Page 1 of 89

หลักสูตรสถานศึกษา

ระดับการศึกษาปฐมวัย

พุทธศักราช 2561

ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560

(สําหรับเด็กอายุ 3 - 6 ปี)

โรงเรียนอนุบาลพอเพียง

Page 2 of 89

คํานํา

ตามที่รัฐบาล มีนโยบายให้พัฒนาการศึกษาระดับปฐมวัยอย่างจริงจัง

เพื่อให้การศึกษาระดับปฐมวัย นี้ ได้มีการพัฒนาความพร้อมให้ทันต่อการ

เปลี่ยนแปลงของสังคมโลก หลักสูตรบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

โรงเรียนอนุบาลพอเพียง เล่มนี้ จัดทําขึ้นเพื่อให้ ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้ดูแล

เด็ก ใช้เป็นแนวทางในการอบรมเลี้ยงดูเด็ก และ จัดการศึกษาให้มี

ประสิทธิภาพ สร้างเสริมให้เด็กปฐมวัยได้เติบโต มีพัฒนาการทุกด้านอย่าง

สมดุล เหมาะสมกับวัย เป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุข เติบโตเป็นพลเมือง

ที่ดี มีคุณภาพต่อไป

หลักสูตรบูรณาการ โรงเรียนอนุบาลพอเพียง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า

เล่มนี้ คงจะเป็นแนวทางในการอบรมเลี้ยงดูเด็ก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการปฐมวัยศึกษา สอดคล้อง เหมาะสมกับสภาพ

ท้องถิ่นชุมชน และบรรลุผลตามจุดหมายที่หลักสูตรกําหนด

คณะผู้จัดทํา

Page 3 of 89

คําชี้แจง

หลักสูตรบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนอนุบาลพอเพียง

เล่มนี้ จัดทําขึ้นสําหรับผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบอบรมเลี้ยงดูและพัฒนาเด็ก

ปฐมวัย ในโรงเรียน ให้ได้มีความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาเด็กปฐมวัย

เพราะเด็กในวัยนี้ ร่างกายและสมองกําลังเจริญเติบโต เด็กต้องการความรัก

ความเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด เด็กวัยนี้มีโอกาสเรียนรู้จากการใช้ประสาท

สัมผัสทั้ง ๕ ได้สํารวจ เล่น ทดลอง ค้นพบด้วยตนเอง ได้มีโอกาสคิด แก้

ปัญหา เลือก ตัดสินใจ ใช้ภาษาสื่อความหมาย คิดริเริ่มสร้างสรรค์ และอยู่

ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข ผู้ที่รับผิดชอบจึงมีหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุนให้

ความรัก ความเอาใจใส่เด็กในวัยนี้

ดังนั้น บุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย จะต้องศึกษา และทําความเข้าใจใน

โรงเรียนอนุบาลพอ เอกสารหลักสูตรบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

วิสัยทัศน์ เพียง นี้ โดยเฉพาะ ครู ผู้ดูแลเด็ก ต้องเริ่มศึกษาตั้งแต่เรื่องของ

เป้าหมาย มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โครงสร้าง พันธกิจ ปรัชญา

สื่อและ สาระการเรียนรู้รายปี จัดประสบการณ์ หลักสูตร การจัดเวลาเรียน

แหล่งเรียนรู้ การประเมินพัฒนาการ เพื่อเป็นแนวทางในการจัดทําแผนการ

จัดประสบการณ์การเรียนรู้ ต่อไป

เอกสารเล่มนี้ มีจุดเน้นที่ ครู ผู้ดูแลเด็กต้องทําความเข้าใจมากที่สุด

สาระการเรียน / สภาพที่พึงประสงค์ / ตัวบ่งชี้ / คือ ตารางวิเคราะห์มาตรฐาน

ซึ่งทุกเรื่องจะต้องเกี่ยวข้อง (ประสบการณ์สําคัญ – สาระที่ควรเรียนรู้) รู้

สัมพันธ์กัน และจะต้องจัดให้มีในแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และ

การประเมินพัฒนาการ

Page 4 of 89

สารบัญ

หน้า

คํานํา

คําชี้แจง

ปรัชญา

วิสัยทัศน์ 1

พันธกิจ 2

เป้าหมาย 3

หลักสูตรบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอพียง 4

ยุทธศาสตร์แผนการศึกษาแห่งชาติ 4

มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 5

โครงสร้างหลักสูตร 12

การจัดเวลา 12

สาระการเรียนรู้รายปี 14

การจัดประสบการณ์ 26

นวัตกรรมการจัดประสบการณ์ ‒ แนวคิด 26

รูปแบบการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามวิถีชีวิตไทย 26

โรงเรียนวิถีพุทธ 28

การสอนแบบไฮสโคป 29

การสอนแบบวอลดอร์ฟ 31

หลักการจัดประสบการณ์ 33

แนวการจัดประสบการณ์ 33

การจัดกิจกรรมประจําวัน 34

หน่วยการจัดประสบการณ์ 36

สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 46

Page 5 of 89

สื่อประกอบการจัดกิจกรรม 46

แหล่งเรียนรู้ 50

การประเมินพัฒนาการ 50

Page 6 of 89

ชื่อสถานศึกษา

โรงเรียนอนุบาลพอเพียง

หลักสูตร

บูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ปรัชญา

เรียนรู้คู่คุณธรรม น้อมนําหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติ

วิสัยทัศน์

จัดการศึกษาที่มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ และพัฒนาการเหมาะ

สมตามวัย สืบสานความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ ก้าวทันเทคโนโลยี ดํารงชีวิต

ตามเศรษฐกิจพอเพียง มีทักษะชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข

พันธกิจ

1. จัดสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการพัฒนาเด็กให้มีความพร้อมทั้ง 4

ด้าน

2. พัฒนาเด็กโดยบูรณาการผ่านการเล่นและกิจกรรมที่เหมาะสมกับ

วัย โดยเน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ

3. จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม อยู่ในสังคม

อย่างมีความสุขตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง

4. จัดกิจกรรมโดยสอดแทรก แนวพระราชดําริหลักเศรษฐกิจพอ

เพียง

5. พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความเข้าใจและทักษะในการจัด

ประสบการณ์กิจกรรมพัฒนาเด็กอย่างหลากหลาย

6. จัดกิจกรรมส่งเสริมความเป็นไทยการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่ง

แวดล้อม

เป้าหมาย

1. เด็กทุกคนได้รับการพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์ – จิตใจ สังคม

และสติปัญญาเต็มศักยภาพเหมาะสมกับวัย

2. เด็กทุกคนรู้จักใช้ชีวิต ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่เหมาะสม

3. เด็กทุกคนมีความรักในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

4. เด็กทุกคนรักและภูมิใจในความเป็นไทย

5. เด็กทุกคนมีทักษะกระบวนการคิดการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือ

ตนเองในชีวิตประจําวันได้อย่างเหมาะสมกับวัย

6. ครูทุกคนจัดกระบวนการเรียนรู้ให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงจาก

แหล่งเรียนรู้ในชุมชน

Page 7 of 89

หลักสูตรบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สร้างจากแผนปรัชญา

การศึกษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ปรัชญา

เศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางการดําเนินชีวิตและวิถีปฏิบัติที่พระองค์ทรงมี

พระราชดํารัสชี้แนะแก่พสกนิกรชาวไทย พัฒนาบนหลักแนวคิดพึ่งตนเอง

เพื่อให้เกิดความพอมีพอกินพอใช้โดยใช้หลักความพอประมาณการคํานึงถึง

การมีเหตุผลและการมีคุณธรรมเป็นกรอบในการปฏิบัติ และการดํารงชีวิต

หลักสูตรบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ

แผนการศึกษาแห่งชาติ ดังนี้

ยุทธศาสตร์ที่ 1 การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและ

ประเทศชาติ

ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัยและการสร้าง

สังคมแห่งการเรียนรู้

ยุทธศาสตร์ที่ 4 สร้างโอกาสและความเสมอภาคและความเท่า

เทียมทางการศึกษา

ยุทธศาสตร์ที่ 5 จัดการศึกษาเพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตร

กับสิ่งแวดล้อม

ยุทธศาสตร์ที่ 6 การพัฒนาประสิทธิภาพของระบบบริหารจัดการ

ศึกษา

มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์

หลักสูตรบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กําหนดมาตรฐาน

คุณลักษณะที่พึงประสงค์จํานวน 9 มาตรฐาน ประกอบด้วย

1. พัฒนาการด้านร่างกาย ประกอบด้วย 2 มาตรฐาน คือ

มาตรฐานที่ 1 ร่างกายเจริญเติบโตตามวัยและมีสุขนิสัยที่ดี

มาตรฐานที่ 2 กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรง

ใช้ได้อย่างคล่องแคล่วและประสานสัมพันธ์กัน

2. พัฒนาการด้านอารมณ์ – จิตใจ ประกอบด้วย 2 มาตรฐาน คือ

มาตรฐานที่ 3 มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข

มาตรฐานที่ 4 มีคุณธรรมจริยธรรมและจิตใจที่ดีงาม

3. พัฒนาการด้านสังคม ประกอบด้วย 2 มาตรฐาน คือ

มาตรฐานที่ 5 มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญา

เศรษฐกิจพอเพียง

Page 8 of 89

มาตรฐานที่ 6 รักธรรมชาติสิ่งแวดล้อมวัฒนธรรมและความ

เป็นไทย

4. พัฒนาการด้านสติปัญญา ประกอบด้วย 3 มาตรฐาน คือ

มาตรฐานที่ 7 มีความสามารถในการคิดและแก้ปัญหาได้

เหมาะสมตามวัย

มาตรฐานที่ 8 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้

มาตรฐานที่ 9 ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย

ตัวบ่งชี้

ตัวบ่งชี้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาเด็กที่มีความสัมพันธ์สอดคล้องกับ

มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์

สภาพที่พึงประสงค์

สภาพที่พึงประสงค์เป็นพฤติกรรมหรือความสามารถตามวัยที่คาดหวัง

ให้เด็กเกิด บนพื้นฐานพัฒนาการตามวัยหรือความสามารถตามธรรมชาติใน

แต่ละระดับอายุ เพื่อนําไปใช้ในการกําหนดสาระการเรียนรู้ในการจัด

ประสบการณ์ และประเมินพัฒนาการเด็ก โดยมีรายละเอียดของมาตรฐาน

คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบ่งชี้ และสภาพที่พึงประสงค์ ดังนี้

