ลักษณะทางกายภาพ

ราชวงศ์ต่างๆ

ลักษณะทางกายภาพ

• ลักษณะภูมิประเทศ
• มีเทือกเขา ที่ราบสูงส่วนใหญ่ ยกเว้นตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ภูเขาหิมาลัย
• ที่ราบสูง ๑ ใน ๓ ของทั้งหมด เช่น ที่ราบสูงมองโกเลีย ที่ราบสูงแมนจูเลีย ที่ราบสูงธิเบตที่ได้รับการยกย่องขนานนามว่าเป็น หลังคาโลก
• ทะเลทรายอยู่ทางตอนเหนือเช่น ทะเลทรายตากลามากัน ทะเลทรายโกบี
• แม่น้ำแยงซี หรือ แยงซีเกียง และ แม่น้ำฮวงโห
• ลักษณะภูมิอากาศ
• แบบผสมผสาน : หนาวจัด แห้งแล้ง หิมะตก ร้อน ฝนตกชุก

ยุคก่อนประวัติศาสตร์

• ยุคหินเก่า
• ขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ปักกิ่ง ในถ้ำโจวโข่วเตี้ยน ใกล้กรุงปักกิ่ง
• มนุษย์หยวนโหม่ว มณฑลยูนนาน
• เร่ร่อน เก็บของป่า ล่าสัตว์ ขวานกำปั้นกะเทาะหน้าเดียว

​

• ยุคหินกลาง
• กึ่งเร่ร่อน ล่าสัตว์ เก็บหาอาหาร
• หินสับ หินขูด หัวธนู

ยุคก่อนประวัติศาสตร์

• ยุคหินใหม่
• อยู่เป็นหลักแหล่ง ปลูกข้าวฟ่าง เลี้ยงสัตว์ ทอผ้า
• เครื่องปั้นดินเผา

​

วัฒนธรรมหยางเฉา

• วาดลวดลายด้วยสีแดงและดำ
• ภาคเหนือของจีน ถึงมณฑลกานสู

วัฒนธรรมลุงชาน

• ผิวเรียบเป็นมัน
• มณฑลชานตุง และทางตอนกลางและตอนใต้แม่น้ำแยงซี

ยุคประวัติศาสตร์

• ราชวงศ์ชาง
• ราชวงศ์โจว
• ราชวงศ์จิ๋น
• ราชวงศ์ฮั่น
• สมัยสามก๊ก
• ราชวงศ์จิ้นตะวันตก
• การแบ่งภาคเหนือใต้

๕. ราชวงศ์สุย

​

• ราชวงศ์ถัง
• สมัยห้าราชวงศ์
• ราชวงศ์ซ้อง
• ราชวงศ์หยวน
• ราชวงศ์หมิง
• ราชวงศ์ชิง
• สมัยสาธารณรัฐ
• สมัยสาธารณรัฐประชาชนจีน

ราชวงศ์ชาง

แผนที่แสดงอาณาเขตสมัยราชวงศ์ชาง

ราชวงศ์ชาง

๏ เป็นราชวงศ์แรกของจีน ประมาณ ๑,๕๐๐ ปีก่อน ค.ศ.

๏ ที่เมืองอันยาง มณฑลโฮนาน เริ่มมีการตั้งชุมชน และการปกครองแบบนครรัฐ

๏ ลักษณะเป็นสังคมเกษตรกรรม

๏ มีการประดิษฐ์อักษรภาพ ๕,๐๐๐ ตัว เขียนบนกระดองเต่า

๏ เทพเจ้าที่สำคัญคือเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์

๏ มีการนำทองเหลือง ทองสัมฤทธิ์มาใช้

• สิ้นสุดลงเมื่อประมาณ ๑,๐๐๐ ปีก่อนค.ศ.

​

ราชวงศ์โจว

แผนที่แสดงอาณาเขตสมัยราชวงศ์โจว

ราชวงศ์โจว

๏ ๑,๐๐๐ -๒๒๑ปี ก่อน ค.ศ.

