วิธีการซักเสื้อผ้าและการถนอมเสื้อผ้า
การซักผ้าการซักผ้านั้นมี องค์ประกอบสิ่งสำคัญอยู่ 4 ชนิด ( Four Factor ) คือ
1.อุณหภูมิ (Temp)
2.แรงกลหรือแรงขยี้ (Mechanical)
3.เวลา (Time)
4.เคมี (Chemical)
ก่อนใช้สาร
ซักฟอกควรพิจารณา ดัง นี้
- ถ้าจะซักผ้าด้วยน้ำเย็นควรใช้สบู่ที่ผลิตจากไขมันที่มีจุดละลายต่ำ
- เลือกสบู่ตาม ชนิดของผ้าและรอยเปรอะเปื้อนที่จะต้องขจัดออก
- ผงซักฟอกที่ สังเคราะห์ขึ้นจากสารเคมี สามารถใช้กับน้ำกระด้างได้
- ก่อนซักจะ ต้องแยกผ้าที่สีตกออกซักต่างหากด้วย
- ผงซักฟอกจะ ไม่ทำให้น้ำกระด้างเกิดตะกอนเหมือนสบู่
สารซัก ฟอกที่ใช้กัน อยู่ทั่วไปในการซักผ้า
1.สบู่ซักผ้า มีทั้งแบบเป็นก้อนและเป็นเกร็ด ทำจากด่างต้มกับ ไขมันสัตว์
หรือน้ำมัน พืชที่มีจุดละลายสูงตั้งแต่ 37-40องศาเซลเซียส
และต้องใช้น้ำร้อนจึงจะซักผ้าได้ขาวสะอาด
2.ผงซัก ฟอกควรศึกษาข้อแนะนำการ ใช้และคุณสมบัติของสารนั้นๆเสียก่อน
พราะ มีผงซักฟอกหลายชนิดที่มี คุณสมบัติพื้นฐานเหมือนกันต่างกันที่เติมสาร
อื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับการ ทำความสะอาด เช่น กลิ่น สีฟอง ซึ่งสารเหล่านี้อาจ
ทำปฏิกิริยา
ทำ ให้ผ้าเปื่อยและขาดเร็วหรืออาจกัด
ผิวหนังได้ถ้าล้างออกไม่หมด โดยเฉพาะเสื้อผ้า
ของเด็กเล็กๆต้องระวัง เป็นพิเศษ
3.น้ำยาซักฟอก มีคุณสมบัติและ
การใช้เช่นเดียวกับผงซักฟอกเพียงแต่ผลิตขึ้นเพื่อให้สะดวก กับการใช้
คือเมื่อผสมกับน้ำแล้วจะละลายเข้ากับน้ำได้ง่าย ช่วยให้ประหยดเวลาและแรงงาน
4.น้ำยา ปรับผ้านุ่ม เป็น น้ำยาที่ใช้เพียงเพื่อให้ผ้าที่ต้องการความนุ่มคง
สภาพเดิม แต่ไม่จำเป็นต้องใช้บ่อยๆ
วิธีการ ซักเสื้อผ้า มีขั้นตอน ดังนี้
1.แยกผ้าสีและ ผ้าขาวออกเป็นพวกๆ
2.ซักด้วยน้ำ เปล่าก่อน 1 ครั้ง
3.ใส่ผง ซักฟอก ลงในอ่างหรือกะละมังประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ แล้ว
จึง ใส่น้ำประมาณ 1 ขันใหญ่ต่อเสื้อ 1 ตัว คนให้ผง ซักฟอกละลายและกระจายไปทั่ว
แล้วนำเสื้อ ลงแช่ทิ้งไว้ ประมาณ 15 นาที ขณะเดียวกัน ควรเตรียมอุปกรณ์สำหรับตาก
ผ้าไว้ให้เรียบร้อยจะทำงานให้เสร็จเร็วขึ้น
4.ขยี้ หรือใช้ แปรงๆที่คอเสื้อ แขนเสื้อ กระเป๋าและซักทั้ง ตัวให้สะอาด บีบน้ำออก แต่ไม่ควรบิดเพราะจะทำให้ผ้าขาดเร็วขึ้น
5.ซัก ในน้ำ สะอาด 2-3 ครั้ง ให้หมดคราบผงซักฟอก
6.นำขึ้นตาก โดยกลับตะเข็บเสียก่อน แล้วใส่ไม้แขวนเสื้อ ถ้าเป็นเสื้อสีให้แขวนไว้ในที่ร่ม
และ ลมพัดผ่านได้ดี
7. ถ้าซักด้วยเครื่องครั้งหนึ่ง จะใช้น้ำประมาณ 150-250 ลิตร
8.น้ำสุดท้ายของ การซักสามารถนำไปเช็ดถูบ้าน หรือรดน้ำต้นไม้ใหญ่ได้
การใช้และการดูแลรักษาเสื้อผ้า
เพื่อเป็นการประหยัดเวลา เงินและ แรงงาน ที่จะต้องสิ้นเปลืองไปกับการดูแลรักษาเสื้อผ้า
จึงควรยึด หลักการใช้และดูแลรักษาเสื้อผ้าดังนี้
1.เสื้อผ้าเมื่อ ใช้แล้ว ถ้าไม่ ซักทันทีจะทำให้ซักยากและอาจเกิดราหรือเป็นรอยได้
2.เสื้อผ้าที่สวมใส่ครั้งหนึ่งแล้วยังจะสวมได้ อีก ควรแขวนผึ่งแดดหรือลมไว้
3.เสื้อผ้าแต่ละชิ้น ซักรีดและเก็บรักษาไม่ เหมือนกัน เสื้อผ้าบางอย่างเมื่อซื้อมาจะมีคำแนะ
นำเกี่ยวกับการซักรีด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อช่วยรักษาเสื้อผ้าให้คงทนเสมอ
4.หาความรู้เกี่ยว กับการขจัดรอยเปื้อนที่มัก ประสบอยู่เป็นประจำ เพื่อเลือกวิธีที่ได้ผล ที่สุด
5.เสื้อผ้าที่จำเป็นต้องรีดเมื่อรีดเสร็จ แล้ว ควรปล่อยให้ความร้อนเกิดจากการรีดหายเป็น
ปรกติก่อน แล้วจึงเก็บเข้าตู้
6.เสื้อผ้าที่ซักรีดแล้ว ควรเก็บ ใส่ตู้เสื้อผ้าไว้ในที่อากาศเย็นและไม่ชื้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดเชื้อรา
และเสื้อผ้าเปื่อย
7.ควร จัดเก็บเสื้อ ผ้าไว้เป็นหมวดหมู่หรือประเภท เพื่อสะดวกใน การหยิบใช้ได้ง่ายและป้องกัน
การสูญหายหรือหาไม่พบ