Page 9 of 89

มาตรฐานที่ 1 ร่างกายเจริญเติบโตตามวัยและมีสุขนิสัยที่ดี

ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์

อายุ 3 - 4 ปี อายุ 4 - 5 ปี อายุ 5 - 6 ปี

1.1 น้ําหนักส่วน

สูงตามเกณฑ์

1. น้ําหนักส่วนสูง

ตามเกณฑ์

1. น้ําหนักส่วนสูง

ตามเกณฑ์

1. น้ําหนักส่วนสูง

ตามเกณฑ์

1.2 มีสุขภาพ

อนามัยสุขนิสัยที่

ดี

1. ยอมรับ

ประทานอาหารที่

มีประโยชน์

1. ยอมรับ

ประทานอาหารที่

มีประโยชน์ได้

บางชนิด

1. ยอมรับ

ประทานอาหารที่

มีประโยชน์ได้

หลายชนิด

2. ล้างมือโดยมีผู้

ชี้แนะ

2. ล้างมือหลัง

จากใช้ห้องน้ํา

ห้องส้วมด้วย

ตนเอง

2. ล้างมือหลัง

จากใช้ห้องน้ํา

ห้องส้วม และ

ก่อนรับประทาน

อาหารด้วย

ตนเอง

1.3 รักษาความ

ปลอดภัยของ

ตนเอง

1. ปฏิบัติตน ให้

ปลอดภัย

1. ระมัดระวัง

ความปลอดภัย

ของตนเอง

1. ระมัดระวัง

ความปลอดภัย

ของตนเองและผู้

อื่น

Page 10 of 89

มาตรฐานที่ 2 กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรงใช้ได้อย่าง

คล่องแคล่วและประสานสัมพันธ์กัน

ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์

อายุ 3 - 4 ปี อายุ 4 - 5 ปี อายุ 5 - 6 ปี

2.1 เคลื่อนไหว

ร่างกายอย่าง

คล่องแคล่วและ

ทรงตัวได้ดี

1. วิ่งแล้วหยุดได้ 1. วิ่งแล้วหยุดได้

โดยเสียการ

ทรงตัวเล็กน้อย

1. วิ่งแล้วหยุดได้

โดยไม่เสียการ

ทรงตัว

2. กระโดดขึ้น- ลงอยู่กับที่ได้

2. กระโดดขา

เดียวอยู่กับที่ได้

2. กระโดดขา

เดียวไปข้างหน้า

ได้อย่างต่อเนื่อง

3. เดินขึ้นบันได

สลับเท้าโดยใช้

มือจับราวบันได

3. เดินขึ้น-ลง

บันไดสลับเท้าได้

โดยไม่ใช้มือจับ

ราวบันได

3. เดินขึ้น - ลง

บันไดสลับเท้าได้

โดยไม่ใช้มือจับ

ราวบันไดได้

อย่างคล่องแคล่ว

2.2 ใช้มือได้

อย่างคล่องแคล่ว

1. โยนลูกบอลได้ 1. โยนลูกบอลไป

ข้างหน้าได้

1. โยนลูกบอลไป

ข้างหน้าได้อย่าง

มีเป้าหมาย

2. ลากเส้น

ลักษณะเป็น

วงกลม

2. เขียนรูป

สี่เหลี่ยมมีมุม

ชัดเจน

2. เขียนรูปทรง

เลขาคณิตได้

ชัดเจน

3. ตัดกระดาษ

ขาดจากกันได้

3. ตัดกระดาษ

ตามแนวเส้นได้

3. ตัดกระดาษ

ตามแนวเส้นได้

โดยไม่มีรอย

หยัก

Page 11 of 89

มาตรฐานที่ 3 มีสุขภาพจิตที่ดีและมีความสุข

ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์

อายุ 3 - 4 ปี อายุ 4 - 5 ปี อายุ 5 - 6 ปี

3.1 แสดงออก

ทางอารมณ์อย่าง

เหมาะสมกับวัย

และสถานการณ์

1. ร่าเริงแจ่มใส

อารมณ์ดี

1. ร่าเริมแจ่มใส

อารมณ์ดี

1. ร่าเริงแจ่มใส

อารมณ์ดี

2. เริ่มแสดงออก

ทางอารมณ์ได้

เหมาะสมกับบาง

สถานการณ์

2. แสดงออกทาง

อารมณ์ได้เหมาะ

สมกับบาง

สถานการณ์

2. พึงพอใจ

ชื่นชมในผลงาน

ของตนเองและผู้

อื่นได้

3.2 มีความรูสึกที่

ดีต่อตนเองและผู้

อื่น

1. พึงพอใจความ

สามารถและผล

งานของตนเอง

2. เริ่มมีความ

มั่นใจในตนเอง

1. พึงพอใจ

ชื่นชมในผลงาน

ของตนเองและผู้

อื่นได้บ้าง

2. มีความมั่นใจ

ในตนเอง

1. พึงพอใจ

ชื่นชมในผลงาน

ของตนเองและผู้

อื่นได้

2. มีความมั่นใจ

ในตนเองและ

กล้าแสดงออก

Page 12 of 89

มาตรฐานที่ 4 มีคุณธรรมจริยธรรมและมีจิตใจที่ดีงาม

ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์

อายุ 3 - 4 ปี อายุ 4 - 5 ปี อายุ 5 - 6 ปี

4.1 ซื่อสัตย์สุจริต

และยอมรับความ

ผิดพลาดของ

ตนเอง

1. รู้ว่าสิ่งของใด

เป็นของตนเอง

และสิ่งของใด

เป็นของผู้อื่น

1. ไม่แย่งหรือ

หยิบของผู้อื่นมา

เป็นของตนเอง

1. ไม่แย่งหรือ

หยิบของผู้อื่นมา

เป็นของตนเอง

2. รู้จักขอโทษ 2. รู้จักขอโทษ

และให้อภัยโดย

มีผู้ชี้แนะ

2. รู้จักกล่าว

คําขอโทษด้วย

ตนเอง และรู้จัก

การให้อภัยผู้อื่น

4.2 มีวินัยใน

ตนเองและมี

ความรับผิดชอบ

1. รู้จักเก็บของ

เล่นและอุปกรณ์

ต่างๆเข้าที่ได้

1. เก็บของเล่น

และอุปกรณ์

ต่างๆเข้าที่ได้ถูก

ต้อง

1. เก็บของเล่น

และอุปกรณ์

ต่างๆเข้าที่ได้ถูก

ต้องและ

เรียบร้อย

2. ทํางานที่ได้รับ

มอบหมายได้

2. ทํางานที่ได้รับ

มอบหมายได้จน

สําเร็จ

2. มีความ

พยายามและมุ่ง

มั่นที่จะทํางาน

ให้สําเร็จได้ด้วย

ตนเอง

Page 13 of 89

มาตรฐานที่ 5 มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์

อายุ 3 - 4 ปี อายุ 4 - 5 ปี อายุ 5 - 6 ปี

5.1 ช่วยเหลือ

ตนเองในการ

ปฏิบัติตนในการ

ปฏิบัติกิจวัตร

ประจําวัน

1. แต่งตัวโดยมีผู้

ช่วยเหลือ

1. แต่งตัวด้วย

ตนเอง

1. แต่งตัวด้วย

ตนเองได้อย่าง

คล่องแคล่ว

2. รับประทาน

อาหารด้วย

ตนเอง

2. รับประทาน

อาหารด้วย

ตนเอง

2. รับประทาน

อาหารด้วย

ตนเองอย่างถูก

วิธี

3. ใช้ห้องน้ําห้อง

ส้วมโดยมีผู้ช่วย

เหลือ

3. ใช้ห้องน้ําห้อง

ส้วมด้วยตนเอง

3. ใช้และ

ทําความสะอาด

หลังใช้ห้องน้ํา

ด้วยตนเอง

5.2 มีวินัยใน

ตนเอง

1. เก็บของเล่น

ของ ใช้เข้าที่เมื่อ

มีผู้ชี้แนะ

1. เก็บของเล่น

ของใช้เข้าที่ด้วย

ตนเอง

1. เก็บของเล่น

ของใช้เข้าที่

อย่างเรียบร้อย

ด้วยตนเอง

2. เข้าแถวตาม

ลําดับก่อนหลัง

ได้เมื่อมีผู้ชี้แนะ

2. เข้าแถวตาม

ลําดับก่อนหลัง

ได้ด้วยตนเอง

2. เข้าแถวตาม

ลําดับก่อนหลัง

ได้

5.3 ประหยัด

อดออม พอเพียง

1. ใช้สิ่งของ

เครื่องใช้อย่าง

ประหยัดและพอ

เพียงเมื่อมี

ผู้ชี้แนะ

1. ใช้สิ่งของ

เครื่องใช้อย่าง

ประหยัดและพอ

เพียงเมื่อมี

ผู้ชี้แนะ

1. ใช้สิ่งของ

เครื่องใช้อย่าง

ประหยัดและพอ

เพียงด้วยตนเอง

2. รู้จักการออม

เงินโดยมีครูเป็น

ผู้แนะนํา

2. รู้จักการออม

เงินได้ด้วยตนเอง

2. รู้จักการ ออม

เงินและรู้จัก

คุณค่าของเงิน

Page 14 of 89

3. ไม่ทําลาย

สิ่งของเครื่องใช้

3. รักษาสิ่งของ

เครื่องใช้ร่วมกัน

3. เก็บสิ่งของ

เครื่องใช้เล่นและ

อุปกรณ์ต่างๆ

เข้าที่ได้อย่างถูก

ต้องและ

เรียบร้อย

Page 15 of 89

มาตรฐานที่ 6 รักธรรมชาติสิ่งแวดล้อมวัฒนธรรม

ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์

อายุ 3 - 4 ปี อายุ 4 - 5 ปี อายุ 5 - 6 ปี

6.1 ดูแลรักษา

ธรรมชาติและสิ่ง

แวดล้อม

1. ดูแลรักษา

ธรรมชาติและสิ่ง

แวดล้อม

1. สนใจ

ธรรมชาติและสิ่ง

แวดล้อมรอบตัว

1. สนใจ

ธรรมชาติและสิ่ง

แวดล้อมรอบตัว

2. ทิ้งขยะถูกที่ 2. ทิ้งขยะถูกที่ 2. ทิ้งขยะถูกที่

3. ไม่ทําลาย

สาธารณสมบัติ

3. ไม่ทําลาย

สาธารณสมบัติ

4. ช่วยกันดูแล

รักษาสิ่งแวดล้อม

รอบตัว

4. ช่วยกันดูแล

รักษาสิ่งแวดล้อม

รอบตัว

6.2 มีสัมมา

คารวะและ

มารยาทตาม

วัฒนธรรมไทย

1. แสดงความ

เคารพได้

1. แสดงความ

เคารพได้

1. แสดงความ

เคารพได้

2. รู้จักกล่าวคํา

ขอบคุณและ

ขอโทษ

2. รู้จักกล่าวคํา

ขอบคุณและ

ขอโทษ

3. ปฏิบัติตนได้

เหมาะสมตาม

กาลเทศะ

3. ปฏิบัติตนได้

เหมาะสมตาม

กาลเทศะ

Page 16 of 89

มาตรฐานที่ 7 มีความสามารถในการคิดและแก้ปัญหาได้เหมาะสมตามวัย

ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์

อายุ 3 - 4 ปี อายุ 4 - 5 ปี อายุ 5 - 6 ปี

7.1 มีความคิด

รวบยอดในการ

เรียนรู้สิ่งต่างๆ

1. จําแนกสิ่งของ

ได้ตามสี รูปทรง

ขนาด

1. จําแนกสิ่งของ

ได้ตามสี รูปทรง

ขนาด ประเภท

1. จําแนกสิ่งของ

ได้ตามสี รูปทรง

ขนาด ประเภท

น้ําหนัก

7.2 แก้ปัญหาใน

การทํากิจกรรม

ต่างๆ

1. ขอความช่วย

เหลือเมื่อมีปัญหา

1. พยายามแก้

ปัญหาด้วย

ตนเองหลังจาก

ได้รับคําแนะนํา

1. พยายามหาวิธี

แก้ปัญหาด้วย

ตนเอง

2. ตัดสินใจใน

เรื่องง่ายๆได้

2. รู้จักตัดสินใจ

ในเรื่องง่ายๆได้

และเริ่มเรียนรู้ผล

ที่เกิดขึ้น

2. ตัดสินใจใน

เรื่องง่ายๆได้และ

ยอมรับผลที่เกิด

ขึ้น

Page 17 of 89

มาตรฐานที่ 8 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้

ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์

อายุ 3 - 4 ปี อายุ 4 - 5 ปี อายุ 5 - 6 ปี

8.1 สนใจเรียนรู้

สิ่งต่างๆรอบตัว

1. ร่วมกิจกรรม

ด้วยความสนใจ

ระยะเวลาสั้น

1. ร่วมกิจกรรม

ด้วยความสนใจ

ได้นานขึ้นอย่างมี

ความสุข

1. ร่วมกิจกรรม

ด้วยความสนใจ

ตั้งแต่ต้นจนจบ

อย่างมีความสุข

8.2 แสวงหาคํา

ตอบด้วยวิธีการที่

หลากหลาย

1. ใช้คําถามได้ 1. ถามคําถาม

เกี่ยวกับเรื่องที่

สนใจ

1. ถามคําถาม/

แสดงความคิด

เห็นเกี่ยวกับเรื่อง

ที่สนใจ

2. แสวงหาคํา

ตอบข้อสงสัย

ต่างๆ

2. แสวงหาคํา

ตอบข้อสงสัย

ต่างๆด้วยวิธีการ

ต่างๆ

2. แสวงหาคํา

ตอบข้อสงสัย

ต่างๆด้วยวิธีการ

ต่างๆที่หลาก

หลาย

3. เชื่อมโยง

ความรู้และทักษะ

ต่างๆที่ใช้ในชีวิต

ประจําวัน

3. เชื่อมโยง

ความรู้และทักษะ

ต่างๆที่ใช้ในชีวิต

ประจําวันได้

3. เชื่อมโยง

ความรู้และทักษะ

ต่างๆที่ใช้ในชีวิต

ประจําวันได้ดี

Page 18 of 89

มาตรฐานที่ 9 ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย

โครงสร้างหลักสูตร

การจัดเวลาเรียน

เวลาในการจัดเวลาเรียน(ประสบการณ์/กิจกรรมการเรียนรู้) สําหรับ

เด็กอนุบาล 3 - 6 ปี โรงเรียน

อนุบาลพอเพียงใช้ระยะเวลา 1 ปีการศึกษา 245 วัน สัปดาห์ละ 5 วัน วันละ

6 ชั่วโมง โดยแบ่งระยะเวลาการจัดการศึกษาเป็น 2 ภาคเรียน

ตารางกําหนดเวลาเรียน ระดับ ปฐมวัย 3 - 6 ปี

ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์

อายุ 3 - 4 ปี อายุ 4 - 5 ปี อายุ 5 - 6 ปี

9.1 สนทนา

โต้ตอบ/เล่าเรื่อง

ให้ผู้อื่นเข้าใจ

1. สนทนา

โต้ตอบ/เล่าเรื่อง

ด้วยประโยคสั้นๆ

ได้

1. สนทนา

โต้ตอบ/เล่าเรื่อง

ด้วยประโยคสั้นๆ

ได้อย่างต่อเนื่อง

1. สนทนา

โต้ตอบ/เล่าเรื่อง

ได้

2. ฟังแล้วปฏิบัติ

ตามคําสั่งง่ายๆ

ได้

2. ฟังแล้วปฏิบัติ

ตามคําสั่งที่ต่อ

เนื่องได้

2. ฟังแล้วนํามา

ถ่ายทอดได้

ภาคเรียนที่ วัน) เวลาเรียน) หมายเหตุ

1 123

2 122

รวม 245

กิจกรรม วัน/นาที)เวลาเรียน)

1. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ 20

2. กิจกรรมสร้างสรรค์ 30

Page 19 of 89

3. กิจกรรมเสรี 35

4. กิจกรรมกลางแ

จ้ง 30

5. กิจกรรมเสริมประสบการณ์ 25

6. เกมการศึกษา 20

7. ทักษะพื้นฐานในชีวิตประจําวัน - ตรวจสุขภาพ ไปห้องน้ํา - ล้างมือ ล้างเท้า - รับประทานอาหาร - นอนพักผ่อน - เก็บที่นอน ล้างหน้า แปรงฟั

10

10

50

120

10

รวม 6 วัน /

ชั่วโมง

Page 20 of 89

ตารางกิจกรรมประจําวัน

ระดับปฐมวัย 3 - 6 ปี

เวลา กิจกรรม

07.30 น. – 08.30 น. รับเด็ก

08.30 น. – 08.45 น. กิจกรรมหน้าเสาธง

08.45 น. – 08.55 น. ตรวจสุขภาพ ไปห้องน้ํา

08.55 น. – 09.15 น. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ

09.15 น. – 09.40 น. กิจกรรมเสริมประสบการณ์

09.40 น. – 10.10 น. กิจกรรมสร้างสรรค์

10.10 น. – 10.40 น. กิจกรรมกลางแจ้ง

10.40 น. – 11.10 น. มุมประสบการณ์/กิจกรรมเสรี

11.10 น. – 11.20 น. ล้างมือ ล้างเท้า

11.20 น. – 12.10น. แปรง / รับประทานอาหารกลางวัน

ปูที่นอน/ฟัน

12.10 น. – 14.10 น. นอนพักผ่อน

14.10 น. – 14.20 น. เก็บที่นอน ล้างหน้า แปรงฟัน

14.20 น. – 14.40 น. กิจกรรมเกมการศึกษา

14.40 น. – 15.00น. เตรียมตัวกลับบ้าน / ดื่มนม

Page 21 of 89

สาระการเรียนรู้รายปีสําหรับเด็ก อายุ 3 - 6 ปี

พัฒนาการ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึง

ประสงค์

สาระการเรียนรู้

อายุ 3 - 4 ปี สาระที่

ควรเรียน

รู้

ประสบกา

รณ์สําคัญ

ด้านร่างกาย มาตรฐาน

ที่

1ร่างกาย

เจริญ

เติบโต

ตามวัย

และมีสุข

นิสัยที่ดี

1.1 น้ํา

หนักส่วน

สูงตาม

เกณฑ์

1.2 มี

สุขภาพ

อนามัยสุข

นิสัยที่ดี

1.3 รักษา

ความ

ปลอดภัย

ของตนเอง

1.1.1. น้ํา

หนักส่วนสูง

ตามเกณฑ์

1.2.1

ยอมรับ

ประทาน

อาหารที่มี

ประโยชน์

1.2.2 ล้าง

มือหลังจาก

ใช้ห้องน้ํา

ห้องส้วม

ด้วยตนเอง

1.3.1ระมัดร

ะวังความ

ปลอดภัย

ของตนเอง

1. อาหาร

ที่มี

ประโยชน์

ต่อ

ร่างกาย

2. ความ

สะอาด

ของ

ร่างกาย

3. ความ

ปลอดภัย

ของ

ตนเอง

4. การ

ออก

กําลังกาย

- น้ําหนัก

ส่วนสูง

ตาม

เกณฑ์

มาตรฐาน

- เด็กรู้จัก

อาหารที่

มี

ประโยชน์

ต่อ

ร่างกาย

- เด็กรู้จัก

ดูแล

รักษา

ร่างกาย

สะอาด

ให้แข็ง

แรงและ

Page 22 of 89

มาตรฐาน ที่ 2

กล้ามเนื้อ

ใหญ่และ

กล้ามเนื้อ

เล็กแข็ง

แรงใช้ได้

อย่าง

คล่องแคล่

วและ

ประสาน

สัมพันธ์

กัน

2.1

เคลื่อนไหว

ร่างกาย

อย่าง

คล่องแคล่ว

และทรงตัว

ได้ดี

2.2ใช้มือ

ได้อย่าง

คล่องแคล่ว

2.1.1. วิ่ง

แล้วหยุดได้

2.1.2.

กระโดดขึ้น

-

ลงอยู่กับที่

ได้

2.1.3 เดิน

ขึ้นบันได

สลับเท้าโดย

ใช้มือจับราว

บันได

2.2.1. โยน

ลูกบอลได้

2.2.2. ลาก

เส้นลักษณะ

เป็นวงกลม

2.2.3. ตัด

กระดาษขาด

จากกันได้

ให้แข็ง

แรงและ

ปลอดภัย

โดยมีผู้

แนะนํา

- เด็กเล่น

ด้วย

ความ

ระมัดระวั

งโดยมีผู้

แนะนํา

และดูแล

อย่างใกล้

ชิด

Page 23 of 89

พัฒนาการ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึง

ประสงค์

สาระการเรียนรู้

อายุ 4 - 5 ปี สาระที่

ควรเรียน

รู้

ประสบกา

รณ์สําคัญ

ด้าน

ร่างกาย

มาตรฐานที่

1ร่างกาย

เจริญ

เติบโตตาม

วัยและมีสุข

นิสัยที่ดี

1.1 น้ํา

หนักส่วน

สูงตาม

เกณฑ์

1.2 มี

สุขภาพ

อนามัยสุข

นิสัยที่ดี

1.3 รักษา

ความ

ปลอดภัย

ของตนเอง

1.1.1. น้ํา

หนักส่วนสูง

ตามเกณฑ์

1.2.1.

ยอมรับ

ประทาน

อาหารที่มี

ประโยชน์ได้

บางชนิด

1.2.2 ล้าง

มือหลังจาก

ใช้ห้องน้ํา

ห้องส้วม

ด้วยตนเอง

1.3.1

ระมัดระวัง

ความ

ปลอดภัย

ของตนเอง

1. อาหาร

ที่มี

ประโยชน์

ต่อ

ร่างกาย

2.ความ

สะอาด

ของ

ร่างกาย

3.ความ

ปลอดภัย

ของ

ตนเอง

4.การ

ออก

กําลังกาย

- น้ําหนัก

ส่วนสูง

ตาม

เกณฑ์

มาตรฐาน

- เด็กรู้จัก

อาหาร

หลัก 5

หมู่

- เด็กรู้จัก

ดูแล

รักษา

ร่างกาย

ให้แข็ง

แรงและ

ปลอดภัย

ได้ด้วย

ตนเอง

- เด็กเล่น

ด้วย

ความ

Page 24 of 89

มาตรฐานที่ 2

กล้ามเนื้อ

ใหญ่และ

กล้ามเนื้อ

เล็กแข็งแรง

ใช้ได้อย่าง

คล่องแคล่ว

และ

ประสาน

สัมพันธ์กัน

2.1

เคลื่อนไหว

ร่างกาย

อย่าง

คล่องแคล่

วและ

ทรงตัวได้ ดี

2.2 ใช้มือ

ได้อย่าง

คล่องแคล่ ว

2.1.1 วิ่ง

แล้วหยุดได้

โดยเสียการ

ทรงตัวเล็ก

น้อย

2.1.2.

กระโดดขา

เดียวอยู่กับที่

ได้

2.1.3. เดิน

ขึ้น

-ลงบันได

สลับเท้าได้

โดยไม่ใช้มือ

จับราวบันได

2.2.1. โยน

ลูกบอลไป

ข้างหน้าได้

2.2.2. เขียน

รูปสี่เหลี่ยมมี

มุมชัดเจน

2.2.3. ตัด

กระดาษตาม

แนวเส้นได้

ด้วย

ความ

ระมัดระวั

งต่อ

ตนเอง

และผู้อื่น

โดยมีผู้

แนะนํา

Page 25 of 89

พัฒนาการ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึง

ประสงค์

สาระการเรียนรู้

อายุ 5-6 ปี สาระที่

ควรเรียน

รู้

ประสบกา

รณ์สําคัญ

ด้าน

ร่างกาย

มาตรฐานที่

1ร่างกาย

เจริญ

เติบโตตาม

วัยและมีสุข

นิสัยที่ดี

1.1 น้ํา

หนักส่วน

สูงตาม

เกณฑ์

1.2 มี

สุขภาพ

อนามัยสุข

นิสัยที่ดี

1.3 รักษา

ความ

ปลอดภัย

ของตนเอง

1.1.1. น้ํา

หนักส่วนสูง

ตามเกณฑ์

1.2.1.

ยอมรับ

ประทาน

อาหารที่มี

ประโยชน์ได้

หลายชนิด

1.2.2. ล้าง

มือหลังจาก

ใช้ห้องน้ํา

ห้องส้วมและ

ก่อนรับ

ประทาน

อาหารด้วย

ตนเอง

1.3.1.

ระมัดระวัง

ความ

ปลอดภัย

ของตนเอง

และผู้อื่น

1. อาหาร

ที่มี

ประโยชน์

ต่อ

ร่างกาย

2. ความ

สะอาด

ของ

ร่างกาย

3. ความ

ปลอดภัย

ของ

ตนเอง

4. การ

ออก

กําลังกาย

- น้ําหนัก

ส่วนสูง

ตาม

เกณฑ์

มาตรฐาน

- เด็กบอก

ประโยชน์

ของ

อาหาร

หลัก 5

หมู่ได้

- เด็ก

ปฏิบัติ

และดูแล

รักษา

ร่างกาย

ให้แข็ง

แรงและ

ปลอดภัย

ได้ด้วย

ตนเอง

- เด็ก

ปฏิบัติ

และเล่น

Page 26 of 89

มาตรฐานที่ 2

กล้ามเนื้อ

ใหญ่และ

กล้ามเนื้อ

เล็กแข็งแรง

ใช้ได้อย่าง

คล่องแคล่ว

และ

ประสาน

สัมพันธ์กัน

2.1

เคลื่อนไหว

ร่างกาย

อย่าง

คล่องแคล่

วและ

ทรงตัวได้ ดี

2.2ใช้มือ

ได้อย่าง

คล่องแคล่ ว

2.1.1. วิ่ง

แล้วหยุดได้

โดยไม่เสีย

การทรงตัว

2.1.2.

กระโดดขา

เดียวไปข้าง

หน้าได้อย่าง

ต่อเนื่อง

2.1.3. เดิน

ขึ้น - ลง

บันไดสลับ

เท้าได้โดย

ไม่ใช้มือจับ

ราวบันไดได้

อย่าง

คล่องแคล่ว

2.2.1. โยน

ลูกบอลไป

ข้างหน้าได้

อย่างมีเป้า

หมาย

2.2.2. เขียน

รูปทรงเลขา

คณิตได้

ชัดเจน

2.2.3. ตัด

กระดาษตาม

แนวเส้นได้

โดยไม่มีรอย

หยัก

ปฏิบัติ

และเล่น

ด้วย

ความ

ระมัดระวั

งต่อ

ตนเอง

และผู้อื่น

Page 27 of 89

พัฒนาการ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึง

ประสงค์

สาระการเรียนรู้

อายุ 3 - 4 ปี สาระที่

ควรเรียน

รู้

ประสบกา

รณ์สําคัญ

ด้านอารมณ์

- จิตใจ

มาตรฐานที่

3

มีสุขภาพ

จิตที่ดีและมี

ความสุข

3.1

แสดงออก

ทาง

อารมณ์

อย่าง

เหมาะสม

กับวัยและ

สถานการ

ณ์

3.2 มี

ความรูสึก

ที่ดีต่อ

ตนเองและ

ผู้อื่น

3.1.1 ร่าเริง

แจ่มใส

อารมณ์ดี

3.1.2 เริ่ม

แสดงออก

ทางอารมณ์

ได้เหมาะสม

กับบาง

สถานการณ์

3.2.1 พึง

พอใจความ

สามารถและ

ผลงานของ

ตนเอง

3.2.2 เริ่มมี

ความมั่นใจ

ในตนเอง

1.

สามารถ

แสดงออ

กได้

เหมาะสม

กับวัย

และ

เหตุการ

ณ์

2. แสดง

ความ

รู้สึกที่ดี

ต่อตนเอง

และผู้อื่น

3. มี

มารยาท

อันดีงาม

4. มี

- การ

แสดงออ

กอย่าง

สนุกสนา

นต่อเรื่อง

ราวและ

เหตุการณ์

ต่าง

- แสดง

ความรู้สึก

และความ

พึงพอใจ

ในผลงาน

ของ

ตนเอง

และผู้อื่น

โดยมีผู้

แนะนํา

Page 28 of 89

มาตรฐานที่

4

มีคุณธรรม

จริยธรรม

และมีจิตใจ

ที่ดีงาม

4.1.

ซื่อสัตย์

สุจริตและ

ยอมรับ

ความผิด

พลาดของ

ตนเอง

4.2 มีวินัย

ในตนเอง

และมี

ความรับ

ผิดชอบ

4.1.1. รู้ว่า

สิ่งของใด

เป็นของ

ตนเองและ

สิ่งของใด

เป็นของผู้อื่น

4.1.2. รู้จัก

ขอโทษ

4.2.1. รู้จัก

เก็บของเล่น

และอุปกรณ์

ต่างๆเข้าที่

ได้

4.2.2.