๏ เป็นจุดกำเนิดของสมัยศักดินา (ระบบเฟิงเจี้ยน)

๏ เป็นยุคคลาสิกของจีน วางรากฐานต่างๆทางวัฒนธรรมของจีน

๏ มีการแต่งตั้งผู้แทนกษัตริย์เป็นข้าหลวงประจำหัวเมือง

• มีลักษณะสังคมคล้ายกับระบบฟิวดัล

�

ราชวงศ์โจว

๏ มีการกำหนดหลักเกณฑ์ “ เทียนมิ่ง” (อาณัติสวรรค์) มอบอำนาจ�ให้กษัตริย์ราชวงศ์โจวปกครอง กษัตริย์มีฐานะเป็นโอรสสวรรค์

๏ เป็นยุคทองของภูมิปัญญา

- เกิดหลักคำสอนของขงจื๊อ

- คุณธรรมที่สำคัญที่เป็นหัวใจของปรัชญาขงจื๊อคือ เหริน�

​

ราชวงศ์โจว

​

• ลัทธิเต๋า
• มีอิทธิพลต่อจีนทางด้านศิลปกรรม

และมีการผสมกลมกลืนกันระหว่าง

ลัทธิขงจื๊อและพุทธศาสนานิกายมหายาน

​

ราชวงศ์โจว

• ลัทธิขงจื้อ
• ขง ฟู่จื่อ หรือ ขงจื้อ เป็นนักคิดผู้ยิ่งใหญ่มีอิทธิพล
• หลักคำสอนของขงจื๊อ มนุษย์ที่สมบูรณ์เพียบพร้อมที่สุด

คือเพียบพร้อมด้วยคุณธรรม

• การแก้ปัญหาด้วยหลัก ๕ ประการ ความสุภาพ จริงใจ ตั้งใจ

เมตตากรุณา โอบอ้อมอารี

• หัวใจของปรัชญาขงจื๊อคือ เหริน
• ตำรับ ๕ เล่มของขงจื๊อประกอบด้วย อี้จิง ชูจิง ซือจิง หลี่จิ้ง และชุนชิว

​

​

ความเสื่อมโทรม

• ในสมัยตอนปลายของราชวงศ์โจว
• ย้ายเมืองหลวงไปทางตะวันออก (เมืองลั่วหยาง)
• อำนาจส่วนกลางเสื่อมลง เจ้าผู้ครองนครทำสงครามขยายอำนาจ
• ระบบเพิ่งเจี้ยนถูกยกเลิก
• ต่อมานครฉินซึ่งมีอำนาจมากที่สุดสามารถรวบรวม จีนเป็นจักรวรรดิ ตั้งเป็น ราชวงศ์ฉิน
• สิ้นสุดราชวงศ์โจว

ราชวงศ์จิ๋น

ราชวงศ์จิ๋น

แผนที่แสดงอาณาเขตสมัยราชวงศ์ฉิน หรือจิ๋น

ราชวงศ์จิ๋น

แผนที่แสดงอาณาเขตสมัยราชวงศ์ฉิน หรือจิ๋น

ราชวงศ์จิ๋น

• ๒๒๑ - ๒๐๗ ปี ก่อนค.ศ.

๏ จีนเริ่มเป็นจักรวรรดิ

๏ พระเจ้าชิวั่งตี่ หรือ จิ๋น ซี ฮ่องเต้ ยึดหลักปกครองที่เข้มงวดตามหลักนิติธรรม(ฟาเจีย)ของ ซุนจื๊อ

- ที่เห็นว่ามนุษย์ชั่วร้ายมี กิเลส ตัณหาต้องใช้อำนาจ

- กฎหมายเป็นเครื่องควบคุมยกเลิกระบบศักดินา

​

ราชวงศ์จิ๋น

• แบ่งเขตการปกครองเป็น ๓๖ มณฑลแต่งตั้งข้าราชการไปปกครอง

๏ จัดระเบียบการเขียนหนังสือ

• ทำลายขนบธรรมเนียมประเพณีเดิมและคำสอนของขงจื๊อ

๏ มีการสร้างกำแพงเมืองจีน

๏ ค้นพบ ดินปืนเป็นชาติแรก มาตราชั่ง ตวง วัด

กำแพงเมืองจีน

• มีความยาวถึง ๖,๕๐๐ ก.ม. กำแพงมีความสูง ๗ เมตร
• สร้างไว้ในพื้นที่ภูเขา บนส่วนที่ลาดชัน ทำให้กำแพงสูงขึ้น และปีนข้ามยาก
• เริ่มสร้างขึ้นในสมัยสงครามระหว่างแคว้น สมัยจักรพรรดิจิ๋นซี
• ใช้แรงงานคนจำนวนมาก มีผู้เสียชีวิตมากมาย
• เพื่อปกป้องอาณาจักร จากการรุกรานของพวกป่าเถื่อน
• บูรณะใหม่ในราชวงศ์หมิง โดยมีผนังทำด้วยอิฐ เจาะช่องทะลุเพื่อให้ทหารยิงธนู หอสังเกตการณ์ มียามรักษาการ

