Published using Google Docs
Untitled document
Updated automatically every 5 minutes

วิธีการซักเสื้อผ้าและการถนอมเสื้อผ้า

การซักผ้าการซักผ้านั้นมี องค์ประกอบสิ่งสำคัญอยู่ 4 ชนิด ( Four Factor ) คือ

1.อุณหภูมิ (Temp)

2.แรงกลหรือแรงขยี้ (Mechanical)

3.เวลา (Time)

4.เคมี (Chemical)

ก่อนใช้สาร

ซักฟอกควรพิจารณา ดัง นี้

- ถ้าจะซักผ้าด้วยน้ำเย็นควรใช้สบู่ที่ผลิตจากไขมันที่มีจุดละลายต่ำ

- เลือกสบู่ตาม ชนิดของผ้าและรอยเปรอะเปื้อนที่จะต้องขจัดออก

- ผงซักฟอกที่ สังเคราะห์ขึ้นจากสารเคมี สามารถใช้กับน้ำกระด้างได้

- ก่อนซักจะ ต้องแยกผ้าที่สีตกออกซักต่างหากด้วย

- ผงซักฟอกจะ ไม่ทำให้น้ำกระด้างเกิดตะกอนเหมือนสบู่

สารซัก ฟอกที่ใช้กัน อยู่ทั่วไปในการซักผ้า

1.สบู่ซักผ้า มีทั้งแบบเป็นก้อนและเป็นเกร็ด ทำจากด่างต้มกับ ไขมันสัตว์

 หรือน้ำมัน พืชที่มีจุดละลายสูงตั้งแต่ 37-40องศาเซลเซียส

และต้องใช้น้ำร้อนจึงจะซักผ้าได้ขาวสะอาด

2.ผงซัก ฟอกควรศึกษาข้อแนะนำการ ใช้และคุณสมบัติของสารนั้นๆเสียก่อน

พราะ มีผงซักฟอกหลายชนิดที่มี คุณสมบัติพื้นฐานเหมือนกันต่างกันที่เติมสาร

อื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับการ ทำความสะอาด เช่น กลิ่น สีฟอง ซึ่งสารเหล่านี้อาจ

ทำปฏิกิริยา                    

ทำ ให้ผ้าเปื่อยและขาดเร็วหรืออาจกัด

 ผิวหนังได้ถ้าล้างออกไม่หมด โดยเฉพาะเสื้อผ้า

ของเด็กเล็กๆต้องระวัง เป็นพิเศษ

3.น้ำยาซักฟอก มีคุณสมบัติและ

การใช้เช่นเดียวกับผงซักฟอกเพียงแต่ผลิตขึ้นเพื่อให้สะดวก กับการใช้

 คือเมื่อผสมกับน้ำแล้วจะละลายเข้ากับน้ำได้ง่าย ช่วยให้ประหยดเวลาและแรงงาน

4.น้ำยา ปรับผ้านุ่ม เป็น น้ำยาที่ใช้เพียงเพื่อให้ผ้าที่ต้องการความนุ่มคง

สภาพเดิม แต่ไม่จำเป็นต้องใช้บ่อยๆ

วิธีการ ซักเสื้อผ้า มีขั้นตอน ดังนี้

1.แยกผ้าสีและ ผ้าขาวออกเป็นพวกๆ

2.ซักด้วยน้ำ เปล่าก่อน 1 ครั้ง

3.ใส่ผง ซักฟอก ลงในอ่างหรือกะละมังประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ แล้ว

จึง ใส่น้ำประมาณ 1 ขันใหญ่ต่อเสื้อ 1 ตัว คนให้ผง ซักฟอกละลายและกระจายไปทั่ว

แล้วนำเสื้อ ลงแช่ทิ้งไว้ ประมาณ 15 นาที ขณะเดียวกัน ควรเตรียมอุปกรณ์สำหรับตาก

ผ้าไว้ให้เรียบร้อยจะทำงานให้เสร็จเร็วขึ้น

4.ขยี้ หรือใช้ แปรงๆที่คอเสื้อ แขนเสื้อ กระเป๋าและซักทั้ง ตัวให้สะอาด บีบน้ำออก แต่ไม่ควรบิดเพราะจะทำให้ผ้าขาดเร็วขึ้น

5.ซัก ในน้ำ สะอาด 2-3 ครั้ง ให้หมดคราบผงซักฟอก

6.นำขึ้นตาก โดยกลับตะเข็บเสียก่อน แล้วใส่ไม้แขวนเสื้อ ถ้าเป็นเสื้อสีให้แขวนไว้ในที่ร่ม

และ ลมพัดผ่านได้ดี

7. ถ้าซักด้วยเครื่องครั้งหนึ่ง จะใช้น้ำประมาณ 150-250 ลิตร

8.น้ำสุดท้ายของ การซักสามารถนำไปเช็ดถูบ้าน หรือรดน้ำต้นไม้ใหญ่ได้

การใช้และการดูแลรักษาเสื้อผ้า

เพื่อเป็นการประหยัดเวลา เงินและ แรงงาน ที่จะต้องสิ้นเปลืองไปกับการดูแลรักษาเสื้อผ้า

จึงควรยึด หลักการใช้และดูแลรักษาเสื้อผ้าดังนี้

1.เสื้อผ้าเมื่อ ใช้แล้ว ถ้าไม่ ซักทันทีจะทำให้ซักยากและอาจเกิดราหรือเป็นรอยได้

2.เสื้อผ้าที่สวมใส่ครั้งหนึ่งแล้วยังจะสวมได้ อีก ควรแขวนผึ่งแดดหรือลมไว้

3.เสื้อผ้าแต่ละชิ้น ซักรีดและเก็บรักษาไม่ เหมือนกัน เสื้อผ้าบางอย่างเมื่อซื้อมาจะมีคำแนะ

นำเกี่ยวกับการซักรีด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อช่วยรักษาเสื้อผ้าให้คงทนเสมอ

4.หาความรู้เกี่ยว กับการขจัดรอยเปื้อนที่มัก ประสบอยู่เป็นประจำ เพื่อเลือกวิธีที่ได้ผล ที่สุด

5.เสื้อผ้าที่จำเป็นต้องรีดเมื่อรีดเสร็จ แล้ว ควรปล่อยให้ความร้อนเกิดจากการรีดหายเป็น

ปรกติก่อน แล้วจึงเก็บเข้าตู้

6.เสื้อผ้าที่ซักรีดแล้ว ควรเก็บ ใส่ตู้เสื้อผ้าไว้ในที่อากาศเย็นและไม่ชื้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดเชื้อรา

 และเสื้อผ้าเปื่อย

7.ควร จัดเก็บเสื้อ ผ้าไว้เป็นหมวดหมู่หรือประเภท เพื่อสะดวกใน การหยิบใช้ได้ง่ายและป้องกัน

 การสูญหายหรือหาไม่พบ