ทํางานที่ได้

รับมอบ

หมายได้

4. มี

ระเบียบ

วินัยใน

ตนเอง

5. รู้ว่า

สิ่งของใด

เป็นของ

ตนเอง

และ

สิ่งของใด

เป็นของผู้

อื่น

โดยมีผู้

แนะนํา

- เรียนรู้

การเก็บ

สิ่งของ

ต่างๆหลัง

การเล่น

ได้โดยมี

ผู้ชี้แนะ

- เรียนรู้

ว่าสิ่งของ

ใดเป็น

ของ

ตนเอง

และเป็น

ของผู้อื่น

โดยมีผู้

ชี้แนะ

- มี

ระเบียบ

วินัย และ

มีความ

รับผิด

ชอบ ใน

ตนเอง

และผู้อื่น

โดยมีผู้

ชี้แนะ

Page 29 of 89

พัฒนาการ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึง

ประสงค์

สาระการเรียนรู้

อายุ 4-5 ปี สาระที่

ควรเรียน

รู้

ประสบกา

รณ์สําคัญ

ด้านอารมณ์

- จิตใจ

มาตรฐานที่

3

มีสุขภาพ

จิตที่ดีและมี

ความสุข

3.1

แสดงออก

ทาง

อารมณ์

อย่าง

เหมาะสม

กับวัยและ

สถานการ

ณ์

3.2 มี

ความรูสึก

ที่ดีต่อ

ตนเองและ

ผู้อื่น

3.1.1 ร่าเริม

แจ่มใส

อารมณ์ดี

3.1.2

แสดงออก

ทางอารมณ์

ได้เหมาะสม

กับบาง

สถานการณ์

3.2.1 พึง

พอใจชื่นชม

ในผลงาน

ของตนเอง

และผู้อื่นได้

บ้าง

3.2.2 มี

ความมั่นใจ

ในตนเอง

1.

สามารถ

แสดงออ

กได้

เหมาะสม

กับ

เหตุการ

ณ์

2. กล้า

แสดงออ

3. แสดง

ความ

รู้สึกที่ดี

ต่อตนเอง

และผู้อื่น

4. มี

ระเบียบ

วินัยใน

- แสดง

บทบาท

สมมุติ

อย่าง

สนุกสนา

นต่อเรื่อง

ราวและ

เหตุการณ์

ต่างได้

- แสดง

ความรู้สึก

และความ

พึงพอใจ

ในผลงาน

ของ

ตนเอง

และผู้อื่น

โดยมีผู้

แนะนํา

Page 30 of 89

มาตรฐานที่

4

มีคุณธรรม

จริยธรรม

และมีจิตใจ

ที่ดีงาม

4.1.

ซื่อสัตย์

สุจริตและ

ยอมรับ

ความผิด

พลาดของ

ตนเอง

4.2 มีวินัย

ในตนเอง

และมี

ความรับ

ผิดชอบ

4.1.1. ไม่

แย่งหรือ

หยิบของผู้

อื่นมาเป็น

ของตนเอง

4.1.2. รู้จัก

ขอโทษและ

ให้อภัยโดย

มีผู้ชี้แนะ

4.2.1. เก็บ

ของเล่นและ

อุปกรณ์

ต่างๆเข้าที่

ได้ถูกต้อง

4.2.2.

ทํางานที่ได้

รับมอบ

หมายได้จน

สําเร็จ

ระเบียบ

วินัยใน

ตนเอง

5. รู้ว่า

สิ่งของใด

เป็นของ

ตนเอง

และ

สิ่งของใด

เป็นของผู้

อื่น

โดยมีผู้

แนะนํา

บาง

โอกาส

- การ

เรียนรู้

การเก็บ

สิ่งของ

ต่างๆหลัง

การเล่น

- เรียนรู้

ว่าสิ่งของ

ใดเป็น

ของ

ตนเอง

และเป็น

ของผู้อื่น

โดยมีผู้

ชี้แนะบาง

โอกาส

- รู้จัก

ระเบียบ

วินัย และ

มีความ

รับผิด

ชอบใน

ตนเอง

และผู้อื่น

โดยมีผู้

ชี้แนะบาง

โอกาส

Page 31 of 89

พัฒนาการ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึง

ประสงค์

สาระการเรียนรู้

อายุ 5 - 6 ปี สาระที่

ควรเรียน

รู้

ประสบกา

รณ์สําคัญ

ด้านอารมณ์

- จิตใจ

มาตรฐานที่

3

มีสุขภาพ

จิตที่ดีและมี

ความสุข

3.1

แสดงออก

ทาง

อารมณ์

อย่าง

เหมาะสม

กับวัยและ

สถานการ

ณ์

3.2 มี

ความรูสึก

ที่ดีต่อ

ตนเองและ

ผู้อื่น

3.1.1 ร่าเริง

แจ่มใส

อารมณ์ดี

3.1.2 พึง

พอใจชื่นชม

ในผลงาน

ของตนเอง

และผู้อื่นได้

3.2.1 พึง

พอใจชื่นชม

ในผลงาน

ของตนเอง

และผู้อื่นได้

3.2.2 มี

ความมั่นใจ

ในตนเอง

และกล้า

แสดงออก

1.

สามารถ

แสดงออ

กได้

เหมาะสม

กับ

เหตุการ

ณ์

2. กล้า

แสดงออ

3. แสดง

ความ

รู้สึกที่ดี

ต่อตนเอง

และผู้อื่น

4. มี

ระเบียบ

วินัยใน

ตนเอง

- แสดง

บทบาท

สมมุติต่อ

เรื่องราว

และ

เหตุการณ์

ต่างได้

อย่าง

สนุกสนา

- แสดง

ความรู้สึก

ชื่นชม

และความ

พึงพอใจ

ในผลงาน

ของ

ตนเอง

และผู้อื่น

- รู้จักจัก

Page 32 of 89

มาตรฐานที่

4

มีคุณธรรม

จริยธรรม

และมีจิตใจ

ที่ดีงาม

4.1.

ซื่อสัตย์

สุจริตและ

ยอมรับ

ความผิด

พลาดของ

ตนเอง

4.2 มีวินัย

ในตนเอง

และมี

ความรับ

ผิดชอบ

4.1.1.ไม่

แย่งหรือ

หยิบของผู้

อื่นมาเป็น

ของตนเอง

4.1.2.รู้จัก

กล่าวคําขอ

โทษด้วย

ตนเองและ

รู้จักการให้

อภัยผู้อื่น

4.2.1เก็บ

ของเล่นและ

อุปกรณ์

ต่างๆเข้าที่

ได้ถูกต้อง

และ

เรียบร้อย

4.2.2.มี

ความ

พยายามและ

มุ่งมั่นที่จะ

ทํางานให้

สําเร็จได้

ด้วยตนเอง

วินัยใน

ตนเอง

5. รู้ว่า

สิ่งของใด

เป็นของ

ตนเอง

และ

สิ่งของใด

เป็นของผู้

อื่น

และผู้อื่น

- รู้จักจัก

การเก็บ

สิ่งของ

ต่างๆหลัง

การเล่น

ได้ถูกต้อง

และ

เรียบร้อย

- รู้จักว่า

สิ่งของใด

เป็นของ

ตนเอง

และเป็น

ของผู้อื่น- ปฏิบัติ

ตาม กฎ

ระเบียบ

วินัย และ

มีความ

รับผิด

ชอบใน

ตนเอง

และผู้อื่น

Page 33 of 89

พัฒนาการ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึง

ประสงค์

สาระการเรียนรู้

อายุ 3 - 4 ปี สาระที่

ควรเรียน

รู้

ประสบกา

รณ์สําคัญ

ด้านสังคม มาตรฐานที่

5

มีทักษะชีวิต

และปฏิบัติ

ตนตาม

หลัก

ปรัชญา

เศรษฐกิจ

พอเพียง

5.1 ช่วย

เหลือ

ตนเองใน

การปฏิบัติ

ตนในการ

ปฏิบัติ

กิจวัตร

ประจําวัน

5.2 มีวินัย

ในตนเอง

5.3

ประหยัด

และพอ

เพียง

5.1.1 แต่ง

ตัวโดยมีผู้

ช่วยเหลือ

5.1.2 รับ

ประทาน

อาหารด้วย

ตนเอง

5.1.3 ใช้

ห้องน้ําห้อง

ส้วมโดยมีผู้

ช่วยเหลือ

5.2.1 เก็บ

ของเล่น

ของใช้เข้าที่

เมื่อมีผู้ชี้แนะ

5.2.2 เข้า

แถวตาม

ลําดับก่อน

หลังได้เมื่อมี

ผู้ชี้แนะ

5.3.1 ใช้

สิ่งของ

เครื่องใช้

อย่าง

ประหยัดและ

พอเพียงโดย

มีผู้ชี้แนะ

1. เรียนรู้

การสวม

เสื้อและ

ใส่

กางเกง/

กระโปรง

ที่ถูกต้อง

2. เรียนรู้

การจับ

ช้อนเพื่อ

ตัก

อาหารรับ

ประทาน

ด้วย

ตนเอง

3. เรียนรู้

การเข้า

ห้องน้ํา

เมื่อ

ต้องการ

ขับถ่าย

4. เรียนรู้

การเก็บ

สิ่งของ

เข้าที่เดิม

หลังจาก

การเล่น

แล้ว

- การฝึก

ทักษะ

ช่วยเหลือ

ตนเองใน

การ

ปฏิบัติตน

ในการ

ปฏิบัติ

กิจวัตร

ประจําวัน

ได้ขั้น

เบื้องต้น

- การ

เรียนรู้

การเก็บ

สิ่งของ

ต่างๆหลัง

การเล่น

- การมี

ระเบียบ

วินัยและ

ปฏิบัติ

ตามกฎ

ข้อตกลง

ได้

- การรู้จัก

ใช้เงิน

และ

Page 34 of 89

มาตรฐานที่

6

รัก

ธรรมชาติ

สิ่งแวดล้อม

วัฒนธรรม

6.1 ดูแล

รักษา

ธรรมชาติ

และสิ่ง

แวดล้อม

6.2 มี

สัมมา

คารวะและ

มารยาท

ตาม

วัฒนธรรม

ไทย

6.1.1 สนใจ

ธรรมชาติ

และสิ่ง

แวดล้อม

รอบตัวโดย

มีผู้ชี้แนะ

6.1.2 ทิ้ง

ขยะถูกที่

โดยมีผู้

ชี้แนะ

6.2.1 แสดง

ความเคารพ

ได้โดยมีผู้

ชี้แนะ

การเล่น

แล้ว

5. เรียนรู้

การเข้า

แถว

6. การ

รู้จักการ

ออมเงิน

7. สิ่ง

แวดล้อม

ธรรมชาติ

รอบตัว

8. เรียนรู้

การทิ้ง

ขยะให้

ถูกที่

9. การ

กล่าวคํา

สวัสดี

ตามเพศ

ของ

ตนเอง

10. การ

ไหว้

ใช้เงิน

และ

สิ่งของ

อย่างคุ้ม

ค่า

- การมี

ส่วนร่วม

ในการ

ดูแลสิ่ง

แวดล้อม

ทั้ง

ภายใน

ภายนอก

ห้องเรียน

- การทิ้ง

ขยะให้ถูก

ที่

- แสดง

ความ

เคารพ

พัฒนาก

าร

มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึง

ประสงค์

สาระการเรียนรู้

อายุ 4 - 5 ปี สาระที่ควร

เรียนรู้

ประสบการ

ณ์สําคัญ

Page 35 of 89

ด้าน

สังคม

มาตรฐานที่

5

มีทักษะชีวิต

และปฏิบัติ

ตนตามหลัก

ปรัชญา

เศรษฐกิจ

พอเพียง

5.1 ช่วย

เหลือ

ตนเองใน

การ

ปฏิบัติตน

ในการ

ปฏิบัติ

กิจวัตร

ประจําวัน

5.2 มี

วินัยใน

ตนเอง

5.3

ประหยัด

และพอ

เพียง

5.1.1 แต่ง

ตัวด้วย

ตนเอง

5.1.2 รับ

ประทาน

อาหารด้วย

ตนเอง

5.1.3 ใช้

ห้องน้ําห้อง

ส้วมด้วย

ตนเอง

5.2.1 เก็บ

ของเล่น

ของใช้เข้าที่

ด้วยตนเอง

5.2.2 เข้า

แถวตาม

ลําดับก่อน

หลังได้ด้วย

ตนเอง

5.3.1 ใช้

สิ่งของเครื่อง

ใช้อย่าง

ประหยัดและ

พอเพียงโดย

มีผู้ชี้แนะ

1. วิธีการ

ติดกระดุม

เสื้อการรูด

ซิป

กางเกง/

กระโปรงที่

ถูกต้อง

2. การใช้

ช้อน-ส้อม

ในการรับ

ประทาน

อาหาร

3. วิธีการ

ใช้ห้องน้ํา

4. เรียนรู้

การเก็บ

สิ่งของเข้า

ที่เดิมอย่าง

เป็น

ระเบียบ

หลังจาก

การเล่น

แล้ว

5. เรียนรู้

การเข้า

แถวตาม

ลําดับก่อน

- ช่วยเหลือ

ตนเองใน

การปฏิบัติ

ตนในการ

ปฏิบัติ

กิจวัตร

ประจําวันได้

ขั้นเบื้องต้น

- การเรียนรู้

การเก็บ

สิ่งของ

ต่างๆหลัง

การเล่น

- การมี

ระเบียบ

วินัยและ

ปฏิบัติตาม

กฎข้อตกลง

ได้

- การรู้จัก

ใช้เงินและ

สิ่งของ

อย่างคุ้มค่า

- การเพาะ

ปลูกและ

ดูแลต้นไม้

- การใช้

Page 36 of 89

มาตรฐานที่

6

รัก

ธรรมชาติ

สิ่งแวดล้อม

วัฒนธรรม

6.1 ดูแล

รักษา

ธรรมชาติ

และสิ่ง

แวดล้อม

6.2 มี

สัมมา

คารวะ

และ

มารยาท

ตาม

วัฒนธรร

มไทย

6.1.1 สนใจ

ธรรมชาติ

และสิ่ง

แวดล้อมรอบ

ตัว

6.1.2 ทิ้งขยะ

ถูกที่

6.1.3 ไม่

ทําลาย

สาธารณ

สมบัติโดยมี

ผู้ชี้แนะ

6.1.4 ช่วย

กันดูแลรักษา

สิ่งแวดล้อม

รอบตัวโดยมี

ผู้ชี้แนะ

6.2.1 แสดง

ความเคารพ

ได้

6.2.2 รู้จัก

กล่าวคํา

ขอบคุณและ

ขอโทษโดย

มีผู้ชี้แนะ

6.2.3 ปฏิบัติ

ตนได้เหมาะ

สมตาม

กาลเทศะ

โดยมีผู้ชี้แนะ

แถวตาม

ลําดับก่อน

หลังได้

6. การรู้จัก

การออม

เงินด้วย

ตนเอง

7. สิ่ง

แวดล้อม

ธรรมชาติ

รอบตัว

8.

ธรรมชาติ

รอบตัวสิ่ง

มีชีวิตและ

สิ่งไม่มี

ชีวิต

9. เรียนรู้

การทิ้งขยะ

ให้ถูกที่

10. เรียนรู้

การแสดง

ความ

เคารพ

11. เรียนรู้

ที่จะกล่าว

คําขอบคุณ

และ

ขอโทษ

12. การ

ปฏิบัติตน

ให้เหมาะ

สมตาม

สถานที่

และเวลา

ดูแลต้นไม้

- การใช้

วัสดุและ

สิ่งของ

เครื่องใช้

อย่างคุ้มค่า

- การ

ทํางานโดย

นําวัสดุและ

สิ่งของ

เครื่องใช้ที่

ใช้แล้วมา

ใช้ซ้ําหรือ

แปรรูปและ

นํากลับมา

ใช้ใหม่

- การแสดง

ความ

เคารพกล่าว

คําขอบคุณ

และขอโทษ

- การปฏิบัติ

ตน

Page 37 of 89

พัฒนาก

าร

มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึง

ประสงค์

สาระการเรียนรู้

อายุ 5 - 6 ปี สาระที่ควร

เรียนรู้

ประสบการ

ณ์สําคัญ

Page 38 of 89

ด้าน

สังคม

มาตรฐานที่

5

มีทักษะชีวิต

และปฏิบัติ

ตนตามหลัก

ปรัชญา

เศรษฐกิจ

พอเพียง

5.1 ช่วย

เหลือ

ตนเองใน

การ

ปฏิบัติตน

ในการ

ปฏิบัติ

กิจวัตร

ประจําวัน

5.2 มี

วินัยใน

ตนเอง

5.3

ประหยัด

และพอ

เพียง

5.1.1 แต่ง

ตัวด้วย

ตนเองได้

อย่าง

คล่องแคล่ว

5.1.2 รับ

ประทาน

อาหารด้วย

ตนเองอย่าง

ถูกวิธี

5.1.3 ใช้และ

ทําความ

สะอาด

ห้องน้ําห้อง

ส้วมหลัง

ใช้ได้ด้วย

ตนเอง

5.2.1 เก็บ

ของเล่น

ของใช้เข้าที่

อย่าง

เรียบร้อย

ด้วยตนเอง

5.2.2 เข้า

แถวตาม

ลําดับก่อน

หลังได้ด้วย

ตนเอง

5.3.1 ใช้

สิ่งของเครื่อง

ใช้อย่าง

ประหยัดและ

พอเพียงด้วย

ตนเอง

1. วิธีการ

แต่งกายที่

ถูกต้อง

2. การใช้

ช้อน-ส้อม

ในการรับ

ประทาน

อาหาร

3. วิธีการ

ใช้ห้องน้ํา

4. เรียนรู้

การเก็บ

สิ่งของหลัง

จากการ

เล่นแล้ว

5. เรียนรู้

การเข้า

แถวตาม

ลําดับก่อน

หลังได้ถูก

ต้อง

6. การรู้จัก

การออม

เงินด้วย

ตนเอง

อย่างมี

ระเบียบ

วินัย

7.

ธรรมชาติ

รอบตัวสิ่ง

มีชีวิตและ

สิ่งไม่มี

ชีวิต

- ช่วยเหลือ

ตนเองใน

การปฏิบัติ

ตนในการ

ปฏิบัติ

กิจวัตร

ประจําวันได้

ดี

- การเรียนรู้

การเก็บ

สิ่งของ

ต่างๆหลัง

การเล่น

- การมี

ระเบียบ

วินัยและ

ปฏิบัติตาม

กฎข้อตกลง

ได้

- การรู้จัก

ใช้เงินและ

สิ่งของ

อย่างคุ้มค่า

- การเพาะ

ปลูกและ

ดูแลต้นไม้

อย่างถูกวิธี

- การใช้

วัสดุและ

สิ่งของ

เครื่องใช้

อย่างคุ้มค่า

- การนํา

วัสดุและ

Page 39 of 89

มาตรฐานที่

6

รัก

ธรรมชาติ

สิ่งแวดล้อม

วัฒนธรรม

6.1 ดูแล

รักษา

ธรรมชาติ

และสิ่ง

แวดล้อม

6.2 มี

สัมมา

คารวะ

และ

มารยาท

ตาม

วัฒนธรร

มไทย

6.1.1 สนใจ

ธรรมชาติ

และสิ่ง

แวดล้อมรอบ

ตัว

6.1.2 ทิ้งขยะ

ถูกที่

6.1.3 ไม่

ทําลาย

สาธารณ

สมบัติ

6.1.4 ช่วย

กันดูแลรักษา

สิ่งแวดล้อม

รอบตัว

6.2.1 แสดง

ความเคารพ

ได้

6.2.2 รู้จัก

กล่าวคํา

ขอบคุณและ

ขอโทษ

6.2.3 ปฏิบัติ

ตนได้เหมาะ

สมตาม

กาลเทศะ

ชีวิต

8. สิ่ง

แวดล้อม

ธรรมชาติ

รอบตัว

9. เรียนรู้

การทิ้งขยะ

ให้ถูกที่

10. เรียนรู้

การแสดง

ความ

เคารพโดย

การไหว้ที่

ถูกต้อง

11. เรียนรู้

ที่จะกล่าว

คําขอบคุณ

และ

ขอโทษ

12. การ

ปฏิบัติตน

ให้เหมาะ

สมตาม

สถานที่

และเวลา

- การนํา

วัสดุและ

สิ่งของ

เครื่องใช้ที่

ใช้แล้วมา

ใช้ซ้ําหรือ

แปรรูปและ

นํากลับมา

ใช้ใหม่

- การมีส่วน

ร่วมรับผิด

ชอบดูแล

รักษาสิ่ง

แวดล้อมทั้ง

ภายในและ

ภายนอก

ห้องเรียน

- การแสดง

ความ

เคารพ

- กล่าวคํา

ขอบคุณ

และขอโทษ

ตาม

สถานการณ์

- การปฏิบัติ

ตน

พัฒนาก

าร

มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึง

ประสงค์

สาระการเรียนรู้

อายุ 3 - 4 ปี สาระที่ควร

เรียนรู้

ประสบการ

ณ์สําคัญ

Page 40 of 89

ด้านสติ

ปัญญา

มาตรฐานที่

7

มีความ

สามารถใน

การคิดและ

แก้ปัญหาได้

เหมาะสม

ตามวัย

7.1 มี

ความคิด

รวบยอด

ในการ

เรียนรู้สิ่ง

ต่างๆ 7.2

แก้ปัญหา

ในการทํา

กิจกรรม

ต่างๆ

7.1.1.