กำแพงเมืองจีน

ความเสื่อมโทรม

• เนื่องจากระบบการปกครองที่เข้มงวด โหดเหี้ยม
• ประชาชนโกรธแค้น เจ้านครคอยหาโอกาสปฏิวัติ
• เมื่อจิ๋นซีฮ่องเต้ สวรรคต บ้านเมืองจึงเกิดความวุ่นวาย จลาจล
• ขณะนั้นมีทัพปฏิวัติของ เล่าปัง เข้าชิงราชบัลลังก์
• ตั้งเป็นราชวงศ์ฮั่น เป็นอันสิ้นสุดราชวงศ์ฉิน

​

ราชวงศ์ฮั่น

แผนที่แสดงอาณาเขตสมัยราชวงศ์ฮั่น

ราชวงศ์ฮั่น

• ๒๐๒ ปีก่อน ค.ศ. – ค.ศ.๒๒๑
• มีการฟื้นฟูปรัชญาและวรรณกรรมที่มีการเผาในสมัยราชวงศ์ฉิน
• นำหลักการของขงจื๊อมาใช้ในการปกครองประเทศ
• การสอบเข้ารับราชการหรือ ระบบจอหงวน
• มีการทำกระดาษจากเปลือกไม้
• คิดค้นการทำหมึกจากเขม่าต้นรัก ใช้พู่กันเขียนลงบนกระดาษ

การสอบจอหงวน

ราชวงศ์ฮั่น

• การคำนวณหาอัตราส่วนเส้นผ่าศูนย์กลางกับเส้นรอบวง
• ประดิษฐ์ลูกคิด เครื่องตรวจแผ่นดินไหว
• พระพุทธศาสนานิกายมหายาน
• ในสมัยนี้มีการใช้ เส้นทางสายไหม (Silk Road )
• ใช้ในการติดต่อค้าขายกับทางตะวันตก
• เมื่อสิ้นราชวงศ์ฮั่นเกิดการรบแย่งชิงอำนาจนาน 50 ปี
• สมัยสามก๊ก จีนแบ่งแยกเป็นแค้วนๆ

​

เส้นทางสายไหม

ราชวงศ์ฮั่น

ความเสื่อมโทรม

สาเหตุที่ทำให้ราชวงศ์ฮั่นล่มสลาย

• เนื่องจากความอ่อนแอทางกายของกษัตริย์
• อำนาจการบริหารจึงตกเป็นของพวกขันที บ้านเมืองแตกแยกเกิดเป็นยุคสามก๊ก และ ยุคหกราชวงศ์
• การรุกรานจากทางตอนเหนือของพวกซุงหนู

​

สมัยสามก๊ก

• เกิดความขัดแย้งภายใน แบ่งเป็น
• อาณาจักรเว้ ทางทิศเหนือ
• อาณาจักรหวู ทางทิศใต้
• อาณาจักรฮั่น ทางทิศตะวันตก
• มีการรบสู้รบ ทำสงครามกัน
• ต่อมาอาณาจักรทั้งสามถูกรวม เข้าภายใต้การปกครองของราชวงศ์จิ้น

ราชวงศ์จิ้นตะวันตก

• คริสต์ศตวรรษที่ 4
• ราชวงศ์จิ้นเป็นพวกอารยชนทางตอนเหนือ
• เข้ามารุกราน ขยายอาณาเขตในประเทศจีน
• ชาวจีนจึงต้องอพยพลงมาทางตอนใต้ของแม่น้ำแยงซี

การแบ่งภาคเหนือใต้ หกราชวงศ์

• เป็นระยะนาน 300 ปีเศษ
• มีการพยายามตั้งราชวงศ์ต่างๆขึ้นมา
• ตอนใต้ของจีนปกครองโดย 6 ราชวงศ์ คือ

