O27

การวิเคราะห์ผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และมาตรการส่งเสริมคุณธรรม

และความโปรงใสภายในหน่วยงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

*******************

ผลการประเมินคุณธรรมและความโปรงใสในการดำเนินงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

ผลการประเมินในภาพรวม ร้อยละ 89.86

ผลการประเมินในภาพรวม

ผลการประเมินการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน (IIT)

โดยภาพรวมแล้ว ผลการประเมินบ่งชี้ว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน (ซึ่งน่าจะเป็นบุคลากรในหน่วยงาน) รับรู้ถึงการมีอยู่ของการปฏิบัติงานตามขั้นตอนและระยะเวลา (I1) และการไม่เลือกปฏิบัติ (I2) ในระดับที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตที่สำคัญในหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกังวลและความไม่มั่นใจในบางเรื่อง

ประเด็นที่โดดเด่น (คะแนนสูง):

• I3: การเรียกรับสินบน: คะแนน 100% บ่งชี้ว่าผู้ตอบส่วนใหญ่ ไม่รับรู้ ว่าเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานมีการเรียกรับสินบนเพื่อแลกกับการปฏิบัติงานหรือการให้บริการ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี
• I8: การสั่งให้ทำในสิ่งทุจริต: คะแนน 100% บ่งชี้ว่าผู้ตอบส่วนใหญ่ ไม่รับรู้ ว่าเคยถูกผู้บังคับบัญชาสั่งให้ทำในสิ่งที่เป็นการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ ซึ่งเป็นอีกสัญญาณที่ดี
• I9: การให้/รับสินบนในการบริหารงานบุคคล: คะแนน 100% บ่งชี้ว่าผู้ตอบส่วนใหญ่ ไม่รับรู้ ว่ามีการให้หรือรับสินบนเพื่อแลกกับการบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย หรือเลื่อนตำแหน่ง

ข้อสังเกตที่น่าสนใจ (คะแนนค่อนข้างสูง แต่ยังต้องพิจารณา):

• I7: การสั่งให้ทำธุระส่วนตัว: คะแนน 93.85% บ่งชี้ว่ามีผู้ตอบจำนวนไม่น้อยที่ รับรู้ ว่าเคยถูกผู้บังคับบัญชาสั่งให้ทำธุระส่วนตัว ซึ่งอาจเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและขอบเขตอำนาจของผู้บังคับบัญชา
• I11: การนำทรัพย์สินไปใช้ส่วนตัว: คะแนน 93.85% บ่งชี้ว่ามีผู้ตอบจำนวนไม่น้อยที่ รับรู้ ว่าเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานเคยนำทรัพย์สินของหน่วยงานไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญในการกำกับดูแลและป้องกัน
• I2, I4, I5, I6, I13: คะแนนที่อยู่ในช่วง 80% กว่า แสดงให้เห็นว่าโดยรวมแล้วมีการรับรู้ในเชิงบวกต่อประเด็นเหล่านี้ เช่น การไม่เลือกปฏิบัติ, การใช้จ่ายงบประมาณตามวัตถุประสงค์, การเบิกจ่ายเงินที่ไม่เป็นเท็จ, การใช้งบประมาณที่ไม่เอื้อประโยชน์, และความสำคัญที่ผู้บริหารให้กับการแก้ไขปัญหาทุจริต อย่างไรก็ตาม คะแนนที่ไม่ถึง 100% บ่งชี้ว่าอาจยังมีบางส่วนที่ยังไม่มั่นใจหรือรับรู้ถึงปัญหาในประเด็นเหล่านี้

ประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญ (คะแนนต่ำที่สุด):

• I10: การขอยืม/ขอใช้ทรัพย์สินอย่างถูกต้อง: คะแนน 55.38% เป็นคะแนนที่ต่ำที่สุดอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ตอบส่วนใหญ่ ไม่แน่ใจ หรือ ไม่รับรู้ ว่าการขอยืมหรือขอใช้ทรัพย์สินของหน่วยงานเป็นไปตามขั้นตอน/แนวปฏิบัติที่ถูกต้อง นี่เป็นสัญญาณที่สำคัญว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับความชัดเจนของระเบียบปฏิบัติ การสื่อสาร หรือการกำกับดูแลในเรื่องนี้
  