จําแนก

สิ่งของได้

ตามสีรูปทรง

ขนาด

7.2.1. ขอ

ความช่วย

เหลือเมื่อมี

ปัญหา

7.2.2. ตัดสิน

ใจในเรื่อง

ง่ายๆได้

1. มีความ

สามารถ

ในการคิด

และแก้ไข

ปัญหาได้

เหมาะสม

กับวัย

2. มี

จินตนากา

ร ความคิด

สร้างสรรค์

ในการใช้

คําถาม

และการ

แสวงหา

คําตอบได้

อย่าง

เหมาะกับ

วัย

3. มีทักษะ

และเจตคติ

ที่ดีในการ

ใช้ภาษา

สื่อสารได้

อย่าง

เหมาะสม

กับวัย

- จําแนกสิ่ง

ต่างๆตามสี

รูปทรงและ

ขนาดได้

อย่างน้อย 2

ลักษณะ

- ขอความ

ช่วยเหลือ

เมื่อมีปัญหา

ได้ด้วย

ตนเองโดย

มีผู้ชี้แนะ

- ตัดสินใจ

ในเรื่อง

ง่ายๆได้

โดยมีผู้

แนะนํา

- คิดเชื่อม

โยงความ

สัมพันธ์กับ

สิ่งต่างๆ

และเรียนรู้

ทักษะการ

ใช้ชีวิต

ประจําวัน

ในบาง

สถานการณ์

ได้

- สนทนา

มาตรฐานที่

8

มีเจตคติที่ดี

ต่อการเรียน

รู้

8.1 สนใจ

เรียนรู้สิ่ง

ต่างๆรอบ

ตัว

8.2

แสวงหา

คําตอบ

ด้วยวิธี

การที่

หลาก

หลาย

8.1.1. ร่วม

กิจกรรมด้วย

ความสนใจ

ระยะเวลาสั้น

8.2.1. ใช้

คําถามได้

8.2.2.

แสวงหาคํา

ตอบข้อ

สงสัยต่างๆ

8.2.3. เชื่อม

โยงความรู้

และทักษะ

ต่างๆที่ใช้ใน

ชีวิตประจํา

วัน

Page 41 of 89

มาตรฐานที่ 9

ใช้ภาษา

สื่อสารได้

เหมาะสม

กับวัย

9.1

สนทนา

โต้ตอบ

/

เล่าเรื่อง

ให้ผู้อื่น

เข้าใจ

9.1.1.สนทน

าโต้ตอบ

/เล่า

เรื่องด้วยประ

โยคสั้นๆได้

9.1.2.

ฟั

แล้วปฏิบัติ

ตามคํา

สั่ง

ง่ายๆได้

ได้

- สนทนา

โต้ตอบเป็น

เรื่องราว

สั้นๆได้

Page 42 of 89

พัฒนาก

าร

มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึง

ประสงค์

สาระการเรียนรู้

อายุ 4 - 5 ปี สาระที่ควร

เรียนรู้

ประสบการ

ณ์สําคัญ

ด้านสติ

ปัญญา

มาตรฐานที่

7

มีความ

สามารถใน

การคิดและ

แก้ปัญหาได้

เหมาะสม

ตามวัย

7.1 มี

ความคิด

รวบยอด

ในการ

เรียนรู้สิ่ง

ต่างๆ

7.2 แก้

ปัญหาใน

การทํา

กิจกรรม

ต่างๆ

7.1.1

จําแนก

สิ่งของได้

ตามสีรูปทรง

ขนาด

ประเภท

7.2.1.

พยายามแก้

ปัญหาด้วย

ตนเองหลัง

จากได้รับคํา

แนะนํา

7.2.2. รู้จัก

ตัดสินใจใน

เรื่องง่ายๆได้

และเริ่มเรียน

รู้ผลที่เกิดขึ้น

1. มีความ

สามารถ

ในการคิด

และแก้ไข

ปัญหาได้

เหมาะสม

กับวัย

2. มี

จินตนากา

ร ความคิด

สร้างสรรค์

ในการใช้

คําถาม

และการ

แสวงหา

คําตอบได้

อย่าง

เหมาะกับ

- จําแนก

และบอกสิ่ง

ต่างๆตามสี

รูปทรงและ

ขนาดได้

โดยมีผู้

ชี้แนะ

- ขอความ

ช่วยเหลือ

เมื่อมีปัญหา

ได้ด้วย

ตนเอง

- ตัดสินใจ

ในเรื่อง

ง่ายๆได้

- คิดเชื่อม

โยงความ

สัมพันธ์กับ

Page 43 of 89

มาตรฐานที่

8

มีเจตคติที่ดี

ต่อการเรียน

รู้

8.1 สนใจ

เรียนรู้สิ่ง

ต่างๆรอบ

ตัว

8.2

แสวงหา

คําตอบ

ด้วยวิธี

การที่

หลาก

หลาย

8.1.1 ร่วม

กิจกรรมด้วย

ความสนใจ

ได้นานขึ้น

อย่างมีความ

สุข

8.2.1. ถาม

คําถามเกี่ยว

กับเรื่องที่

สนใจ

8.2.2.

แสวงหาคํา

ตอบข้อ

สงสัยต่างๆ

ด้วยวิธีการ

ต่างๆ

8.2.3. เชื่อม

โยงความรู้

และทักษะ

ต่างๆที่ใช้ใน

ชีวิตประจํา

วันได้

อย่าง

เหมาะกับ

วัย

3. มีทักษะ

และเจตคติ

ที่ดีในการ

ใช้ภาษา

สื่อสารได้

อย่าง

เหมาะสม

กับวัย

โยงความ

สัมพันธ์กับ

สิ่งต่างๆ

และรู้จัก

ทักษะการ

ใช้ชีวิต

ประจําวันได้

- บอกเล่า

เรื่องราว

ตาม

จินตนาการ

ของตนเอง

ได้

มาตรฐานที่

9

ใช้ภาษา

สื่อสารได้

เหมาะสม

กับวัย

9.1

สนทนา

โต้ตอบ/

เล่าเรื่อง

ให้ผู้อื่น

เข้าใจ

9.1.1.

สนทนา

โต้ตอบ/เล่า

เรื่องด้วยประ

โยคสั้นๆได้

อย่างต่อ

เนื่อง

9.1.2. ฟัง

แล้วปฏิบัติ

ตามคําสั่งที่

ต่อเนื่องได้

Page 44 of 89

พัฒนาก

าร

มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึง

ประสงค์

สาระการเรียนรู้

อายุ 5 - 6 ปี สาระที่ควร

เรียนรู้

ประสบการ

ณ์สําคัญ

ด้านสติ

ปัญญา

มาตรฐานที่

7

มีความ

สามารถใน

การคิดและ

แก้ปัญหาได้

เหมาะสม

ตามวัย

7.1 มี

ความคิด

รวบยอด

ในการ

เรียนรู้สิ่ง

ต่างๆ

7.2 แก้

ปัญหาใน

การทํา

กิจกรรม

ต่างๆ

7.1.1.

จําแนก

สิ่งของได้

ตามสีรูปทรง

ขนาด

ประเภทน้ํา

หนัก

7.2.1. พยาม

หาวิธีแก้

ปัญหาด้วย

ตนเอง

7.2.2. ตัดสิน

ใจในเรื่อง

ง่ายๆได้และ

ยอมรับผลที่

เกิดขึ้น

1. มีความ

สามารถ

ในการคิด

และแก้ไข

ปัญหาได้

เหมาะสม

กับวัย

2. มี

จินตนากา

ร ความคิด

สร้างสรรค์

ในการใช้

คําถาม

และการ

แสวงหา

คําตอบได้

อย่าง

- จําแนก

บอกและจัด

ประเภทสิ่ง

ต่างๆตามสี

รูปทรงและ

ขนาดได้

ด้วยตนเอง

- ตัดสินใจ

การแก้ไข

ปัญหาได้

ด้วยตนเอง

- ปฏิบัติและ

แก้ไขปัญหา

เกี่ยวกับ

เรื่องราว

ชีวิตประจํา

วันได้ด้วย

Page 45 of 89

มาตรฐานที่

8

มีเจตคติที่ดี

ต่อการเรียน

รู้

8.1 สนใจ

เรียนรู้สิ่ง

ต่างๆรอบ

ตัว

8.2

แสวงหา

คําตอบ

ด้วยวิธี

การที่

หลาก

หลาย

8.1.1 ร่วม

กิจกรรมด้วย

ความสนใจ

ตั้งแต่ต้นจน

จบอย่างมี

ความสุข

8.2.1 ถาม

คําถาม/

แสดงความ

คิดเห็นเกี่ยว

กับเรื่องที่

สนใจ

8.2.2.

แสวงหาคํา

ตอบข้อ

สงสัยต่างๆ

ด้วยวิธีการ

ต่างๆที่หลาก

หลาย

8.2.3. เชื่อม

โยงความรู้

และทักษะ

ต่างๆที่ใช้ใน

ชีวิตประจํา

วันได้ดี

คําตอบได้

อย่าง

เหมาะกับ

วัย

3. มีทักษะ

และเจตคติ

ที่ดีในการ

ใช้ภาษา

สื่อสารได้

อย่าง

เหมาะสม

กับวัย

ชีวิตประจํา

วันได้ด้วย

ตนเอง

- บอกเล่า

เรื่องราว

ตามจิตนา

การของ

ตนเอง

- มีความ

กระตือรือร้

นและสนใจ

เข้าร่วม

กิจกรรม

ต่างๆ

มาตรฐานที่

9

ใช้ภาษา

สื่อสารได้

เหมาะสม

กับวัย

9.1

สนทนา

โต้ตอบ/

เล่าเรื่อง

ให้ผู้อื่น

เข้าใจ

9.1.1.

สนทนา

โต้ตอบ/เล่า

เรื่องได้

9.1.2. ฟัง

แล้วนํามา

ถ่ายทอดได้

Page 46 of 89

การจัดประสบการณ์

การจัดประสบการณ์สําหรับเด็กปฐมวัย จะไม่จัดเป็นรายวิชา แต่จัดใน

รูปของกิจกรรมบูรณาการผ่านการลงมือกระทํา การเล่น เพื่อให้เด็กได้รับ

ประสบการณ์ตรง เกิดการเรียนรู้ ได้พัฒนาทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ

สังคม และสติปัญญา กิจกรรมที่จัดให้เด็กในแต่ละวัน อาจใช้ชื่อเรียกกิจกรรม

แตกต่างกันไปในแต่ละโรงเรียน แต่ทั้งนี้ประสบการณ์ที่จัดจะต้องครอบคลุม

ประสบการณ์สําคัญที่กําหนดในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย และควรยืดหยุ่น

ให้มีสาระการเรียนรู้ที่เด็กสนใจ และสาระการเรียนรู้ที่ครูผู้ผู้ดูแลเด็กกําหนด

เมื่อเด็กได้รับประสบการณ์สําคัญและทํากิจกรรมในแต่ละหัวเรื่องแล้ว เด็กควร

จะเกิดแนวคิดตามที่ได้เสนอแนะในหลักสูตร

นวัตกรรมการจัดประสบการณ์ – แนวคิด

สําหรับการนําแนวคิดจากนวัตกรรมต่าง ๆ มาใช้ในการจัดประสบการณ์

ครูผู้ผู้ดูแลเด็กต้องทําความเข้าใจนวัตกรรมนั้น ๆ แต่ละนวัตกรรมจะมีจุดเด่น

ของตนเอง แต่โดยภาพรวมแล้ว นวัตกรรมส่วนใหญ่จะยึดเด็กเป็นสําคัญ การ

คือ ลงมือปฏิบัติจริงด้วยตัวเด็กจะเป็นหัวใจสําคัญในแต่ละนวัตกรรม ต่อไปนี้

นวัตกรรมที่เข้ามามีบทบาทในการศึกษาระดับปฐมวัย

การพัฒนาเด็กปฐมวัยตามวิถีชีวิตไทย

หลักการและรูปแบบการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามวิถีชีวิตไทย

ความเป็นมา

หลักการและรูปแบบการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามวิถีชีวิตไทยเป็นองค์

ความรู้ที่พัฒนาขึ้นโดย รองศาสตราจารย์ ดร.ทิศนา แขมมณี และคณาจารย์

ภาควิชาประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย องค์ความรู้

นี้ เป็น ผลงาน จากโครงการวิจัย ซึ่งหน่วยปฏิบัติการวิจัยการศึกษาปฐมวัย

ภาควิชาประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ดําเนิน

การมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2528 โดยดําเนิน การเป็นโครงการย่อยมาเป็นลําดับ

รวมทั้ง สิ้น 6 โครงการ จนสามารถสรุปเป็นหลักการและรูปแบบการพัฒนา

เด็กปฐมวัยตามวิถีชีวิตไทย และจัดพิมพ์เผยแพร่ ครั้งที่ 1 ในปี พ.ศ.2535

และครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2536 โดยการสนับสนุนเงินทุนวิจัยจากองค์การ

UNICEF และฝ่ายวิจัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Page 47 of 89

ทฤษฎีที่มีอิทธิพล

จากการรวบรวมทฤษฎีและหลักการเกี่ยวกับพัฒนาการเด็กและการ

จัดการศึกษาสําหรับเด็กปฐมวัย พบว่าทฤษฎี และหลักการที่ใช้กันอยู่ใน

ประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นทฤษฎีและหลักการของต่างประเทศ ประเทศไทย

เรายังไม่มี ทฤษฎีหรือหลักการในการพัฒนาเด็ก ที่พัฒนาขึ้นจากฐานข้อมูล

ที่มาจากเด็กไทย และบริบททางสังคมและ วัฒนธรรมไทย ดังนั้นคณะ

กรรมการวิจัย จึงได้พยายามศึกษาและผสมผสานความรู้ตามหลักสากลกับ

ภูมิปัญญา วิถีชีวิตและระบบคุณค่าของสังคมไทยเข้าด้วยกัน เพื่อช่วยให้ได้

หลักการและ รูปแบบในการพัฒนาเด็ก ไทยให้มีคุณ ภาพ แต่อย่างไรก็ตาม

สามารถแบ่งแนวคิดทฤษฎีได้ดังนี้

1. แนวคิด หลักการ และข้อมูลของไทย ได้แก่

- แนวคิดทางพระพุทธศาสนา ที่เกี่ยวกับการพัฒนาเด็ก ประกอบด้วย

แนวคิดเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนามนุษย์ กระบวนการพัฒนา สติ

ปัญญา กระบวนการพัฒนาคุณธรรม และกระบวนการกัลยาณมิตร

- แนวคิดทางวัฒนธรรมไทย ประกอบด้วยแนวคิดเกี่ยวกับสํานึกความ

เป็นไทย ความประพฤติของเด็กไทย การอบรมเลี้ยงดูเด็ก ด้านค่านิยม

และคุณธรรม การอบรมเลี้ยงดูเด็กด้วยรักและถนอม แนวคิดเกี่ยวกับ

วัฒนธรรมท้องถิ่น ภาษา สิ่งแวดล้อมทางจิต วิญญาณและทาง

ธรรมชาติ และวงศาคณาญาติ

- ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพปัญหาและความต้องการของเด็กไทย

- แนวโน้มของสังคมและเด็กไทยในอนาคต

2. แนวคิด หลักการ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็ก และได้รับการยอมรับใน

ระดับสากล ได้แก่

- แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับการศึกษา ได้แก่ แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนา

มนุษย์ และแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนา เด็ก โดยครอบครัว

- แนวคิดเกี่ยวกับการศึกษาปฐมวัย ประกอบด้วย แนวคิดเกี่ยวกับ

พัฒนาการเด็ก แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ และแนวคิดเกี่ยวกับ การ

เล่นของเด็กปฐมวัย

Page 48 of 89

กระบวนการ

องค์ความรู้ที่ได้เป็นผลมาจากการดําเนินงานตามกระบวนการ ดังนี้

1. ขั้นการสร้างหลักการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามวิถีชีวิตไทย คณะ

กรรมการวิจัยรวบรวมข้อมูลพื้นฐานทั้งของไทย และต่างประเทศ

วิเคราะห์แนวคิดที่ใช้เป็นฐานของการวิจัย และกําหนดเป็นหลักการใน

การพัฒนาเด็ก

2. ขั้นการสร้างรูปแบบการพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามวิถีชีวิตไทยโดย

กําหนด กรอบความคิด โครงสร้าง เนื้อหา วิธีการและกิจกรรมการ

พัฒนาเด็กให้สอดคล้องกับหลักการในการพัฒนาเด็กที่กําหนดไว้ แล้ว

เสนอให้ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญและผู้มีประสบการณ์ ได้พิจารณาให้

ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ แล้วนําข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงรูปแบบให้

สมบูรณ์ขึ้น

3. ขั้นการทดลองใช้หลักการและรูปแบบที่พัฒนาขึ้น โดยการพัฒนาสื่อ

ตามที่รูปแบบนําไปทดลองใช้ในหมู่บ้านชนบทของไทย ใน 4 ภาค

ภูมิศาสตร์ และเก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผล

4. ขั้นการเผยแพร่ผลงานวิจัย โดยจัดพิมพ์ผลงานเผยแพร่ใน

ประเทศไทยและแปลผลงานเป็นภาษาอังกฤษจัดพิมพ์เผยแพร่ใน ต่าง

ประเทศ

ผลงานวิจัยอันเป็นองค์ความรู้ : หลักการและรูปแบบการพัฒนาเด็กปฐมวัย

ตามวิถีชีวิตไทย

1. ผลการพัฒนาหลักการและรูปแบบการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามวิถีชีวิตไทย

หลักการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามวิถีชีวิตไทย ซึ่งเป็นผลจากการบูรณา

การข้อมูล 4 ด้าน คือ หลักการทางพระพุทธศาสนา หลักการทางวัฒนธรรม

ไทย หลักการทางการศึกษาปฐมวัย และข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการ ปัญหา

และแนวโน้มของสังคมไทยและ เด็กไทยมีทั้งสิ้น 4 หมวด รวม 123 ข้อ ดังนี้

- หลักการทั่วไปในการพัฒนาเด็ก มีจํานวน 8 ข้อ

- หลักการในการเตรียมครอบครัวเด็ก มีจํานวน 8 ข้อ

- หลักการในการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัย รวม 94 ข้อ

จําแนกเป็น

- หลักการทั่วไปในการส่งเสริมพัฒนาการของ เด็กปฐมวัย มี 24 ข้อ

- หลักการในการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็กปฐมวัย 70 ข้อ

- หลักการในการพัฒนาผู้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็ก 13 ข้อ