1. ราชวงศ์จิ่น 2. ราชวงศ์ส่อง 3. ราชวงศ์ซี้

4. ราชวงศ์เลี้ยง 5. ราชวงศ์ตัน 6. ราชวงศ์ซุ้ย

• ต่อมาพวกอารยชนทางตอนเหนือขยายอำนาจเข้ามา ตั้งเป็นราชวงศ์สุย

ราชวงศ์สุย

แผนที่แสดงอาณาเขตสมัยราชวงศ์สุย

ราชวงศ์สุย

• ค.ศ. ๕๘๑ - ๖๑๘
• หยางเจียนได้สถาปนาราชวงศ์สุย
• ปรับปรุงการปกครอง ประหยัดเงินหลวง
• ห้ามการเล่นทุกประเภท
• มีเกษตร ชลประทาน

- ขุดคลองเชื่อมแม่น้ำฮวงโห

ความเสื่อมโทรม

• กษัตริย์เอี่ยงตี่ (กษัตริย์องค์สุดท้าย) โปรดความโอ่อ่า ฟุ่มเฟือย
• ยกทัพไปตีเมืองต่างๆ เช่น เกาะไหหลำ ญวน เขมร เกาหลี แต่ไม่สำเร็จ
• เก็บภาษีสูง บีบบังคับประชาชน
• ประชาชนเดือนร้อนอย่างมาก
• เกิดการปฏิวัติโค่นล้มราชวงศ์

​

ราชวงศ์ถัง

แผนที่แสดงอาณาเขตสมัยราชวงศ์ถัง

ราชวงศ์ถัง

แผนที่แสดงอาณาเขตสมัยราชวงศ์ถัง

ราชวงศ์ถัง

• ค.ศ. ๖๑๘ - ๙๐๗
• เป็นยุคทองของวัฒนธรรมจีนทางกวี จิตรกรรม
• การส่งพระยวนชาง (พระถังซัมจั๋งไปสืบพระพุทธศาสนาที่อินเดีย)
• ผู้หญิงมีได้รับการยกย่องมากขึ้น เสรีภาพมากขึ้น ไม่ถือสาเรื่องเพศ

​

ราชวงศ์ถัง

• มีความเจริญในทุกด้าน

- พระพุทธศาสนารุ่งเรืองมาก

- ผู้ที่เป็นราชการต้องผ่านการทดสอบ

- มีการสร้างพระกริ่ง

ความเสื่อมโทรม

• เริ่มในช่วงหลังของรัชกาลจักรพรรดิหมิง
• นางสนม ชื่อ หยางกุ้ยเฟ มีความงามอย่างมาก
• ทำให้จักรพรรดิหมิงหลงใหล ไม่สนใจการบริหารบ้านเมือง
• ทำให้เกิดการก่อกบฏขึ้น จักรพรรดิต้องหนีออกจากราชวัง
• หยางกุยเฟ้ถูกประหารชีวิต จักรพรรดิสละราชสมบัติ

​

​

สมัยห้าราชวงศ์

• มี 5 ราชวงศ์ ผลัดกันปกครอง

1. ราชวงศ์เหลียง ค.ศ.907 – 923

2. ราชวงศ์ถัง ค.ศ.923 – 936

3. ราชวงศ์จิ๋น ค.ศ.936 – 947

4. ราชวงศ์ฮั่น ค.ศ.947 – 950

5. ราชวงศ์โจว ค.ศ.950 – 960

• ต่อมาถูกแคว้นทางตอนเหนือรุกราน รวมเป็น ราชวงศ์ซ้อง

ราชวงศ์ซ้อง

แผนที่แสดงอาณาเขตสมัยราชวงศ์ซ้องหรือสุ้ง

ราชวงศ์ซ้อง

๏ ค.ศ. ๙๖๐-๑๒๗๙

• ความเจริญทางด้านปรัชญา แต่การทหารเสื่อม

๏ ฟื้นฟูลัทธิขงจื๊อและ ลัทธิเต๋า

๏ เกิดประเพณีรัดเท้าสตรี

๏ ประดิษฐ์แท่นพิมพ์หนังสือ (ก่อนยุโรป)

