทประพันธ์ต่อไปนี้กล่าวถึงสิ่งใด

มาจะกล่าวบทไป เทพไทสิงสู่อยู่พฤกษา

สงสารนางจันท์กัลยา เจ้ามาเหนี่อยยากลำบากกาย

เทพบุตรจุติมาบังเกิด กำเนิดผิดพ้นคนทั้งหลาย

บุญญาธิการนั้นมากมาย จะล้ำเลิศเพริศพรายเมื่อปลายมือ

ถึงจะตกน้ำก็ไม่ไหล ตกในกองกูณฑ์ไม่สูญชื่อ

จะได้ผ่านบ้านเมืองเลื่องลือ อึงอื้อดินฟ้าบาดาล

 

  1. ความเชื่อของคนไทย
  2. ความเชื่อทางศาสนาพุทธ
  3. ความรักของแม่ที่มีต่อลูก
  4. การใช้คำให้เห็นภาพ

14 of 26

3. บทประพันธ์ใดให้อารมณ์ตื่นเต้น ระทึกใจ

ก. จะกล่าวถึงเงือกน้อยกลอยสวาท ซึ่งรองบาทพระอภัยเมื่อไกลสถาน

อยู่วนวังหลังเกาะแก้วพิสดาร ประมาณกาลสิบเดือนไม่เคลื่อนคลา

ข. พระดาบสอดปากมิอยากได้ ใครใช้ให้มึงรักกันนักหนา� ส่วนลูกไม่ใคร่ออกสิบอกตา สมน้ำหน้าปวดท้องร้องเบยเบย

ค. ฝ่ายโยคีนิ่งนั่งได้ฟังเสียง จึงมองเมียงมาชะโงกริมโกรกผา

เห็นกุมารคลานได้มิใช่ปลา หัวร่อร่าร้องไม่เป็นไรแล้ว

ง. เข้าคาบคอหน่อกษัตริย์จะกัดกิน กุมารดิ้นโดดขึ้นนั่งหลังอาชา

ม้าสะบัดพลัดหลุดยังยุดหาง ดูกลิ้งกลางเกลียวคลื่นลื่นถลา

15 of 26

4. ข้อใดสะท้อนให้เห็นสติปัญญาและปฏิภาณไหวพริบของหนุมาน

ก. ขุนกระบี่ผู้มีกำลังฤทธิ์ นิ่งคิดก็คิดขึ้นได้

จึ่งหักก้านบุษบงด้วยว่องไว ลอดไปตามไส้ปทุมา

ข. จะช่วยไวยวิกให้พ้นตาย ตัวยายก็จะสุขเกษมศรี

เป็นเจ้าแก่หมู่อสุรี ในที่นคราบาดาล

ค. บัดนั้น หนุมานผู้ชาญชัยศรี

รบชิดติดพันประจัญตี ได้ทีโจมจับกุมภัณฑ์

ง. ร้องว่าเหวยเหวยขุนมาร รู้จักพระกาลหรือหาไม่

เร่งนอนลงเถิดไอ้จังไร ส่งตระบองมาให้กูตี

16 of 26

เมื่อสุกงอมหอมหวนจึงควรหล่น อยู่กับต้นอย่าให้พรากไปจากที่

อย่าชิงสุกก่อนห่ามไปงามดี เมื่อบุญมีคงจะมาอย่าปรารมภ์

สุภาษิตสอนหญิง : สุนทรภู่

 

5. บุคคลใดนำคำสอนในสุภาษิตสอนหญิงดังกล่าวไปปฏิบัติ

  1. มะเฟืองคบเฉพาะเพื่อนผู้หญิงเท่านั้น
  2. มะพร้าวปีนเก็บแต่มะม่วงที่สุกคาต้น
  3. มะขามไม่ไปเที่ยวกับเพื่อนผู้ชายตามลำพัง
  4. มะยมชวนมะไฟไปเที่ยวตอนที่พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน

อ่านบทประพันธ์ต่อไปนี้แล้วตอบคำถาม

17 of 26

แม้นชีวิตมีปัญหามาพานพบ

อย่ามัวหลบหลีกลี้หนีไปไหน

จงมุ่งหน้าฝ่าปัญหาอย่าท้อใจ

หนักแค่ไหนให้มีหวังยังก้าวเดิน

 

6. ใครปฏิบัติตามข้อความข้างต้นได้ถูกต้อง

  1. ปรีดา เบื่อครอบครัวจึงไปนอนค้างบ้านเพื่อน
  2. ปัทมาพร ลาออกจากงานเพราะไม่ถูกกับเพื่อนร่วมงาน
  3. ปิยากร ท้อแท้กับการเรียนจึงแอบไปเล่นฟุตบอลกับเพื่อน
  4. ปุญญิศา แก้ปัญหาการเรียนได้เกรดศูนย์โดยการให้เพื่อนที่เรียนเก่งช่วยสอนให้

อ่านบทประพันธ์ต่อไปนี้แล้วตอบคำถาม

18 of 26

ใช้ข้อความต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 7

“ถึงบางไกรไกรทองอยู่คลองนี้

จึงมีชื่อทุกวันเหมือนมั่นหมาย

ไปเข่นฆ่าชาละวันให้พลันตาย

เป็นยอดชายเชี่ยวชาญการวิชา”

 

7. บทประพันธ์ข้างต้นนี้มีจุดมุ่งหมายหลักในด้านใด

  1. บอกที่มาของชื่อสถานที่
  2. บอกประวัติของตัวละคร
  3. บอกพฤติกรรมของตัวละคร
  4. บอกประโยชน์ของการศึกษา