Page 49 of 89

รูปแบบการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามวิถีชีวิตไทย ที่พัฒนาขึ้นโดยยึดหลัก

การพัฒนาเด็กปฐมวัยมี 2 รูปแบบ คือ

- รูปแบบการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย ตามวิถีชีวิตไทยโดยครอบครัว

เป็นรูปแบบที่มุ่งพัฒนาเด็กวัย0-3 ปี ผ่าน ทางการพัฒนาพ่อ แม่ หรือผู้เลี้ยงดู

เด็ก รูปแบบนี้ได้จัดทําสาระเกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็กที่จําเป็นและ

สอดคล้อง กับหลักการที่เป็นพื้นฐาน และได้พัฒนา สื่อต่างๆ ให้พ่อแม่ผู้เลี้ยง

ดูเด็กได้ศึกษาประกอบด้วยหนังสือชุดการอบรม เลี้ยงดูเด็กเล็กจํานวน 37

เล่ม เทปเสียงบรรยายสาระในหนังสือ จํานวน 37 ตลับ และปฏิทินสรุปสาระ

สําคัญจาก หนังสือ 37 เล่ม โดยการให้บุคคลในชุมชนที่มีความสามารถทํา

หน้าที่จัดการศึกษาต่อเนื่อง ให้พ่อแม่ ผู้เลี้ยงดูเด็ก ได้มาศึกษาร่วมกัน จัด

สัปดาห์ละครั้งต่อเนื่องกันเป็นระยะยาว โดยดําเนินการตามกระบวนการและ

สื่อที่ให้ไว้ตามคู่มือ การอบรมผู้เลี้ยงดูเด็ก การศึกษาในลักษณะนี้สามารถ

ช่วยพัฒนานิสัยการเรียนรู้และกระบวน การเรียนรู้ของพ่อแม่ไป พร้อมๆกับ

การพัฒนาความ รู้ความเข้าใจและ การปฏิบัติเกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็ก

ทั้งยังช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือในครอบครัวด้วย

- รูปแบบการจัดการศึกษาปฐมวัยตามวิถีชีวิตไทย เป็นรูปแบบที่มุ่ง

พัฒนาเด็กวัย 3-6 ปี ผ่านทางการพัฒนาผู้ดูแลเด็ก รูปแบบนี้ได้กําหนด

กิจกรรมประจําวันของเด็ก ซึ่งได้จัดไว้อย่างมีหลักการและมีสัดส่วนสมดุลกัน

ในเรื่อง ต่างๆ ที่จะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้าน รวมทั้งเสนอแนะวิธีการ

จัดกิจกรรมและประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่เด็ก ซึ่งมีทั้งการให้เด็กได้ลงมือ

ปฏิบัติเป็นวิถีชีวิต ได้เรียนรู้แบบธรรม ชาติจากการปฏิสัมพันธ์กับบุคคล สื่อ

และสิ่งแวดล้อมต่างๆ และได้เรียนรู้จากการสอนโดยตรงซึ่งผู้ดูแลเด็ก

สามารถเรียนรู้ได้จากการฝึก ปฏิบัติในการทํางานจริง โดยได้รับการนิเทศ

จากผู้นิเทศที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาเด็ก ซึ่งจะนิเทศให้ผู้

ดูแลเด็กสามารถ ปฏิบัติงานได้ ตามคู่มือการจัดกิจกรรมและประสบการณ์

การเรียนรู้สําหรับเด็กปฐมวัย

2. ผลการทดลองนําร่องการใช้รูปแบบการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยตามวิถี

ชีวิตไทย สรุปได้ดังนี้

- หลักการที่ใช้เป็นพื้นฐาน ในการพัฒนารูปแบบมีความเหมาะสม รูป

แบบการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยตามวิถีชีวิตไทยโดยครอบครัว เอื้ออํานวย

ให้คนในชุมชนสามารถช่วยกัน

พัฒนาพ่อแม่ หรือผู้เลี้ยงดูเด็กในชุมชนให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการ

อบรมเลี้ยงดูเด็กได้ดี แม้ว่าผู้ เลี้ยงดูเด็กจะมีพื้นฐานทางการศึกษาไม่เกิน

Page 50 of 89

ประถมศึกษาปีที่ 6 อย่างไรก็ตาม ผลจากความ รู้ความเข้าใจ ของพ่อแม่

เกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็กที่ส่งผลถึงตัวเด็กนั้น ยังไม่สามารถสรุป ได้

ชัดเจนจําเป็นต้องติด ตามต่อไป

- รูปแบบการจัดการศึกษาปฐมวัยตามวิถีชีวิตไทยมีความเหมาะสม

สามารถช่วยให้ผู้ดูแลเด็กจัดการศึกษาให้แก่เด็กได้ดีขึ้น แม้ว่าผู้ดูแล เด็กจะ

มีความรู้ที่จํากัด และมีปัญหาหลายประการ เช่น จํานวนเด็กมีมาก อาคาร

สถานที่ไม่เอื้ออํานวย วัสดุอุปกรณ์การสอนมีน้อย

ผลจากการทดลองนําร่องการใช้รูปแบบเสนอแนะ 2 รูปแบบดังกล่าว

นัยว่าประสบผลสําเร็จในภาพรวม แต่ยังต้องการการปรับปรุงและ การ

ดําเนินการต่อไป ในจุด ที่ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากเวลาจํากัดงานวิจัยนี้เป็น

งานวิจัยและพัฒนา การพัฒนา จึงได้ดําเนินการ ต่อไป โดยปัจจุบันคณะผู้

วิจัยกําลังดําเนินการต่อเนื่องเป็นโครงการที่ 7 เพื่อติดตามผลการใช้รูปแบบ

การพัฒนา เด็กปฐมวัย ตามวิถีชีวิตไทยต่อไป

โรงเรียนวิถีพุทธ

โรงเรียนวิถีพุทธ หมายถึง โรงเรียนระบบปกติทั่วไปที่นําหลักธรรม

พระพุทธศาสนามาใช้ หรือประยุกต์ใช้ในการบริหารและการพัฒนาผู้เรียน

โดยรวมของสถานศึกษา เน้นกรอบการพัฒนาตามหลักไตรสิกขาอย่างบูรณา

การผู้เรียนได้เรียนรู้ได้พัฒนาการกิน อยู่ ดู ฟัง ให้เป็น โดยผ่านกระบวนการ

ทางวัฒนธรรมแสวงปัญญาและมีวัฒนธรรมเมตตาเป็นฐานการดําเนินชีวิต

สถานศึกษาจัดพัฒนาผู้เรียนตามหลักพุทธธรรมอย่างบูรณาการ ส่งเสริมให้

เกิดปัญญาวุฒิธรรม 4 ประการคือ

- สัปปุริสสังเสวะ คือการอยู่ใกล้คนดี ใกล้ผู้รู้ มีสื่อที่ดี

- สัทธัมมัสสวนะ คือ เอาใจใส่ศึกษาโดยมีหลักสูตรที่ดี

- โยนิโสมนสิการ คือ มีกระบวนการคิด วิเคราะห์ พิจารณาหาเหตุผลที่

ดีและถูกวิธี

- ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ คือ ความสามารถที่จะนําความรู้ไปใช้ในชีวิตได้

ถูกต้องตามธรรม

สถานศึกษาพัฒนางานในด้านต่างๆ คือ

- ด้านกายภาพ จัดสภาพใกล้ชิดธรรมชาติ ชวนมีใจสงบและส่งเสริม

การบริหารจิตเจริญปัญญา

- ด้านกิจกรรมพื้นฐานวิถีชีวิต จัดกิจกรรมที่บูรณาการไตรสิกขา โดย

เน้น การกิน อยู่ ดู ฟัง ด้วยสติสัมปชัญญะรู้คุณค่าแท้

Page 51 of 89

- ด้านการเรียนการสอน มีหลักสูตรสถานศึกษาและจัดการเรียนรู้ที่

บูรณาการพุทธธรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนอย่างชัดเจนต่อเนื่อง

- ด้านบรรยากาศและปฏิสัมพันธ์ ส่งเสริมวัฒนธรรม แสวงปัญญา มี

ปฏิสัมพันธ์ที่เป็นกัลยาณมิตรต่อกันทุกคน พยายามปฏิบัติตนเป็น

ตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น

- ด้านการบริการจัดการ ร่วมกับผู้ปกครอง และชุมชน พัฒนานักเรียน

และพัฒนาซึ่งกันและกันตามวิถีชาวพุทธ ทั้งนี้สถานศึกษา สามารถจัด

จุดเน้นหรือลักษณะเฉพาะของตนเองได้ตามความเหมาะสมกับบริบท

ของสถานศึกษาหรือบูรณาการการพัฒนากับกิจกรรมต่างๆ เช่น การ

พัฒนาคุณธรรม 4 ประการ (ฆราวาสธรรม)ตามพระบรมราโชวาทของ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้แก่ สัจจะ ทมะ จันติ จาคะ

การบริหารจัดการโรงเรียนวิถีพุทธ ประกอบด้วย

- เตรียมการ (ศรัทธาและฉันทะ)

- ดําเนินการจัดสภาพและองค์ประกอบ (ปัญญาวุฒิธรรม)

- ดําเนินการพัฒนาตามระบบไตรสิกขา

- ดูแลสนับสนุนใกล้ชิด (กัลยาณมิตร)

- ปรับปรุงและพัฒนาต่อเนื่อง (อิทธิบาท 4 อุปัญญาตธรรม)

- ประเมินผลและเผยแพร่ผลการดําเนินงาน (ปิติและชื่นชมร่วมกัน)

การสอนแบบ ไฮสโคป

โปรแกรมไฮสโคป เน้นการเรียนรู้แบบลงมือกระทําผ่านมุมเล่นที่หลาก

หลาย ด้วยสื่อและกิจกรรมที่เหมาะ สมกับพัฒนาการของเด็ก และการแก้

ปัญหาอย่างกระตือรือร้น

ทฤษฎีที่มีอิทธิพล

ในระยะเริ่มต้น การพัฒนาโปรแกรมไฮสโคป ใช้ทฤษฎีพัฒนาการ

ทางสติปัญญา (Cognitive Theory) ของเปียเจต์ (Piaget) เป็นพื้นฐานโดย

เฉพาะการสร้างองค์ความรู้ของผู้เรียนซึ่งเน้น การเรียนรู้แบบลงมือกระทํา

(Active Learning) ระยะต่อมามีการผสมผสานทฤษฎี และแนวคิดอื่นๆ เช่น

ทฤษฎีของอีริกสัน (Erikson) ในเรื่องการให้โอกาสเด็กเป็นผู้ริเริ่มการเล่น

หรือกิจกรรมต่างๆ อย่างอิสระและทฤษฎีของ ไวก๊อตสกี้ (Vygotsky) ในเรื่อง

ปฏิสัมพันธ์และการใช้ภาษา เป็นต้น

Page 52 of 89

ปัจจุบันการจัดการเรียนการสอนสําหรับเด็กปฐมวัยมีความสําคัญ

อย่างยิ่ง การเรียนการสอนทุกรูปแบบจะส่งผลต่อเด็กในการเรียนรู้และส่งผล

ต่อพัฒนาการด้านๆของเด็กด้วย

การเรียนการสอนปฐมวัยจะต้องส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทาง

ร่างกาย ทั้งกล้ามเนื้อมัดใหญ่ กล้ามเนื้อมัดเล็ก รวมถึงการเคลื่อนไหวของ

ร่างกายและความคล่องตัวซึ่งส่งผลให้เด็กมีสุขภาพที่ดี ทั้งในด้านจิตใจ ด้าน

อารมณ์ ด้านสติปัญญาและด้านร่างกาย เด็กๆจะสามารถแสดงความเป็นตัว

ของตัวเองและจะเกิดความภาคภูมิใจ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ เด็กเริ่มมี

ความคิดริเริ่ม มีความสร้างสรรค์และมีจินตนาการ รู้จักการแก้ปัญหา ซึ่งรูป

แบบการเรียนการสอนแต่ละรูปแบบจะมีจุดเน้นสําคัญของรูปแบบที่แตกต่าง

กันออกไป

การเรียนการสอนแบบไฮสโคป ( High/Scope Approach ) การ

สอนเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์การเรียนรู้พัฒนาคน การเรียนรู้และการสอน

ทําให้มีการคิดเชื่อมโยงความรู้ได้อย่างรวดเร็ว การศึกษาปฐมวัยจึงเป็นการ

ศึกษาที่จัดให้แก่เด็ก 6 ขวบแรก เป็นการจัดการศึกษาเพื่อการดูแล และ

สร้างเสริมเด็กให้พัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ ด้วยการเรียนรู้ที่ถูกต้องและมี

ความชัดเจน ลักษณะการจัดการเรียนการสอนจึงมุ่งไปที่การพัฒนาเด็ก

จิตใจของเด็กและอนาคตของเด็ก การสอนเด็กปฐมวัยไม่ใช่การถ่ายทอด

ความรู้ แต่เป็นการช่วยส่งเสริมพัฒนาการต่างๆให้เป็นไปตามวัยและวุฒิ

ภาวะของตัวเด็กเอง

รูปแบบการเรียนการสอนของไฮสโคปเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่น่าสนใจ มี

การจัดการเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติตามความสนใจของเด็ก มีวัสดุ

อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการเรียนรู้และพัฒนาการตามวัยของเด็ก การสอน

แบบไฮสโคปมีพื้นฐานแนวคิดมาจากทฤษฎีของเพียเจย์ (Piaget’s

Theory)ว่าด้วยพัฒนาทางสติปัญญาที่เน้นการเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติที่

เด็กสามารถสร้างความรู้ได้เองโดยใช้กระบวนการสร้างสรรค์การเรียนรู้

(Constructive process of learning)เด็กจะเรียนรู้จากการกระทําของตน

การประเมินผลงานอย่างมีแบบแผน ช่วยให้เด็กเกิดความรู้ขึ้น ด้วยพื้นฐาน

ความเชื่อที่ว่าเด็กเป็นผู้ใฝ่รู้เด็กสามารถสร้างความรู้ได้จากประสบการณ์ที่มี

ความหมาย

โดยกลไกการเรียนตามรูปแบบการเรียนการสอนแบบไฮสโคป คือให้

เด็กริเริ่มกิจกรรมด้วยตนเอง มีการเลือกสื่อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะเรียนโดย

Page 53 of 89

ให้เด็กการลงมือปฏิบัติและสัมผัสสื่อด้วยมือของตนเองโดยมีครูผู้สอนเป็นผู้

สนับสนุนและคอยกระตุ้นเร้าให้เด็กเกิดการดําเนินกิจกรรมต่อไป

หลักการเรียนการสอนแบบไฮสโคป เป็นการสร้างองค์ความรู้จาก

การที่เด็กได้ลงมือจัดกระทํากับอุปกรณ์ หรือสิ่งแวดล้อมซึ่งถือเป็น

ประสบการณ์ตรง โดยใช้หลักปฏิบัติ 3 ประการ คือ

- การวางแผน (Plan) เป็นการกําหนดแนวทางการปฏิบัติ หรือการ

ดําเนินงานตามงานที่ได้รับมอบหมายหรือ

สิ่งที่สนใจด้วยการสนทนาร่วมกันระหว่างครูกับเด็ก และเด็กกับเด็ก ว่า

จะทําอะไร อย่างไร การวางแผน

กิจกรรมนี้เด็กอาจแสดงด้วยภาพหรือสัญลักษณ์ประจําตัวเด็กหรือบอก

ให้ครูบันทึก เป็นกระบวนการที่เด็กมี

โอกาสเลือกและตัดสินใจ

- การปฏิบัติ (Do) คือการลงมือทํากิจกรรมตามแผนที่วางไว้ เป็นส่วนที่

เด็กได้ร่วมกันคิด แก้ปัญหา ตัดสินใจ

และทํางานด้วยตนเอง หรือร่วมกับเพื่อนอย่างอิสระตามเวลาที่กําหนด

โดยมีครูเป็นผู้ให้คําแนะนํา ช่วยเหลือ

ในจังหวะที่เหมาะสม เป็นส่วนที่เด็กได้มีการพัฒนาการพูดและ

ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมสูง

-การทบทวน (Review) เป็นช่วงที่ได้งานตามจุดประสงค์ ช่วงนี้จะมีการ

เล่าถึงผลงานที่เด็กทําเพื่อทบทวนว่าตนเอง (เด็ก) สามารถปฏิบัติตาม

แผนที่วางไว้หรือไม่ มีการเปลี่ยนแปลงแผนอย่างไร จุดประสงค์ของ

การทบทวนคือ เพื่อสะท้อนสิ่งที่เด็กได้ทํา ชี้ให้เห็นความเชื่อมโยง

ระหว่างแผนกับการปฏิบัติและผลงานที่ทํา รวมถึงเล่าประสบการณ์

ต่างๆที่ได้ทํา

หลักการเรียนการสอนที่สําคัญ คือ

- เด็กเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติด้วยตนเองโดยใช้กระบวนการ

วางแผน ลงมือปฏิบัติและทบทวนผลงานของตนเองโดยมีครูเป็นผู้

สังเกต ให้คําปรึกษา แนะนํา

- การใช้เวลาดําเนินกิจกรรมอาจมีช่วงยาวกว่ากิจกรรมปกติ เช่นนาน

กว่า 60 นาที

- ศูนย์หรือมุมการเรียนรู้ต้องมีอุปกรณ์พร้อมใช้ มีความหลากหลาย มี

เครื่องหมายแสดงการวางชัดเจน ง่ายสําหรับเด็กในการตัดสินใจเลือก

ใช้

Page 54 of 89

- ครูและผู้ปกครองมีหน้าที่สนับสนุนการเรียนรู้ของเด็กด้วยการ

สนับสนุนอุปกรณ์และให้คําแนะนําปรึกษาให้ความสนใจในความ

สามารถและผลงานของเด็ก

- เด็กได้เรียนรู้ร่วมกันเป็นกลุ่มขนาดเล็ก ครู 1 คนต่อเด็ก 5-6 คน หรือ

กลุ่มใหญ่ ครู 1 คน ต่อเด็ก 25 คน

การนําโปรแกรมของไฮสโคปมาใช้นั้น ครูผู้สอนจะต้องมีความเชื่อก่อน

ว่าเด็กสามารถเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ ในการจัดสิ่งแวดล้อมใน

ห้องเรียนตามมุมต่างๆ ควรมีไม่ต่ํากว่า 5 มุม เช่น มุมบ้าน มุมดนตรี มุมบล๊

อก มุมวิทยาศาสตร์ มุมหมอ เป็นต้น

โปรแกรมการจัดการเรียนการสอนแบบไฮสโคป เน้นเรื่องการมี

ปฏิสัมพันธ์ที่ดี การมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวก ซึ่งต้องเริ่มต้นจากการสร้างความไว้

วางใจ ครูผู้สอนที่ดีจะต้องสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้นกับเด็ก การที่เด็ก

ได้ลงมือทํางานหรือกิจกรรมตามความสนใจของตัวเด็กเอง จะทําให้เด็กเกิด

ความสนุกในการเรียนรู้ที่ทํากิจกรรม การทํากิจกรรมควรเป็นไปตามขั้นตอน

อย่างเป็นระบบ ทําให้เด็กได้ฝึกสมาธิทําให้เด็กเกิดปัญญา ฝึกความมี

ระเบียบวินัย ฝึกการคิดอย่างมีความหมาย ผลที่จะเกิดตามมาถือเป็นความ

สําเร็จของเด็กๆในการได้ลงมือปฎบัติกิจกรรมกับเพื่อนๆและบุคคลอื่นได้

อย่างมีความสุข

การสอนแบบวอลดอร์ฟ

มีรากฐานมาจากมนุษยปรัชญา นวัตกรรมการศึกษาแนววอลดอร์ฟ

รูดอร์ฟ สไตเนอร์.โดย ดร (Rudolf Steiner 1861-1925) ได้นํามาจัดการ

เพื่อพัฒนามนุษย์ไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่ ศึกษาในโรงเรียนที่มีเป้าหมาย