​

ราชวงศ์ซ้อง

• รักษาโรคด้วยวิธีฝังเข็ม
• เริ่มมีการใช้เข็มทิศ ประดิษฐ์ดินปืน
• ช่วงราชวงศ์ซ้อง ตรงกับช่วงที่ไทยสถาปนากรุงสุโขทัย
• ชาวจีนสอนไทย ทำเครื่องเคลือบกระเบื้อง (เครื่องสังคโลก)
• รู้จักวิธีการผันน้ำเข้านา ด้วยรหัสวิดน้ำที่เคลื่อนด้วยกำลังขา

ความเสื่อมโทรม

• ทัพมองโกล โดยมี กุบไลข่านเป็นแม่ทัพ
• มีความห้าวหาญและชำนาญการรบ
• เข้าตอนใต้ของราชวงศ์ซ้อง และสถาปนา ราชวงศ์หยวนขึ้น
• อำนาจของราชวงศ์ซ้องก็เสื่อมลงเรื่อยๆ

​

ราชวงศ์หยวน

แผนที่แสดงอาณาเขตสมัยราชวงศ์หยวน

ราชวงศ์หยวน

๏ ค.ศ. ๑๒๗๙ - ๑๓๖๘

• เป็นเผ่ามองโกล

๏ มีผู้นำชื่อกุบไลข่าน

๏ เป็นสมัยที่มีชาวต่างชาติเข้ามาติดต่อค้าขาย

• มีชาวต่างชาติเข้ามารับราชการ เช่น มาร์โค โปโล สมณทูตจากวาติกัน

ราชวงศ์หยวน

• มีการใช้ปืนใหญ่ในการรบ

๏ ส่งเสริมบทประพันธ์ต่างๆ โดยเฉพาะ ละครร้อง

• ในสมัยกุบไลข่าน มีการรับวิทยาการใหม่ๆจากต่างชาติ
• ดาราศาสตร์
• การแพทย์
• คณิตศาสตร์
• ก่อสร้าง

​

ความเสื่อมโทรม

• ราชวงศ์หยวนนั้นไม่มีกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์
• ทุกครั้งที่เปลี่ยนรัชกาลมีการแย่งชิงราชสมบัติ
• จูง่วนเจียง ยกทัพมาเพื่อตีราชวงศ์หยวน ขณะนั้นราชวงศ์หยวนกำลังแย่งราชสมบัติกัน
• จูง่วนเจียงจึงล้มราชวงศ์หยวนด้ายโดยง่าย และสถาปนาราชวงศ์หมิง

​

ราชวงศ์หมิง

แผนที่แสดงอาณาเขตสมัยราชวงศ์หมิง

ราชวงศ์หมิง

๏ ค.ศ.๑๓๖๘-๑๖๔๔

๏ นำโดยจู ยวนชางขับไล่มองโกล ออกไป

๏ มีความเจริญในการทำเครื่องเบญจรงค์

๏ กรุงศรีอยุธยามีการติดต่อ เข้ามา

๏ มีการปฏิรูปการเมือง และการทหาร

๏ ย้ายเมืองหลวงจากเมืองหนันจิง ไปเป่ยจิง

ความเสื่อมโทรม

• ราชวงศ์หมิงนั้นต้องทำศึกสงครามอยู่ตลอด
• การเงินฝืดเคือง การเก็บภาษีสูงขึ้น ประชาชนเดือนร้อน
• เหล่าโจรรวมตัวกันก่อขบถ เจ้านครต่างๆสู้ไม่ได้
• ขณะนั้นมีแมนจูยกทัพมา แม่ทัพของราชวงศ์หมิงได้ยอมแพ้แก่แมนจู
• เพื่อให้แมนจูมาปราบขบถ
• แมนจูถือโอกาสยึดครองราชวงศ์หมิง

​

ราชวงศ์ชิง

แผนที่แสดงอาณาเขตสมัยราชวงศ์ชิง

ราชวงศ์ชิง

แผนที่แสดงอาณาเขตสมัยราชวงศ์ชิง

ราชวงศ์ชิง

๏ ค.ศ.๑๖๔๔-๑๙๑๑

๏ เป็นชนเผ่าแมนจู นำโดย พระนางซูสีไทเฮา

๏ บังคับให้ผู้ชายจีนไว้หางเปีย

๏ ห้ามนำสตรีจีนเข้ามาเป็นนางใน

​

ราชวงศ์ชิง

• มีวรรณกรรมชื่อ ความฝันในหอแดง สะท้อนสังคมศักดินาของจีนที่กำลังเสื่อม ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ยุคใหม่ ผู้แต่งคือ เฉาจัน