19 of 26

8. บทประพันธ์นี้ตรงกับสำนวนใด

ผลเดื่อเมื่อสุกไซร้ มีพรรณ

ภายนอกแดงดูฉัน ชาดบ้าย

ภายในย่อมแมลงวัน หนอนบ่อน

ดุจดั่งคนใจร้าย นอกนั้นดูงาม

โคลงโลกนิติ : สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร

  1. หน้าไหว้หลังหลอก
  2. ฉลาดแกมโกง
  3. ขายผ้าเอาหน้ารอด
  4. ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง

20 of 26

นางดูหน้าอาลัยใจจะขาด ดังฟ้าฟาดทรวงแยกให้แตกฉาน

จากเรื่องพระอภัยมณี ของสุนทรภู่

9. จากบทร้อยกรองที่กำหนดให้ใช้โวหารแบบใด

  1. บรรยายโวหาร
  2. อุปมาโวหาร
  3. พรรณนาโวหาร
  4. เทศนาโวหาร

อ่านอ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถาม

21 of 26

อ่านบทประพันธ์ต่อไปนี้แล้วตอบคำถาม

ขุนนางพร้อมนบนอบหมอบชม้อย เห็นเจ้านายแน่จิตคิดสงสัย

กับนารีมิได้รู้ว่าผู้ใด ยังจำได้แต่กุมารเมื่อราญรอน

ต่างวิ่งเข้าเฝ้าองค์พระทรงยศ น้อมประณตนั่งฟังรับสั่งสอน

จอมกษัตริย์ตรัสถามความนคร ราษฎรเคืองเข็ญเป็นอย่างไร

10. จากบทอ่านไม่ปรากฏลักษณะใด

  1. สัมผัสใน
  2. สัมผัสพยัญชนะ
  3. เล่นคำเชิงถาม
  4. ใช้คำให้เห็นภาพเคลื่อนไหว

22 of 26

ใช้ข้อความต่อไปนี้ตอบคำถาม ข้อ 11

"เมื่อใดที่แมวกำลังขยับหูไปมา แสดงว่าเป็น "ภาษากาย"ของแมวที่บอกว่าเป็นกังวลหรือโกรธ แต่ไม่ว่าจะมีสัตว์เลี้ยงเป็นแมวหรือสุนัข การรู้จักภาษากายหรือพฤติกรรมของสัตว์ที่เราเลี้ยง จะทำให้ช้างได้ว่า สัตว์ลี้ยงกำลังบอกอะไรเราอยู่ไม่ว่าจะเป็นดีใจ ป่วยหรือโกรธ"

11. ข้อความข้างต้นไม่ได้แสดงความรู้ในเรื่องใด

  1. ภาษากายของสัตว์สัมพันธ์กับอารมณ์ของสัตว์
  2. ภาษากายของสัตว์สัมพันธ์กับสุขภาพของสัตว์

ค. ภาษากายของสัตว์สัมพันธ์กับนิสัยของผู้เลี้ยง

ง. ภาษากายของสัตว์ต้มพันธ์กับความใกล้ชิดกับผู้เลี้ยง

23 of 26

12. บุคคลใดกำลังเล่านิทานพื้นบ้าน

  1. มะนาวเล่าประสบการณ์ที่เคยไปเที่ยวต่างประเทศให้เพื่อนฟัง
  2. มะพร้าวเล่าเรื่องย่อของนวนิยายที่เคยอ่านให้เพื่อนฟัง
  3. มะเฟืองเล่าตำนานของเกาะหนูเกาะแมวให้เพื่อนฟัง
  4. มะปรางเล่าประวัติของตนเองให้เพื่อนฟัง

24 of 26

13. ข้อใดไม่ใช่ความนิยมในการเล่นนิทานพื้นบ้าน

  1. ใช้เล่นในการทำงาน
  2. ใช้เล่นประกอบพิธีกรรม
  3. ใช้เล่นเพื่อปลุกใจ
  4. ใช้เล่นเพื่อความบันเทิง

25 of 26

อ่านข้อความต่อไปนี้ตอบคำถาม ข้อ 14

“พญาช้าง งาสองท่อนที่ท่านให้ไปขายได้ราคาเพียงแค่ใช้หนี้เท่านั้น ข้าพเจ้ามาครั้งนี้ก็เพื่อจะมา ของาที่ยังเหลือไปขายอีก” พรานโอดครวญ

“เชิญท่านตัดเลย” พญาช้างสีลวะบอกพรานป่าพลางหมอบลง

นิทานคติธรรมเรื่อง พญาช้างผู้เสียสละ

 

14. คำพูดของพรานแสดงถึงความโลภ และเอาเปรียบพญาช้าง นักเรียนจะนำข้อคิดเรื่องใดไปเตือนใจพรานผู้นี้

  1. ความพอเพียง
  2. ความปรองดอง
  3. ความรอบคอบ
  4. ความอดทน

26 of 26

อ่านคำประพันธ์ต่อไปนี้แล้วตอบคำถาม

ขมิ้นดินสอพองเอาไว้ไหน เมื่อวานกูใส่ไว้ในถ้ำ

แกอาบน้ำลูกยาทาขมิ้นตำ ชำระน้ำร่ำรดหมดเหงื่อไคล

ครั้งอาบน้ำพลายแก้วแล้วแต่งตัว หวีหัวผัดหน้าให้ผ่องใส

นุ่งผ้ายกจีบเป็นกลีบใบ เสื้อคลุมสวมใส่อุไรกรอง

  1. บทร้อยกรองนี้ให้เห็นคุณค่าทางสังคมเด่นชัดในด้านใด
  1. ด้านวัฒนธรรมการกิน
  2. ด้านการวางตัวในสังคม
  3. ด้านวิถีชีวิตความเป็นอยู่
  4. ด้านวัฒนธรรมการแต่งกาย