สมบูรณ์ ด้วยการพัฒนากาย (Body) จิต (Soul) และจิตวิญญาณ (Spirit)ให้

บรรลุถึง ความดี (Good) ความงาม (Beauty) ความจริง (Truth) แนวคิด

เชื่อ ของมนุษยปรัชญาที่เป็นรากฐานสําคัญในการจัดการศึกษาวอลดอร์ฟ

ว่า เมื่อมองดูการเกิดและเติบโตของเด็กคนหนึ่ง เราจะเห็นได้ว่า กาย

(Body) เป็นส่วนที่พ่อแม่เตรียมไว้ให้ในโลก ส่วนจิตวิญญาณ (spirit) เป็นจิต

เดิมแท้ของเด็กเองที่ มาจากโลกเบื้องบน และเชื่อมโยงกันด้วยวิญญาณ

(Soul) พ่อแม่และครูมีส่วนช่วยให้การเชื่อมโยงนี้เป็นไปอย่างราบรื่นกลม

กลืน

Page 55 of 89

เด็ก“ ความสําคัญของครูในอนุบาลวอลดอร์ฟ จึงต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจ

ตามธรรมชาติ” (Natural Childhood) และภาวะกึ่งฝัน (Dreamy stated) ที่

มีอยู่ในวัยเด็ก การศึกษาจึงเสมือนการทําหน้าที่ปลุกให้เด็กค่อยๆตื่นขึ้นมา

ในโลก หาวิธีเชื่อมโยงเด็กสู่โลกที่เขาได้ลงมาเกิด ครูยังต้องใส่ใจในการเต

รียมสิ่งแวดล้อม สถานที่ อาคาร ห้องเรียน บริเวณสวน ตลอดจนเครื่องมือ

เครื่องใช้ และของเล่นที่เด็กเล่น ให้เด็กสามารถเชื่อมโยงที่มาที่ไปใน

ธรรมชาติได้ ตลอดจนพลังธรรมชาติของโลก คือ ดิน น้ํา ลม ไฟ ครูได้นํามา

ประสานในกิจกรรมต่างๆในอนุบาลวอลดอร์ฟอย่างมีศิลปะ เพื่อให้เด็กได้

เข้าถึงธรรมชาติอันแท้จริงของโลก และแบ่งขั้นพัฒนาการของเด็ก ดังนี้

- (0 – 7 กาย (ปี (Body) พัฒนาผ่านพลัง เจตจํานง (Will) การมุ่งมั่น

ลงมือทําให้สําเร็จ

- (7 – 14 จิต (ปี (Soul) พัฒนาผ่านความรู้สึก (Feeling) เข้าถึงความ

งาม และศิลปะแบบต่างๆ

- (14 – 21 จิตวิญญาณ (ปี (Spirit) พัฒนาผ่านความคิด (Thinking)

การตระหนักรู้ ในคุณธรรม ความดี

ครูอนุบาลยังต้องให้ความสําคัญในการจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับอายุ

และความสามารถตามวัยของเด็ก ให้เกิดความสม ดุลกัน เกณฑ์อายุของ

ระดับอนุบาลวอลดอร์ฟ คือ ก่อน 7 ขวบ หรือก่อนฟันแท้จะขึ้น มนุษยปรัชญา

ยังได้เผยภาพลักษณ์ของมนุษย์อันประกอบไปด้วย กาย 4 กาย ได้แก่

ร่างกาย กายพลังชีวิต กายความรู้สึก กายตัวตน ถึงแม้ว่ากายทั้ง 4 จะมา

พร้อมกันเมื่อคนเราเกิดมาในโลก แต่ก็ค่อยๆเผยออกมาทีละกายทุกๆรอบ 7

ปี จนเด็กอายุ 21 ปี จึงมีกายทั้ง 4 ครบสมบูรณ์ หากในระหว่างนั้น มีการ

สนับสนุนทางการศึกษาอย่างถูกต้องเหมาะสมแก่เด็ก จะยิ่งเป็นประ โยชน์

ต่อการพัฒนาเด็กให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ในระดับอนุบาล เป็นขั้นตอนที่

กําลังสร้างร่างกายและบ่มเพาะกายพลังชีวิต การศึกษาสําหรับเด็กอนุบาล

ควรส่งเสริมพลังเจตจํานง (Will) ของเด็กและการรักษาจังหวะในชีวิตประจํา

วัน (Rhythm of life) ของเด็กให้มีความสม่ําเสมอ นอกจากนี้ มนุษย์ยังรับรู้

โลกผ่านสัมผัส ทั้ง 12 แต่ในระดับอนุบาล เด็กๆรับรู้ด้วยสัมผัส 4 อย่างขั้น

ความรู้ด้านสัมผัสรู้ เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เมื่อครูนําไปเป็น ได้แก่ พื้นฐาน

แนวทางในการจัดกิจกรรมให้เด็กในอนุบาลวอลดอร์ฟ

- สัมผัสรู้ที่ผิวกาย (Touch)

- สัมผัสรู้พลังชีวิต (Life)

- สัมผัสรู้การเคลื่อนไหว (Movement)

Page 57 of 89

วิถีชีวิตของคนในชุมชน สังคม) รอบสัปดาห์ , (เทศกาล วัฒนธรรม

ครอบครัว)

,จังหวะชีวิตในหนึ่งวัน) รอบวัน)

แนวการจัดประสบการณ์ส่งเสริมพลังเจตจํานง (Will) ของเด็ก และ

รักษาจังหวะในชีวิตประจําวันของเด็กให้มีความสม่ํา เสมอ (Rhythm of life)

เช่น การกิน นอน เล่น ขับถ่าย ให้เป็นเวลาที่เหมาะสมสําหรับเด็ก เช่นเดียว

ออก ที่มีการเข้าและคลายออก ด้วยความเข้าใจที่ว่า-กับจังหวะลมหายใจเข้า

เด็กอยู่ในภาวะกึ่งฝัน และการศึกษาค่อยๆพาให้เด็กตื่นขึ้น จึงมีรูปแบบแตก

ต่างไปจากศึกษาแนวอื่นๆ ทั้งการจัดห้องและการจัดกิจกรรมต่างๆ จะไม่

กระตุ้นเร้าให้เด็กตื่นก่อนวัย

รูปแบบการจัดการศึกษา เป็นการบูรณาการทั้งทักษะและสาระการเรียน

รู้ ไม่เน้นการสอนของครู ไม่มีการสอนรายวิชา หรือการเรียนเขียนอ่านแบบ

ชั้นประถม ทัศนะคติในใจครูคือ โลกนี้มีความดีงาม ครูจึงมุ่งเน้นในการทํา

อนุบาลแบบ“ การจัดห้องอนุบาล มีลักษณะเป็น เรื่องนี้ให้ปรากฎเสียก่อน

โดยมีครูเสมือนแม่ การจัดสภาพแวดล้อมภายในเช่นเดียวกับบ้าน ”บ้าน

หนึ่งหลังที่มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งห้องครัว ห้องนอน ห้องนั่งเล่น จัดให้มีความ

สวยงามและเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิต ประจําวัน โดยครูจะนําทักษะ

ด้านศิลปะมาจัดห้องเรียนให้อบอุ่นน่าอยู่ เช่น นําผ้าย้อมสีธรรมชาติมา

ตกแต่งในห้องเรียน จัดมุมฤดูกาลด้วยตุ๊กตาผ้าและวัสดุจากธรรมชาติ รวม

ทั้งอุปกรณ์และของเล่นเด็กก็มาจากวัสดุในธรรมชาติด้วย

- ธรรมชาติการเรียนรู้ในวัยเด็ก

เด็กเรียนรู้ผ่านการเลียนแบบ โดยมีครูทําให้เห็นเป็นแบบอย่าง (Imitation)

การงานในชีวิตประจําวัน ครูจะลงมือทํางานต่างๆด้วยตัวเอง ได้แก่ งานบ้าน

งานครัวและงานสวน เช่น การทําความสะอาดบ้าน การปรุงอาหาร และงาน

ฝีมือหัตถกรรม งานทั้งหมดนี้มีพื้นฐานวิชาต่างๆ ทั้งคณิตศาสตร์

วิทยาศาสตร์ ภาษา ฯลฯ ทั้งนี้ประสบการณ์ชีวิตที่ได้เรียนรู้ มีความเชื่อม

โยงสอดคล้อง กับธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นและตัว

เด็ก

- เล่นอย่างอิสระโดยไม่แทรกแซง (Free play) เสริมจินตนาการและ

ความคิดสร้างสรรค์ (Imagination) เด็กจะได้เล่นอย่างเสรี ด้วยวัตถุที่มาจาก

ธรรมชาติ ทั้งเล่นในห้องเรียน เล่นกลางแจ้ง และกิจกรรมศิลปะรูปแบบต่างๆ

วาดภาพ ระบายสีน้ํา ปั้น ร้องเพลง นิทาน ละครหุ่น บทกลอน และบทเพลงที่

ครูร้องอย่างไพเราะ เสมีอนการบอกกําหนดเวลา แทนออกคําสั่ง

Page 58 of 89

มีดังนี้ ประโยชน์ที่เด็กได้รับจากการศึกษาแนววอลดอร์ฟ

- เด็กมีอิสระ พัฒนาตนเต็มศักยภาพที่ตนมี

- เด็กมีความคิดแยบคาย สดใส มีพลังและสร้างสรรค์

- เด็กมีความเมตตา กล้าหาญ ใฝ่รู้ เอื้ออาทร

การศึกษาแนววอลดอร์ฟไม่ได้วัดความสําเร็จของการศึกษาจากผลการเรียน

รู้ แต่มุ่งดึงศักยภาพ ซึ่งแฝงเร้นอยู่ในตัวเด็กแต่ละคนให้แสดงออกมา ทําให้

เด็กค้นพบพลัง ความกระตือรือร้น และปัญญาที่ตนเองมีอยู่ เพื่อนํามาซึ่ง

คุณภาพสูงสุดของตัวเขาเอง

หลักการจัดประสบการณ์

1. จัดประสบการณ์การเล่น และการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เพื่อ

พัฒนาเด็กโดยองค์รวมอย่างสมดุลและต่อเนื่อง

2. เน้นเด็กเป็นสําคัญ สนองความต้องการ ความสนใจ ความแตก

ต่างระหว่างบุคคลและบริบทของสังคมที่เด็กอาศัยอยู่

3. จัดให้เด็กได้รับการพัฒนา โดยให้ความสําคัญกับกระบวนการ

เรียนรู้และพัฒนาการของเด็ก

4. จัดการประเมินพัฒนาการให้เป็นกระบวนการอย่างต่อเนื่อง และเป็น

ส่วนหนึ่งของการจัดประสบการณ์ พร้อมทั้งนําผลการประเมินมาพัฒนา

เด็กอย่างต่อเนื่อง

5. ให้พ่อแม่ ครอบครัว ชุมชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการ

พัฒนาเด็ก

แนวการจัดประสบการณ์

1. จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับจิตวิทยาพัฒนาการและการ

ทํางานของสมอง ที่เหมาะกับอายุ วุฒิภาวะและระดับพัฒนาการ เพื่อ

ให้เด็กทุกคนได้พัฒนาเต็มศักยภาพ

2. จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับแบบการเรียนรู้ของเด็ก เด็กได้

ลงมือกระทํา เรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า ได้เคลื่อนไหว สํารวจ

เล่น สังเกต สืบค้น ทดลอง และคิดแก้ปัญหาด้วยตนเอง

3. จัดประสบการณ์แบบบูรณาการ โดยบูรณาการทั้งกิจกรรม ทักษะ

และสาระการเรียนรู้

Page 59 of 89

4. จัดประสบการณ์ให้เด็กได้ริเริ่มคิด วางแผน ตัดสินใจลงมือกระทํา

และนําเสนอความคิดโดยผู้สอนหรือผู้จัดประสบการณ์เป็นผู้สนับสนุน

อํานวยความสะดวก และเรียนรู้ร่วมกับเด็ก

5. จัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กอื่น กับผู้ใหญ่ ภายใต้

สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในบรรยากาศที่อบอุ่นมีความสุข

และเรียนรู้การทํากิจกรรมแบบร่วมมือในลักษณะต่างๆ กัน

6. จัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อและแหล่งการเรียนรู้ที่

หลากหลายและอยู่ในวิถีชีวิตของเด็ก สอดคล้องกับบริบท สังคม และ

วัฒนธรรมที่แวดล้อมเด็ก

7. จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมลักษณะนิสัยที่ดีและทักษะการใช้ชีวิต

ประจําวัน ตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจน

สอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม และการมีวินัยให้เป็นส่วนหนึ่งของการ

จัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

8. จัดประสบการณ์ให้ทั้งในลักษณะที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าและ

แผนที่เกิดขึ้นในสภาพจริงโดยไม่ได้คาดการณ์ไว้

9. จัดทําสารนิทัศน์ด้วยการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการและการ

เรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคล นํามาไตร่ตรองและใช้ให้เป็นประโยชน์

ต่อการพัฒนาเด็กและการวิจัยในชั้นเรียน

10. จัดประสบการณ์โดยให้พ่อแม่ ครอบครัว และชุมชนมีส่วนร่วมทั้ง

การวางแผน การสนับสนุนสื่อ แหล่งเรียนรู้ การเข้าร่วมกิจกรรม และ

การประเมินพัฒนาการ

การจัดกิจกรรมประจําวัน

กิจกรรมสําหรับเด็กอายุ 3 – 6 ปี บริบูรณ์ สามารถนํามาจัดเป็น

กิจกรรมประจําวันได้หลายรูปแบบ เป็นการช่วยให้ผู้สอนหรือผู้จัด

ประสบการณ์ทราบว่าแต่ละวันจะทํากิจกรรมอะไร เมื่อใด และอย่างไร ทั้งนี้

การจัดกิจกรรมประจําวันสามารถจัดได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะ

สมในการนําไปใช้ของแต่ละหน่วยงานและสภาพชุมชน ที่สําคัญผู้สอนต้อง

คํานึงถึงการจัดกิจกรรมให้ครอบคลุมพัฒนาการทุกด้าน การจัดกิจกรรม

ประจําวันมีหลักการจัดและขอบข่ายของกิจกรรมประจําวัน ดังนี้

หลักการจัดกิจกรรมประจําวัน

1. กําหนดระยะเวลาในการจัดกิจกรรมแต่ละกิจกรรมให้เหมาะสมกับ

วัยของเด็กในแต่ละวันแต่ยืดหยุ่นได้ตามความต้องการและความสนใจ

ของเด็ก เช่น

Page 60 of 89

วัย 3 – 4 ปี มีความสนใจประมาณ 8 – 12 นาที

วัย 4 – 5 ปี มีความสนใจประมาณ 12 – 15 นาที

วัย 5 – 6 ปี มีความสนใจประมาณ 15 -20 นาที

2. กิจกรรมที่ต้องใช้ความคิดทั้งในกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ ไม่ควรใช้

เวลาต่อเนื่องนานเกินกว่า 20 นาที

3. กิจกรรมที่เด็กมีอิสระเลือกเล่นเสรี เพื่อช่วยให้เด็กรู้จักเลือกตัดสิน

ใจ คิดแก้ปัญหา คิดสร้างสรรค์ เช่น การเล่นตามมุม การเล่นกลางแจ้ง

ฯลฯ ใช้เวลาประมาณ 40 -60 นาที

4. กิจกรรมควรมีความสมดุลระหว่างกิจกรรมในห้องและนอกห้อง

กิจกรรมที่ใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็ก กิจกรรมที่เป็นรายบุคคล

กลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่ กิจกรรมที่เด็กเป็นผู้ริเริ่มและผู้สอนหรือผู้จัด

ประสบการณ์เป็นผู้ริเริ่ม และกิจกรรมที่ใช้กําลังและไม่ใช้กําลัง จัดให้

ครบทุกประเภท ทั้งนี้ กิจกรรมที่ต้องออกกําลังกายควรจัดสลับกับ

กิจกรรมที่ไม่ต้องออกกําลังมากนัก เพื่อเด็กจะได้ไม่เหนื่อยเกินไป

ขอบข่ายของกิจกรรมประจําวัน

การเลือกกิจกรรมที่นํามาจัดในแต่ละวันสามารถจัดได้หลายรูปแบบ

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการนําไปใช้ของแต่ละหน่วยงานและสภาพ

ชุมชน ที่สําคัญผู้สอนต้องคํานึงถึงการจัดกิจกรรมให้ครอบคลุมพัฒนาการ

ทุกด้าน ดังต่อไปนี้

1. การพัฒนากล้ามเนื้อใหญ่ เป็นการพัฒนาความแข็งแรง การทรงตัว

การยืดหยุ่น ความคล่องแคล่วในการใช้อวัยวะต่าง ๆ และจังหวะการ

เคลื่อนไหวในการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ โดยจัดกิจกรรมให้เด็กได้เล่นอิสระกลาง

แจ้ง เล่นเครื่องเล่นสนาม ปีนป่ายเล่นอิสระ เคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะ

ดนตรี

2. การพัฒนากล้ามเนื้อเล็ก เป็นการพัฒนาความแข็งแรงของกล้าม

นิ้วมือ การประสานสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อมือและ – เนื้อเล็ก กล้ามเนื้อมือ

ระบบประสาทตา มือ ได้อย่างคล่องแคล่วและประสานสัมพันธ์กัน โดยจัด

กิจกรรมให้เด็กได้เล่นเครื่องเล่นสัมผัส เล่นเกมการศึกษา ฝึกช่วยเหลือ

ตนเองในการแต่งกาย หยิบจับช้อนส้อม และใช้วัสดุอุปกรณ์ศิลปะ เช่น สี

เทียน กรรไกร พู่กัน ดินเหนียว ฯลฯ

3. การพัฒนาอารมณ์ จิตใจ และปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม เป็นการ

มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น มีความเชื่อมั่น กล้า ปลูกฝังให้เด็ก

แสดงออก มีวินัย รับผิดชอบ ซื่อสัตย์ ประหยัด เมตตา กรุณา เอื้อเฟื้อ แบ่ง

Page 62 of 89

หน่วยการจัดประสบการณ์

สาระการเรียนรู้ หน่วยการจัดประสบการณ์ ปฐมวัย 3

-6 ขวบ

หมายเหตุ

Page 63 of 89

1. เรื่องราวเกี่ยว

กับตัวเด็ก

1. ปฐมนิเทศ

- ชื่อบุคคลต่าง ๆ ในศูนย์พัฒนาเด็ก

เล็ก

- สัญลักษณ์และของใช้ประจําตัว

- ของใช้ในห้องเรียน

- การเล่นที่ถูกวิธี

- การปฏิบัติตนตามข้อตกลง

2. หนูน้อยน่ารัก

- นามสกุล – ชื่อ

- อายุ และวันเกิด

- รูปร่างและลักษณ์ เพศ

- น้ําหนัก และส่วนสูง

- การเจริญเติบโต

3. ร่างกายของหนู

- ส่วนประกอบของร่างกาย

- หน้าที่ของอวัยวะ

- การดูแลอวัยวะภายใน

- การดูแลอวัยวะภายนอก

- ประโยชน์ของการดูแลร่างกาย

4. กิจวัตรประจําวัน) หนูรู้เวลา)

- การเข้าห้องน้ํา ห้องส้วม

- การออกกําลังกาย

- การแปรงฟัน

- การพักผ่อน

- การล้างมือ

5. ประสาทสัมผัส

- การดู) ตา)

- การฟัง) หู)

- การดมกลิ่น) จมูก)

- การชิมรส) ลิ้น,ปาก)

- การสัมผัส) กาย)