ความเสื่อมโทรม

• จีนเกิดปัญหาภายในประเทศ เช่น การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม
• การปิดประเทศของจีน
• สงครามฝิ่น
• การปฏิรูปร้อยวัน
• กบฏนักมวยและการปฏิวัติพระนางซูสีไทเฮา

นักรบดินเหนียว

​

• ในปีค.ศ.๑๙๗๔ คนงานขุดบ่อน้ำขุดกระทบ หุ่นจำลองกองทัพทหารขนาดเท่าคนจริงหลายพันตัว
• สร้างไว้เมื่อ ๒,๐๐๐ ปีก่อน เพื่อปกป้องสุสานแห่งปฐมจักรพรรดิ

นักรบดินเหนียว

อาหารเลี้ยงพลเมือง

อักษรจีน

การแต่งกาย

พระราชวังจักรพรรดิ

สำเภาจีน

คุณตอบผิด

ข้อที่ 1

ข้อที่ 2

ข้อที่ 3

คุณตอบถูก เก่งมาก

ข้อที่1

ข้อที่ 2

ข้อที่ 3

แบบฝึกหัด

• ข้อใดเป็นลักษณะการปกครองของราชวงศ์จิ๋น

ก. กษัตริย์ผูกขาดควบคุมอำนาจการปกครอง

ข. กษัตริย์กระจายอำนาจให้นครรัฐต่าง ๆ ปกครองโดยอิสระ

ค. กษัตริย์เป็นผู้นำแต่ให้หัวหน้าชนเผ่ามีอิสระในชนเผ่าของตน

ง. มีการพยายามแย่งชิงอำนาจการปกครองจากกลุ่มขันทีและเสนาบดี

​

2. ข้อใดไม่ใช่สิ่งที่ “จิ๋น ฉือ หวงตี้”ปฏิรูปในอาณาจักรของพระองค์

ก. ปฏิรูประบบตัวอักษร

ข. ปฏิรูประบบชั่ง ตวง วัด ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

ค. ปฏิรูปขนาดของล้อ และเพลารถม้า ให้มีขนาดเดียวกัน

ง. ปฏิรูประบบการใช้แรงงานด้วยการจ่ายค่าจ้าง

​

3.สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าสังคมจีนในสมัยโบราณให้ความสำคัญกับการ บันทึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์

ก. วรรณกรรมสามก๊ก

ข. สื่อจี๊

ค. การสอบแข่งขันเข้ารับราชการ

ง. ประวัติและผลงานของเปา บุ้น จิ้น

​

4. ข้อใดถูกต้อง

ก. ภัยธรรมชาติเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อความไม่มั่นคงของราชวงศ์จีน ข.พระโพธิธรรมคือผู้จาริกจากจีนไปอัญเชิญพระไตรปิฎกจากอินเดีย

ค. สามก๊กคือบันทึกเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์จีน

ง. ราชวงศ์ต่างๆของจีนให้ความสำคัญกับการป้องกันภัยจากการรุกราน ของอนารยะชนทางตะวันตก

5.ความเจริญของจีนสมัยราชวงศ์ใดที่ญี่ปุ่นนำไป เป็นต้นแบบในการพัฒนาประเทศ

ก. ราชวงศ์ฮั่น ข. ราชวงศ์ถัง

ค. ราชวงศ์หมิง ง. ราชวงศ์ชิง

​

6. หลังจากยุคของ “กุ๊บไลข่าน” แล้วสาเหตุสำคัญที่ทำให้ฮ่องเต้ ของราชวงศ์หยวนองค์ต่อๆมาไม่ประสบความสำเร็จในการปกครอง จีน ได้แก่ข้อใด