6. เปล่งประกายหนูน้อยน่ารัก

- มารยาทในการพูด

- มารยาทในการทําความเคารพ

Page 64 of 89

สาระการเรียนรู้ หน่วยการจัดประสบการณ์ ปฐมวัย 3

-6 ขวบ

หมายเหตุ

Page 65 of 89

1. เรื่องราวเกี่ยว

กับตัวเด็ก

7. อาหารดีมีประโยชน์

- ชื่อและชนิดของอาหาร

- อาหารที่ควรรับประทาน

- อาหารหลัก ๕ หมู่

- ประโยชน์ของอาหาร

- อาหารที่ไม่ควรรับประทาน

8. ของเล่นของใช้ของหนู

- ส่วนประกอบของของเล่น

- วิธีการเล่น

- เครื่องเล่นสนาม

- การเก็บรักษา

- สถานที่ที่เหมาะสมกับการเล่น

9. หนูน้อยคนเก่ง

- การเก็บของเล่นและของใช้

- การรับประทานอาหาร

- งานศิลปะ

- การแต่งตัว

- การเข้าห้องน้ํา

10. หนูน้อยอารมณ์ดี

- การออกกําลังกาย

- การนอนหลับพักผ่อน

- การมีน้ําใจช่วยเหลือผู้อื่น

- ความรับผิดชอบต่อหน้าที่

- การช่วยเหลือตนเอง

11. ร่างกายสะอาด มีอนามัย

- การอาบน้ํา

- การสระผม หวีผม

- การแปรงฟัน

- การล้างมือ การตัดเล็บ

- การแต่งกาย

12. นมดีมีประโยชน์

- แหล่งที่มาของนม

- ประเภทของนม

- อาหารที่มีนมเป็นส่วนประกอบ

Page 66 of 89

สาระการเรียนรู้ หน่วยการจัดประสบการณ์ ปฐมวัย 3

-6 ขวบ

หมายเหตุ

1. เรื่องราวเกี่ยว

กับตัวเด็ก

13. ไข่ดีมีประโยชน์

- ชนิดของไข่

- ลักษณะของไข่

- ประโยชน์ของไข่

- อาหารที่ทําจากไข่

- การเก็บรักษาไข่

Page 67 of 89

สาระการเรียนรู้ หน่วยการจัดประสบการณ์ ปฐมวัย 3

-6 ขวบ

หมายเหตุ

2. บุคคลและสถาน

ที่แวดล้อมเด็ก

1. มาโรงเรียนกันเถอะ

- ชื่อศูนย์ และสถานที่ภายในศูนย์

- การอยู่ร่วมกันของสมาชิกในศูนย์

- สัญลักษณ์และของใช้ส่วนตัว

- การรักษาความสะอาดในห้องเรียน

- บุคลต่าง ๆ ในศูนย์

2. เครื่องเล่นสนาม

- ชื่อเครื่องเล่นสนาม

- วิธีใช้และเล่นเครื่องเล่นสนามที่ถูกวิธี

- ความมีน้ําใจรู้จักแบ่งปันเครื่องเล่น

สนามกับเพื่อน

- วิธีป้องกันอุบัติเหตุระหว่างเล่นเครื่อง

เล่นสนาม

- ประโยชน์ของการเล่นเครื่องเล่น

สนาม

3. บ้านน่าอยู่

- ห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน

- การทําความสะอาดบ้าน

- ประโยชน์ของบ้าน

- สมาชิกในบ้าน

- การอยู่ร่วมกันของสมาชิกในบ้าน

4. วันลอยกระทง

- ประวัติความเป็นมา

- ลักษณะของกระทง

- การลอยกระทง

- กิจกรรมที่จัดในวันลอยกระทง

- วัสดุ อุปกรณ์ ที่ทํากระทง

Couldn't preview file
There was a problem loading this page. Retrying...

Page 69 of 89

2. บุคคลและสถาน

ที่แวดล้อมเด็ก

5. วันพ่อ

- พระราชประวัติของพระบาทสมเด็ก

พระเจ้าอยู่หัว

- พระราชกรณีย์กิจของพระบาทสมเด็ก

พระเจ้าอยู่หัว

- ความสําคัญของวันพ่อ

- สัญลักษณ์วันพ่อ

- การตอบแทนพระคุณของพ่อ

6. วันครู – วันเด็ก

- ความสําคัญของวันเด็ก

- คําขวัญวันเด็ก

- กิจกรรมวันเด็ก

- ความสําคัญของครู

- การตอบแทนพระคุณของครู

7. วันเข้าพรรษา – วันอาสาฬหบูชา

- ความหมาย ความสําคัญของวัน

อาสาฬหบูชา

- ความหมาย ความสําคัญของวันเข้า

พรรษา

- พิธีบวชนาค

- การถวายเทียนพรรษา

- การเวียนเทียน

8. วันแม่

- พระราชประวัติสมเด็กพระนางเจ้าฯ

พระบรมราชินินาถ

- พระราชกรณีย์กิจสมเด็กพระนางเจ้าฯ

พระบรมราชินีนาถ

- ความสําคัญของวันแม่

- สัญลักษณ์วันแม่

- การตอบแทนพระคุณของแม่

9. เพื่อนรักของหนู

- ชื่อจริง และชื่อเล่นของเพื่อน

- ความสําคัญของเพื่อน

- กิจกรรมที่ทําร่วมกับเพื่อน

Page 70 of 89

สาระการเรียนรู้ หน่วยการจัดประสบการณ์ ปฐมวัย 3

-6 ขวบ

หมายเหตุ

2. บุคคลและสถาน

ที่แวดล้อมเด็ก

11. อาชีพในฝัน

- ความฝันของหนู

- การแต่งกายของแต่ละอาชีพ

- สถานที่ทํางานของแต่ละอาชีพ

- เครื่องมือที่ใช้ในการประกอบอาชีพ

- หน้าที่ของแต่ละอาชีพ

12. สวัสดีปีใหม่

- ความหมาย ความสําคัญ

- ขนบธรรมเนียมประเพณี

- การเลือกและจัดหาของขวัญ

- การแสดงความเคารพและอวยพร

ผู้ใหญ่

- ส.ค.ความหมายของคําว่า ส.

13. วันมาฆบูชา

- ความสําคัญของวันมาฆบูชา

- กิจกรรมที่ปฏิบัติ

- การปฏิบัติตนในวันมาฆบูชา

- การแสดงบทบาทสมมุติ การเวียน

เทียน

- การแสดงบทบาทสมมุติ การตักบาตร

สาระการเรียนรู้ หน่วยการจัดประสบการณ์ ปฐมวัย 3

-6 ขวบ

หมายเหตุ

Page 71 of 89

3. ธรรมชาติรอบ

ตัวเด็ก

1. ฝนจ๋า

- การเกิดฝน

- ปรากฏการณ์ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง

- การปฏิบัติตนในฤดูฝน

- โรคที่พบในฤดูฝน

- สัตว์ที่เป็นอันตราย และมีมากในฤดู

ฝน

2. โอ้ทะเลแสนงาม

- ลักษณะของทะเล

- สัตว์ที่อยู่ในทะเล

- การเล่นน้ําในทะเล

- อาชีพของชาวประมง

- ประโยชน์ของทะเล

สาระการเรียนรู้ หน่วยการจัดประสบการณ์ ปฐมวัย 3

-6 ขวบ

หมายเหตุ

Page 72 of 89

3. ธรรมชาติรอบ

ตัวเด็ก

3. ปลาแสนสวย.ป

- ลักษณะ ประเภทของปลา

- ประโยชน์ของปลา

- ประเภทของอาหารที่ทําจากปลา

- อาหารของปลา

- การอนุรักษ์ปลา

4. น้ํา

- วัฏจักรของการเกิดน้ํา

- แหล่งกําเนิดของน้ํา

- ลักษณะของน้ําดื่ม

- ประโยชน์ของน้ํา

- การอนุรักษ์น้ํา

5. ต้นไม้

- ลักษณะของต้นไม้

- ประโยชน์ของต้นไม้

- การปลูกต้นไม้

- การเจริญเติบโตของต้นไม้

- การอนุรักษ์ต้นไม้

6. สัตว์โลกน่ารัก

- ชื่อสัตว์ต่างๆ

- รูปร่างลักษณะ

- โทษของสัตว์/ประโยชน์

- อาหารของสัตว์

- แหล่งที่อยู่อาศัย

7. ผีเสื้อแสนสวย

- วงจรชีวิตของผีเสื้อ

- ลักษณะของผีเสื้อ

- ประโยชน์ของผีเสื้อ

- อาหารของผีเสื้อ

- การอนุรักษ์ของผีเสื้อ

8. หนูชอบฤดูหนาว

- สภาพอากาศในฤดูหนาว

- การปฏิบัติตนในฤดูหนาว

- การแต่งกายให้เหมาะสมในฤดูหนาว

Page 74 of 89

3. ธรรมชาติรอบ

ตัวเด็ก

9. กลางคืน – กลางวัน

- ดวงอาทิตย์

- ดวงจันทร์

- การปฏิบัติตนในเวลากลางวัน

- การปฏิบัติตนในเวลากลางคืน

- – ความแตกต่างระหว่างกลางวัน

กลางคืน

10. พืช ผัก สวนครัว

- ความหมายของพืชผักสวนครัว

- ชนิดของพืชผักสวนครัว

- ประโยชน์ของพืชผักสวนครัว

- วิธีปลูกพืชผักสวนครัว

- การดูแลรักษาพืชผักสวนครัว

11. หิน ดิน ทราย

- ลักษณะของดิน

- ลักษณะของหิน

- ลักษณะของทราย

- เครื่องปั้นดินเผา

- ประโยชน์ของดิน หิน ทราย

12. มด

- ชนิดของมด

- ลักษณะของมด

- อาหารของมด

- ประโยชน์ของมด

- ข้อควรระวังของมด

13. ดอกไม้งามตา

- ประเภทของดอกไม้

- ลักษณะของดอกไม้

- การบํารุง ดูแล รักษาดอกไม้

- ประโยชน์ของดอกไม้

- การทําดอกไม้ประดิษฐ์

14. เรื่องของกล้วย กล้วย

- ชนิดของกล้วย

- ลักษณะของกล้วย

Page 75 of 89

สาระการเรียนรู้ หน่วยการจัดประสบการณ์ ปฐมวัย 3

-6 ขวบ

หมายเหตุ

Page 77 of 89

สาระการเรียนรู้ หน่วยการจัดประสบการณ์ ปฐมวัย 3

-6 ขวบ

หมายเหตุ

Page 78 of 89

4. สิ่งต่าง ๆ รอบ

ตัวเด็ก

1. ของใช้ในครัว

- กระติก,เตา,หม้อหุงข้าว,เขียง,มีด) ชื่อ

น้ําร้อน)

- ลักษณะ

- รูปร่าง

- ประโยชน์

- โทษ

2. ของใช้ในการเกษตร

- กรรไกรตัด,บัวรดน้ํา,เสียม,จอบ) ชื่อ

มีดตัดหญ้า,กิ่งไม้)

- ลักษณะ

- รูปร่าง

- ประโยชน์

- โทษ

3. เครื่องมืองานช่าง

- สะ,ปะแจ,ไขควง) ชื่อ

ตะปู,ค้อน,นอต,หว่าน,)

- ลักษณะ

- รูปร่าง

- ประโยชน์

- โทษ

4. การสื่อสาร

- รูปแบบของการสื่อสาร

- ประโยชน์ของการสื่อสาร

เครื่องมือการสื่อสาร -

- การพูด การแสดงท่าทาง

- การส่งสาร การรับสาร

5. คณิต ฯ คิดสนุก

- สัญลักษณ์ ตัวเลข

-รูปทรง,รูปเลขาคณิต

- การบอกค่าของเงิน

- การวัดสิ่งต่าง ๆ

- เครื่องหมาย

6. ปลอดภัยไว้ก่อน

Page 79 of 89

สาระการเรียนรู้ หน่วยการจัดประสบการณ์ ปฐมวัย 3

-6 ขวบ

หมายเหตุ

4. สิ่งต่าง ๆ รอบ

ตัวเด็ก

7. หัวใจนักคิด

- รูปทรงเลขาคณิต

- การตวง

- การเรียงลําดับ

- การจําแนกการเปรียบเทียบ

- การทดลองง่าย ๆ

8. เดินทางทั่วไทย

- ความหมายของการคมนาคม

- ประเภทของการคมนาคม

- การปฏิบัติตนในการใช้ยานพาหนะ

- ประโยชน์ของการคมนาคม

- โทษของการคมนาคม

9. สีสวยสดใส

- สีที่หนู ๆ รู้จัก

- สีที่ได้จากธรรมชาติ

- ประเภทของสี

- แม่สีและการผสมสี

- โทษของสี / ประโยชน์

10. การละเล่นพื้นบ้าน

- มอญซ่อนผ้า

- รี รี ข้าวสาร

- ม้าก้านกล้วย

- งูกินหาง

- จับ ,ตี่

Page 80 of 89

สื่อและแหล่งการเรียนรู้

สื่อ เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดเรื่องราวเนื้อหาจากผู้ส่งไปยังผู้รับใน

การเรียนสอน สื่อเป็นตัวกลางนําความรู้จากผู้สอนสู่เด็ก ทําให้เด็กเกิดการ

เรียนรู้ตามจุดประสงค์ที่วางไว้ ช่วยให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง ทําให้สิ่งที่

เรียนรู้ได้ง่าย เป็นนามธรรมเข้าใจยากกลายเป็นรูปธรรมที่เด็กเข้าใจง่าย

รวดเร็ว เพลิดเพลิน เกิดการเรียนรู้และค้นพบด้วยตัวเอง

สื่อประกอบการจัดกิจกรรม

สื่อประกอบการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยทั้งทางด้านร่างกาย

อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ควรมีสื่อทั้งที่เป็นประเภท 2 /มิติ และ

หรือ 3 มิติ ทั้งที่เป็นสื่อของจริง สื่อธรรมชาติ สื่อที่อยู่ใกล้ตัวเด็ก สื่อที่สะท้อน

วัฒนธรรม สื่อที่ปลอดภัยต่อตัวเด็ก สื่อเพื่อพัฒนาเด็กในด้านต่างๆ ให้ครบ

ทุกด้าน สื่อที่เอื้อให้เด็กเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า โดยการจัดการใช้

สื่อเริ่มต้นจาก สื่อของจริง ภาพถ่าย ภาพโครงร่าง และสัญลักษณ์ ทั้งนี้

การใช้สื่อต้องเหมาะสมกับวัย วุฒิภาวะ ความแตกต่างระหว่างบุคคล ความ

สนใจและความต้องการของเด็กที่หลากหลาย ตัวอย่างสื่อประกอบการจัด

กิจกรรม มีดังนี้

เล่นตามศูนย์ประสบการณ์ / กิจกรรมเสรี

1. อาจจัดเป็นมุมเล่น ดังนี้ ศูนย์บทบาทสมมุติ

-ของเล่นเครื่องใช้ในครัวขนาดเล็ก หรือของจําลอง มุมบ้าน

เช่น เตา กระทะ ครก กาน้ํา เขียง มีดพลาสติก หม้อ จาน ช้อน

เครื่องเล่นตุ๊กตา เสื้อผ้าตุ๊กตา เตียง เปลเด็ก ถ้วยชาม กะละมัง

เครื่องแต่งบ้านจําลอง เช่น ชุดรับแขก โต๊ะเครื่องแป้ง ตุ๊กตา

เครื่องแต่งกาย หมอนอิง กระจกขนาดเห็นเต็มตัว หวี ตลับแป้ง

บุคคลอาชีพต่างๆที่ใช้แล้ว เช่น ชุดเครื่องแบบทหาร ตํารวจ ชุด

เสื้อผ้าผู้ใหญ่ชายและหญิง รองเท้า กระเป๋าถือที่ไม่ใช้แล้ว

และภาพถ่ายและรายการ โทรศัพท์ เตารีดจําลอง ที่รีดผ้าจําลอง

อาหาร

- เครื่องเล่นจําลองแบบเครื่องมือแพทย์และ มุมหมอ

อุปกรณ์สําหรับเลียน อุปกรณ์การรักษาผู้ป่วย เช่นหูฟัง เสื้อคลุม

แบบการบันทึกข้อมูลผู้ป่วย เช่น กระดาษ ดินสอ ฯลฯ

Page 81 of 89

- กล่องและขวดผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ใช้แล้ว มุมร้านค้า

อุปกรณ์ประกอบการเล่น เช่น เครื่องคิดเลข ลูกคิด ธนบัตรจําลอง

ฯลฯ

2. ไม้บล็อกหรือแท่งไม้ที่มีขนาดแลรูปร่างต่างๆ กัน ศูนย์บล็อก

จํานวนตั้งแต่ 50 ของเล่นจําลอง เช่น รถยนต์ เครื่องบิน ชิ้นขึ้นไป

ที่จัดเก็บไม้บล็อกหรือ ภาพถ่ายต่างๆ รถไฟ คน สัตว์ ต้นไม้ ฯลฯ

แท่งไม้อาจเป็นชั้น ลังไม้หรือพลาสติก แยกตามรูปทรง ขนาด

3. หนังสือภาพนิทาน สมุดภาพ หนังสือภาพที่ นิทาน/ศูนย์หนังสือ

อุปกรณ์ มีคําและประโยคสั้นๆพร้อมภาพชั้นหรือที่วางหนังสือ

ต่างๆที่ใช้ในการสร้างบรรยากาศการอ่าน เช่น เสื่อ พรม หมอน

อุปกรณ์ อุปกรณ์สําหรับการเขียน สมุดเซ็นยืมหนังสือกลับบ้าน

เสริม เช่น เครื่องเล่นเทป ตลับเทปนิทานพร้อมหนังสือนิทาน หู

ฟัง

4. วัสดุต่างๆจาก ศูนย์วิทยาศาสตร์ หรือ ศูนย์ธรรมชาติศึกษา

ธรรมชาติ เช่น เมล็ดพืชต่างๆ เปลือกหอย ดิน หิน แร่ ฯลฯ

เครื่องมือเครื่องใช้ในการสํารวจ สังเกต ทดลอง เช่น แว่นขยาย

แม่เหล็ก เข็มทิศ เครื่องชั่ง ฯลฯ

ควรมีวัสดุอุปกรณ์ ดังนี้ กิจกรรมสร้างสรรค์

1. สีเทียนแท่งใหญ่ สีไม้ สีชอล์ก สีน้ํา การวาดภาพและระบายสี

ประมาณเบอร์ ) พู่กันขนาดใหญ่ 12 ) เสื้อคลุมหรือผ้า กระดาษ

กันเปื้อน

2. การ การเป่าสี มี กระดาษ หลอดกาแฟ สีน้ํา การเล่นกับสี

การพับสี มี กระดาษ หยดสี มี กระดาษ หลอดกาแฟ พู่กัน สีน้ํา

การละเลงสี มี กนระดาษ สี การเทสี มี กระดาษ สีน้ํา สีน้ํา พู่กัน

น้ํา แป้งเปียก

3. แม่พิมพ์ต่างๆ จากของจริง เช่น นิ้วมือ ใบไม้ การพิมพ์ภาพ

แม่พิมพ์จากวัสดุอื่นๆ เช่น เชือก เส้นด้าย ก้านกล้วย ฯลฯ

สีน้ํา สีฝุ่น ฯลฯ ) กระดาษ ผ้าเช็ดมือ สีโปสเตอร์ ตรายาง ฯลฯ )

4. เช่น ดินน้ํามัน ดินเหนียว แผ่นรองปั้น แม่พิมพ์รูป การปั้น

ต่างๆ ไม้นวดแป้ง ฯลฯ

5. ฉีก ตัดปะ เช่น กระดาษ หรือวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้พับ ฉีก การพับ

ตัด ปะ กรรไกรขนาดเล็กปลายมน กาวน้ําหรือแป้งเปียก ผ้าเช็ด

มือ ฯลฯ

Page 82 of 89

6. เช่น เศษวัสดุต่างๆ มีกล่องกระดาษ แกน การประดิษฐ์เศษวัสดุ

กระดาษ เศษผ้า เศษไม้ กาว กรรไกร สี ผ้าเช็ดมือ ฯลฯ

7. เชน ลูกปัด หลอดกาแฟ หลอดด้าย ฯลฯ การร้อย

8. เช่น กระดาษ ใบตอง ใบมะพร้าว ฯลฯ การสาน

9. พลาสติกชิ้นเล็กๆ รูปทรงต่างๆ ผู้ การเล่นพลาสติกสร้างสรรค์

เล่นสามารถนํามาต่อเป็นรูปแบบต่างๆ ตามความต้องการ

10. เช่น จากกระดานปักหมุด จากแป้นตะปูที่ใช้ การสร้างรูป

หนังยางหรือเชือกผูกดึง ให้เป็นรูปร่างต่างๆ

เกมการศึกษา ตัวอย่างสื่อประเภทเกมการศึกษา มีดังนี้

1. จับคู่ภาพที่ซ่อน,จับคู่ภาพเงา,จับคู่รูปร่างที่เหมือนกัน เกมจับคู่

จับคู่,จับคู่สิ่งที่มีความสัมพันธ์กัน สิ่งที่ใช้คู่กัน,อยู่ในภาพหลัก

จับคู่ภาพชิ้นส่วน,จับคู่ภาพกับโครงร่าง,ภาพส่วนเต็มกับส่วนย่อย

จับ,จับคู่ภาพที่ซ้อนกัน,จับคู่ภาพที่เป็นประเภทเดียวกัน,ที่หายไป

จับคู่แบบ,จับคู่ภาพสมมาตรกัน,คู่ภาพสัมพันธ์แบบตรงกันข้าม

จับคู่แบบอนุกรม,อุปมาอุปไมย

2. ภาพตัดต่อที่สัมพันธ์กับหน่วยการเรียนต่างๆ เกมภาพตัดต่อ

เช่น ผลไม้ ผัก ฯลฯ

3. ภาพเกี่ยว,ภาพสิ่งต่างๆที่นํามาจัดเป็นพวกๆ เกมจัดหมวดหมู่

กับประเภทของใช้ในชีวิตประจําวัน

4. โดมิโน,โดมิโนภาพเหมือน ( โดมิโน ) เกมวางภาพต่อปลาย

ภาพสัมพันธ์

5. เรียงลําดับ,เรียงลําดับภาพเหตุการณ์ต่อเนื่อง เกมเรียงลําดับ

ขนาด

6. ลอตโต ) เกมศึกษารายละเอียดของภาพ )

7. เมตริกเกม ) เกมจับคู่แบบตารางสัมพันธ์ )

8. เกมพื้นฐานบวก

ตัวอย่างสื่อ มีดังนี้ กิจกรรมในวงกลม / กิจกรรมเสริมประสบการณ์

1. สื่อของจริงที่อยู่ใกล้ตัวและสื่อจากธรรมชาติหรือวัสดุท้องถิ่น

เช่น ต้นไม้ ใบไม้ เปลือกหอย เสื้อผ้า ฯลฯ

2. สื่อที่จําลองขึ้น เช่น ลูกโลก ตุ๊กตาสัตว์ ฯลฯ

3. สื่อประเภทภาพ เช่น ภาพพลิก ภาพโปสเตอร์ หนังสือภาพ

ฯลฯ

Page 83 of 89

4. สื่อเทคโนโลยี เช่น วิทยุ เครื่องบันทึกเสียง เครื่องขยายเสียง

โทรศัพท์ ฯลฯ

กิจกรรมกลางแจ้ง ตัวอย่างสื่อ มีดังนี้

1. เครื่องเล่นสนาม เช่น เครื่องเล่นสําหรับปีนป่าย เครื่องเล่น

ประเภทล้อเลื่อน ฯลฯ

2. ที่เล่นทาย มีทรายละเอียด เครื่องเล่นทราย เครื่องตวง ฯลฯ

3. ที่เล่นน้ํา เสื้อคลุมหรือผ้ากันเปื้อนพลาสติก อุปกรณ์เล่นน้ํา

เช่น ถ้วยตวง ขวดต่างๆ สายยาง กรวยกรอกน้ํา ตุ๊กตายาง ฯลฯ

ตัวอย่างสื่อ มีดังนี้ กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ

1. เครื่องเคาะจังหวะ เช่น ฉิ่ง เหล็กสามเหลี่ยม กรับ รํามะนา

กลอง ฯลฯ

2. อุปกรณ์ประกอบการเคลื่อนไหว เช่น หนังสือพิมพ์ ริบบิ้น แถบ

ผ้า ห่วง หวาย ถุงทราย

มีวิธีการเลือกสื่อ ดังนี้ การเลือกสื่อ

1. เลือกให้ตรงกับจุดมุ่งหมายและเรื่องที่สอน

2. เลือกให้เหมาะสมกับวัยและความสามารถของเด็ก

3. เลือกให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นที่เด็กอยู่หรือ

สถานภาพของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก

4. มีวิธีการใช้ง่าย และนําไปใช้ได้หลายกิจกรรม

5. มีความถูกต้องตามเนื้อหาและทันสมัย

6. มีคุณภาพดี เช่น ภาพชัดเจน ขนาดเหมาะสม ไม่ใช้สีสะท้อน

แสง

7. เลือกสื่อที่เด็กเข้าใจง่ายในเวลาสั้น ๆ ไม่ซับซ้อน

8. เลือกสื่อที่สามารถสัมผัสได้

9. เลือกสื่อเพื่อใช้ฝึก และส่งเสริมการคิดเป็น ทําเป็น และกล้า

แสดงความคิดเห็นด้วยความมั่นใจ

สามารถจัดหาได้หลายวิธี คือ การจัดหาสื่อ

1. จัดหาโดยการขอยืมจากแหล่งต่างๆ เช่น ศูนย์สื่อของ

สถานศึกษาของรัฐบาล หรือสถานศึกษา

เอกชน ฯลฯ

Page 84 of 89

2. จัดซื้อสื่อและเครื่องเล่นโดยวางแผนการจัดซื้อตามลําดับ

ความจําเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณที่ทางศูนย์พัฒนา

เด็กเล็กสามารถจัดสรรให้และสอดคล้องกับการจัดประสบการณ์

3. ผลิตสื่อและเครื่องเล่นขึ้นใช้เองโดยใช้วัสดุที่ปลอดภัยและหา

ง่ายเป็นเศษวัสดุเหลือใช้ที่มีอยู่ในท้องถิ่นนั้นๆ เช่น กระดาษแข็ง

จากลังกระดาษ รูปภาพจากแผ่นป้ายโฆษณา รูปภาพจากหนังสือ

นิตยสารต่างๆ เป็นต้น

มีดังนี้ ขั้นตอนการดําเนินการผลิตสื่อสําหรับเด็ก

1. สํารวจความต้องการของการใช้สื่อให้ตรงกับจุดประสงค์ สาระ

การเรียนรู้และกิจกรรม

2. โดยกําหนดจุดมุ่งหมายและรูปแบบของสื่อ วางแผนการผลิต

ให้เหมาะสมกับวัยและความสามารถของเด็ก สื่อนั้นจะต้องมีความ

คงทนแข็งแรงประณีตและสะดวกต่อการใช้

3. ผลิตสื่อตามรูปแบบที่เตรียมไว้

4. นําสื่อไปทดลองใช้หลายๆครั้งเพื่อหาข้อดี ข้อเสีย จะได้ปรับปรุง

แก้ไขให้ดียิ่งขึ้น

5. นําสื่อที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วไปใช้จริง

การใช้สื่อ ดําเนินการดังนี้

มีขั้นตอน คือ การเตรียมพร้อมก่อนใช้สื่อ

1. เตรียมตัวครูผู้ดูแลเด็ก

- ครูผู้ดูแลเด็ก จะต้องศึกษาจุดมุ่งหมายและวางแผนว่าจะจัด

กิจกรรมอะไรบ้าง

- เตรียมจัดหาสื่อและศึกษาวิธีการใช้สื่อ

- จัดเตรียมสื่อและวัสดุอื่นๆที่จะต้องใช้ร่วมกัน

- ทดลองใช้สื่อก่อนนําไปใช้จริง

2. เตรียมตัวเด็ก

- ศึกษาความรู้พื้นฐานของเด็กให้สัมพันธ์กับเรื่องที่จะสอน

- เร้าความสนใจเด็กโดยใช้สื่อประกอบการเรียนการสอน

- ให้เด็กมีความรับผิดชอบ รู้จักใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่

ทําลาย เล่นแล้วเก็บให้ถูกที่

3. เตรียมสื่อให้พร้อมก่อนนําไปใช้

- จัดลําดับการใช้สื่อว่าจะใช้อะไรก่อนหรือหลัง เพื่อความ

สะดวกในการสอน

Page 85 of 89

- ตรวจสอบและเตรียมเครื่องมือให้พร้อมที่จะใช้ได้ทันที

- เตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับสื่อ

เพื่อให้บรรลุผลโดยเฉพาะในกิจกรรมเสริม การนําเสนอสื่อ

ประสบการณ์ควรปฏิบัติดังนี้

1. สร้างความพร้อมและเร้าความสนใจให้เด็กก่อนจัดกิจกรรมทุก

ครั้ง

2. ใช้สื่อตามลําดับขั้นของแผนการจัดกิจกรรมที่กําหนดไว้

3. ไม่ควรให้เด็กเห็นสื่อหลายๆชนิดพร้อมๆกัน เพราะจะทําให้

เด็กไม่สนใจกิจกรรมที่สอน

4. ครูผู้ดูแลเด็ก พูดคุยกับเด็กและสังเกตความสนใจของเด็ก

พร้อมทั้งสํารวจข้อบกพร่อง

ของสื่อที่ใช้ เพื่อนําไปปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น

5. เปิดโอกาสให้เด็กได้ร่วมใช้สื่อ

การใช้สื่อในระดับ ข้อควรระวังในการใช้สื่อในการเรียนการสอน

ปฐมวัยควรระวังในเรื่องต่อไปนี้

1. วัสดุที่ใช้ ต้องไม่มีพิษ ไม่หัก และแตกง่าย มีพื้นผิวเรียบ ไม่

เป็นเสี้ยน

2. ขนาด ไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินไป เพราะยากต่อการหยิบยก

อาจจะตกลงมาเสียหายแตก เป็นอันตรายต่อเด็กหรือใช้ไม่

สะดวก เช่น กรรไกรขนาดใหญ่ โต๊ะ เก้าอี้ที่ใหญ่หรือสูงเกินไป

และไม่ควรมีขนาดเล็กเกินไป เด็กอาจจะนําไปอมหรือกลืนทําให้

ติดคอหรือไหลลงท้องได้ เช่น ลูกปัดเล็ก ลูกแก้วเล็ก ฯลฯ

3. รูปทรง ไม่เป็นรูปทรงแหลม รูปทรงเหลี่ยม เป็นสัน

4. น้ําหนัก ไม่ควรมีน้ําหนักมาก เพราะเด็กยกหรือหยิบไม่ไหว

อาจจะตกลงมาเป็นอันตรายต่อตัวเด็ก

5. สื่อที่เป็นอันตรายต่อตัวเด็ก เช่น สารเคมี วัตถุไวไฟ ฯลฯ

6. สีที่เป็นอันตรายต่อสายตา เช่น สีสะท้อนแสง ฯลฯ

การประเมินการใช้สื่อ

ควรพิจารณาจากองค์ประกอบ 3 ประการ คือ ผู้สอน เด็ก และสื่อ

เพื่อจะได้ทราบว่าสื่อนั้นช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้มากน้อยเพียงใดจะได้นํา

มาปรับปรุงการผลิตและการใช้สื่อให้ดียิ่งขึ้น โดยใช้วิธีสังเกต ดังนี้

1. สื่อนั้นช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้เพียงใด

2. เด็กชอบสื่อนั้นเพียงใด

Page 86 of 89

3. สื่อนั้นช่วยให้การสอนตรงกับจุดประสงค์หรือไม่ถูกต้องตาม

สาระการเรียนรู้และทันสมัยหรือไม่

4. สื่อนั้นช่วยให้เด็กสนใจมากน้อยเพียงใด เพราะเหตุใด

การเก็บ รักษา และซ่อมแซมสื่อ

การจัดเก็บสื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็กฝึกการสังเกต การเปรียบ

เทียบ การจัดกลุ่ม ส่งเสริมความรับผิดชอบ ความมีน้ําใจ ช่วยเหลือ

ครูผู้ดูแลเด็ก ไม่ควรใช้การเก็บสื่อเป็นการลงโทษเด็ก โดยดําเนินการ

ดังนี้

1. เก็บสื่อให้เป็นระเบียบและเป็นหมวดหมู่ตามลักษณะ ประเภท

ของสื่อ สื่อที่เหมือนกัน จัดเก็บหรือจัดวางไว้ด้วยกัน

2. วางสื่อในระดับสายตาของเด็ก เพื่อให้เด็กหยิบใช้ จัดเก็บได้

ด้วยตนเอง

3. ภาชนะที่จัดเก็บสื่อควรโปร่งใส เพื่อให้เด็กมองเห็นสิ่งที่อยู่

ภายในได้ง่ายและควรมีมือจับเพื่อให้สะดวกในการขนย้าย

4. ฝึกให้เด็กรู้ความหมายของรูปภาพหรือสีที่เป็นสัญลักษณ์แทน

หมวดหมู่ประเภทสื่อ เพื่อให้เด็กจะได้เก็บเข้าที่ได้ถูกต้อง การใช้

สัญลักษณ์ควรมีความหมายต่อการเรียนรู้ของเด็ก สัญลักษณ์ควร

ใช้สื่อของจริง ภาพถ่ายหรือสําเนา ภาพวาด ภาพโครงร่าง หรือ

ภาพประจุด หรือบัตรคําติดคู่กับสัญลักษณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง

5. ตรวจสอบสื่อที่ใช้แล้วทุกครั้งว่ามีสภาพสมบูรณ์ จํานวนครบ

ถ้วนหรือไม่

6. ซ่อมแซมสื่อที่ชํารุด และทําเติมสื่อที่ขาดหายไปให้ครบชุด

การพัฒนาสื่อ

การพัฒนาสื่อเพื่อใช้ประกอบการจัดกิจกรรมในระดับปฐมวัยนั้น

ก่อนอื่นควรได้สํารวจข้อมูล สภาพปัญหาต่างๆของสื่อทุกประเภทที่ใช้

อยู่ว่ามีอะไรบ้างที่จะต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนให้เหมาะ

สมกับความต้องการ

ควรมีลักษณะ เฉพาะ ดังนี้ แนวทางการพัฒนาสื่อ

1. ปรับปรุงสื่อให้ทันสมัยเข้ากับเหตุการณ์ ใช้ได้สะดวก ไม่ซับ

ซ้อนเกินไป เหมาะสมกับวัยของเด็ก

2. รักษาความสะอาดของสื่อ ถ้าเป็นวัสดุที่ล้างน้ําได้ เมื่อใช้แล้ว

ควรได้ล้างเช็ด หรือปัดฝุ่นให้สะอาด เก็บไว้เป็นหมวดหมู่ วางเป็น

ระเบียบหยิบใช้ง่าย

Page 87 of 89

3. ถ้าเป็นสื่อที่ครูผู้ดูแลเด็กผลิตขึ้นมาใช้เองและผ่านการทดลอง

ใช้มาแล้วควรเขียนคู่มือประกอบการใช้สื่อนั้น โดยลอกชื่อสื่อ

ประโยชน์และวิธีใช้สื่อ รวมทั้งจํานวนชิ้น ส่วนของสื่อในชุดนั้น

และเก็บคู่มือไว้ในซองหรือถุง พร้อมสื่อที่ผลิต

4. พัฒนาสื่อที่สร้างสรรค์ ใช้ได้อเนกประสงค์ คือ เป็นได้ทั้งสื่อ

เสริมพัฒนาการและเป็นของเล่นสนุกสนานเพลิดเพลิน

แหล่งเรียนรู้

แหล่งเรียนรู้ แปลงเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง การจัดสภาพแวดล้อม

ภายในสถานศึกษาให้เอื้อต่อการพัฒนา และเรียนรู้แก่ผู้เรียน ถือเป็นปัจจัย

สําคัญอย่างยิ่ง ทั้งนี้โรงเรียนได้มีการจัดเตรียมแปลงเกษตรเศรษฐกิจพอ

เพียง ไว้ภายในโรงเรียน และมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ทางการเกษตรไว้

สําหรับให้ผู้เรียนได้ทํากิจกรรม โดยผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้ ทักษะ

กระบวนการ ขั้นตอนในการปลูกพืชผักสวนครัว การดูแลรักษา ตลอดจน วิธี

ใช้และการดูแลรักษาอุปกรณ์ เครื่องมือทางการเกษตรด้วยตนเอง ทําให้เกิด

ประสบการณ์ตรง และองค์ความรู้ที่ยั่งยืน

การประเมินพัฒนาการ

การประเมินพัฒนาการเด็กอายุ 3 – 6 ปี เป็นการประเมินพัฒนาการ

ทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญาของเด็ก โดยถือเป็นก

ระบวนการต่อเนื่อง และเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมปกติที่จัดให้เด็กในแต่ละ

วัน ผลที่ได้จากการสังเกตพัฒนาการเด็กต้องนํามาจัดทําสารนิทัศน์หรือจัด

ทําข้อมูลหลักฐานหรือเอกสารอย่างเป็นระบบ ด้วยการรวบรวมผลงาน

สําหรับเด็กเป็นรายบุคคลที่สามารถบอกเรื่องราวหรือประสบการณ์ที่เด็กได้

ให้นําข้อมูลผล รับว่าเด็กเกิดการเรียนรู้และมีความก้าวหน้าเพียงใด ทั้งนี้

การประเมินพัฒนาการเด็กมาพิจารณา ปรับปรุงวางแผนการจัดกิจกรรม

และส่งเสริมให้เด็กแต่ละคนได้รับการพัฒนาตามจุดหมายของหลักสูตรอย่าง

ต่อเนื่อง การประเมินพัฒนาการควรยึดหลัก ดังนี้

1. วางแผนการประเมินพัฒนาการอย่างเป็นระบบ

2. ประเมินพัฒนาการเด็กครบทุกด้าน

3. ประเมินพัฒนาการเด็กเป็นรายบุคคลอย่างสม่ําเสมอต่อเนื่องตลอด

ปี

4. ประเมินพัฒนาการตามสภาพจริง จากกิจกรรมประจําวันด้วยเครื่อง

มือและวิธีการที่หลากหลาย ไม่ควรใช้แบบทดสอบ

Page 88 of 89

5. สรุปผลการประเมิน จัดทําข้อมูลและนําผลการประเมินไปใช้พัฒนา

เด็ก

สําหรับวิธีการประเมินที่เหมาะสมและควรใช้กับเด็กอายุ 3 – 6 ปี ได้แก่

การสังเกต การบันทึกพฤติกรรม การสนทนากับเด็ก การสัมภาษณ์ การ

วิเคราะห์ข้อมูลจากผลงานเด็กที่เก็บอย่างมีระบบ

Page 89 of 89

คณะผู้จัดทํา หลักสูตรบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง

ห้อง 8303

1. นักสอน นางสาววันวิสา 571081321126

2. นางสาววรรณวิมล เคหา 571081321127

3. อําพันเรือง นางสาวอัญชลี 571081321133

4. นางสาวรุ่งทิพย์ แจ้งถิ่นป่า 571081321148

5. นางสาวกิติมา เฟื้อแก้ว 571081321149

6. นางสาวสุชาดา สัตย์ธรรม 571081321150

7. .นางสาวชลธิชา หวังสุข 571081321155

8. นางสาววิไลพร เชื้อวงศ์ 571081321156