ก. ความล้มเหลวในการพัฒนาเศรษฐกิจ

ข. ความล้มเหลวในการครอบครองญี่ปุ่น

ค. การแบ่งชนชั้นของคนในสังคมและการกดขี่ชาวจีน

ง.การยอมจ่ายบรรณาการให้แก่อนารยะชนทางเหนือของอาณาจักร

​

7. “สิ่งประดิษฐ์สำคัญที่ชาวจีนเป็นผู้พบครั้งแรก คือดินดำหรือดินปืน ซึ่งชาวจีนทำขึ้นในสมัย

ราชวงศ์ฉิน และนำมาใช้ทางการทหารในสมัยราชวงศ์ถัง สมัยราชวงศ์ซ่งใช้ดินดำทำพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ต่อมาพวกมองโกลนำไปใช้ทำกระสุนปืนใหญ่ จากนั้นก็แพร่ขยายไปในอาหรับและยุโรป”

จากเนื้อความข้างต้น อะไรคือประเด็นสำคัญที่สุด

ก. ชาวจีนโบราณมีความรู้ทางเคมี

ข. ชาวมองโกลนำดินดำไปใช้ในการรบ

ค. ชาวยุโรปรับความรู้การทำดินปืนจากชาวอาหรับ

ง. ดินปืนนำมาใช้ประโยชน์ทางทหารในสมัยราชวงศ์ถัง

​

​

8.“ประวัติศาสตร์จีนคือลวดลายอันซ้ำซากตายตัว ที่มีเหตุการณ์ลักษณะเดิม ๆ เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าราชวงศ์ใหม่จะมาแทนราชวงศ์เดิม และควบคุมจีนให้เป็นปึกแผ่นขึ้น”จากเนื้อความข้างต้น ข้อใดเป็นคำอธิบายที่ดีที่สุด

ก. การรุกรานของชนเผ่าเร่ร่อน

ข. ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นแต่ละยุคสมัย

ค. คติความเชื่อของเต๋าที่กล่าวว่าทุกสิ่งคือเต๋า

ง. ทฤษฎีเทียนมิ่งของจีนโบราณ

​

9.เส้นทางสายแพรไหม มีความสำคัญต่ออารยธรรมโลกอย่างไร

ก. เป็นเส้นทางที่จีนส่งทูตและสินค้าไปยังอาณาจักรโรมัน

ข. เป็นเส้นทางค้าขายระหว่างจีนกับอาหรับในตะวันออกกลาง

ค. เป็นเส้นทางที่เป็นสื่อกลางนำอารยธรรมจีนและตะวันตกมาพบกัน

ง. เป็นเส้นทางที่ทำให้โลกตะวันตกรู้จักผ้าไหมจากจีนและชาติต่าง ๆ

ในเอเชีย

​

10. “หากศึกษาบันทึกประวัติศาสตร์และเกร็ดชีวิตของพระนางบูเช็คเทียนแล้ว คุณอาจมองพระนางในแง่มุมที่แตกต่างไปจากเดิม จริง ๆ แล้ว การเป็นผู้หลงใหลในอำนาจของพระนาง ส่วนหนึ่งมีเหตุปัจจัยมาจากการเกิดในตระกูลมั่งคั่ง และมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายมาโดยตลอด หล่อหลอมให้มีความต้องการในเรื่องนี้อย่างไม่สิ้นสุด และด้วยความที่พระบิดาเป็นผู้มีสายตากว้างไกล รู้ว่าพระนางเป็นสตรีที่มีปฎิภาณไหวพริบ มีจิตใจกล้าหาญ จึงทำให้พระนางร่ำเรียนสรรพวิชาต่าง ๆ ไม่นานกลายเป็นหญิงที่มากด้วยความรู้ความสามารถ ซึ่งหาได้น้อยมากในสังคมยุคที่พระนางมีชีวิตอยู่”

จากเนื้อความข้างต้น ข้อใดเป็นความคิดเห็นของผู้เขียน

ก. พระนางบูเช็คเทียนเกิดในตระกูลมั่งคั่ง

ข. ตระกูลมั่งคั่งหล่อหลอมให้พระนางบูเช็คเทียนมีความต้องการอำนาจไม่สิ้นสุด

ค. บิดาของพระนางบูเซ็คเทียนอนุญาตให้เรียนศิลปะวิทยาการต่าง ๆ

ง. พระนางบูเซ็คเทียนเป็นสตรีที่มีไหวพริบ จิตใจกล้าหาญ

​