• I12, I14, I15: คะแนนที่อยู่ในช่วง 80% บ่งชี้ว่าแม้จะมีการรับรู้ในระดับหนึ่งเกี่ยวกับการป้องกันทุจริตและการจัดการเรื่องร้องเรียน แต่ก็ยังมีช่องว่างและความไม่มั่นใจอยู่พอสมควร
  

การวิเคราะห์โดยสรุป:

• ด้านบวก: การรับรู้ว่าไม่มีการเรียกรับสินบนและไม่มีการสั่งให้ทำเรื่องทุจริตในระดับสูงเป็นสัญญาณที่ดีของความโปร่งใสในภาพรวม
• ด้านที่ต้องปรับปรุง:

• การจัดการทรัพย์สิน: ประเด็นการขอยืม/ขอใช้ทรัพย์สิน (I10) เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก อาจต้องมีการทบทวนและสื่อสารระเบียบปฏิบัติให้ชัดเจน รวมถึงการกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้น
• การใช้ทรัพย์สินส่วนตัว: การรับรู้ว่ามีการนำทรัพย์สินไปใช้ส่วนตัว (I11) ในระดับที่ค่อนข้างสูง เป็นอีกประเด็นที่ต้องเร่งแก้ไข อาจต้องมีการตรวจสอบและลงโทษผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง
• ความเหมาะสมของการสั่งทำธุระส่วนตัว: การที่บุคลากรรับรู้ว่าถูกสั่งให้ทำธุระส่วนตัว (I7) ในระดับที่สูง อาจส่งผลต่อขวัญและกำลังใจในการทำงาน ควรมีการพิจารณาถึงความเหมาะสมและออกแนวปฏิบัติที่ชัดเจน
• ความเชื่อมั่นในกระบวนการป้องกันและจัดการทุจริต: แม้คะแนนจะอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่การที่ไม่ได้สูงถึง 100% บ่งชี้ว่ายังสามารถเสริมสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการป้องกันและจัดการทุจริตได้อีก

ข้อเสนอแนะเบื้องต้น:

1. เจาะลึกประเด็น I10: ทำการสอบถามเพิ่มเติมหรือทบทวนกระบวนการและระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการขอยืม/ขอใช้ทรัพย์สินของหน่วยงาน เพื่อระบุปัญหาและปรับปรุงให้ชัดเจนและโปร่งใสยิ่งขึ้น
2. สร้างความตระหนักเรื่องการใช้ทรัพย์สินส่วนตัว: รณรงค์และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการใช้ทรัพย์สินของหน่วยงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมเท่านั้น และมีบทลงโทษที่ชัดเจนสำหรับการนำไปใช้ส่วนตัว
3. ทบทวนแนวปฏิบัติเรื่องการสั่งทำธุระส่วนตัว: พิจารณาความเหมาะสมและออกแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อป้องกันการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้อง
4. เสริมสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการป้องกันและจัดการทุจริต: สื่อสารและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการทุจริต ช่องทางการร้องเรียน และกระบวนการจัดการเรื่องร้องเรียนให้บุคลากรได้รับทราบอย่างทั่วถึง
5. ติดตามและเปรียบเทียบผล: ทำการประเมิน IIT อย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลงและประเมินผลของมาตรการที่ดำเนินการ

เพื่อให้การวิเคราะห์มีความลึกซึ้งและนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง ควรมีการพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติม เช่น:

• ขนาดของหน่วยงาน: หน่วยงานขนาดเล็กและใหญ่ อาจมีบริบทและปัญหาที่แตกต่างกัน
• ลักษณะงานของหน่วยงาน: ลักษณะงานอาจส่งผลต่อความเสี่ยงในการทุจริตในประเด็นต่างๆ
• ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเชิงคุณภาพ (ถ้ามี): ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เข้าใจถึงสาเหตุของคะแนนในแต่ละประเด็นได้ดียิ่งขึ้น

ผลการประเมินตามแบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก (EIT)

โดยภาพรวมแล้ว ผลการประเมินบ่งชี้ว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก รับรู้ถึงการปฏิบัติงานตามขั้นตอนและระยะเวลา (E1), การให้บริการอย่างเท่าเทียม (E2), การไม่มีการเรียกรับสินบน (E3), การมีช่องทางการเผยแพร่ข้อมูล (E4), การประชาสัมพันธ์ข้อมูล (E5), ความสามารถในการสื่อสารของเจ้าหน้าที่ (E6), และการเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วม (E7) ในระดับที่ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญและปรับปรุงอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์

ประเด็นที่โดดเด่น (คะแนนสูง):

• E3: การเรียกรับสินบน: คะแนน 100% บ่งชี้ว่าผู้รับบริการส่วนใหญ่ ไม่เคยถูก เจ้าหน้าที่เรียกรับสินบน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีมากและแสดงถึงความโปร่งใสในด้านนี้

ข้อสังเกตในระดับที่ดี (คะแนน 80% กว่า):

• E1: การปฏิบัติงานตามขั้นตอนและระยะเวลา (81%) แสดงว่าผู้รับบริการส่วนใหญ่พึงพอใจในระดับหนึ่ง แต่ยังมีโอกาสในการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
• E2: การให้บริการอย่างเท่าเทียม (84%) สะท้อนว่าโดยทั่วไปแล้วผู้รับบริการรู้สึกว่าได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
• E4: ช่องทางการเผยแพร่ข้อมูล (85%) บ่งชี้ว่าหน่วยงานมีช่องทางที่เข้าถึงได้ง่าย แต่ความชัดเจนของเนื้อหาอาจต้องพิจารณาเพิ่มเติมจาก E5
• E5: การประชาสัมพันธ์ข้อมูล (84%) แสดงว่ามีการประชาสัมพันธ์ แต่ประสิทธิภาพและความชัดเจนของข้อมูลที่ประชาชนควรทราบอาจต้องมีการประเมินเพิ่มเติม
• E6: การสื่อสารของเจ้าหน้าที่ (82%) ผู้รับบริการส่วนใหญ่เข้าใจการสื่อสารของเจ้าหน้าที่ แต่ยังสามารถพัฒนาทักษะการสื่อสารให้ดียิ่งขึ้นได้
• E7: การเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วม (84%) เป็นสัญญาณที่ดีว่าหน่วยงานเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภายนอก

ประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญและปรับปรุง (คะแนนต่ำ):

• E8: การปรับปรุงการดำเนินงานให้ตอบสนองต่อประชาชน (78%) คะแนนนี้ต่ำกว่าประเด็นอื่นๆ เล็กน้อย บ่งชี้ว่าผู้รับบริการอาจยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงหรือการปรับปรุงที่ชัดเจนเท่าที่ควร
• E9: การพัฒนาการให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ (35%) นี่เป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่ง คะแนนที่ต่ำมากนี้แสดงให้เห็นว่าผู้รับบริการส่วนใหญ่ ไม่พึงพอใจ หรือ ไม่เห็น ถึงการพัฒนาการให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ นี่เป็นจุดอ่อนที่สำคัญและต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

การวิเคราะห์โดยสรุป:

• ด้านบวก: หน่วยงานมีความน่าเชื่อถือในเรื่องความโปร่งใสเกี่ยวกับการเรียกรับสินบน และโดยรวมแล้วผู้รับบริการพึงพอใจกับการปฏิบัติงานและการให้บริการในระดับหนึ่ง
• ด้านที่ต้องปรับปรุงเร่งด่วน:

• การให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ (E9): นี่คือจุดอ่อนที่ชัดเจนที่สุด หน่วยงานจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการออนไลน์อย่างจริงจัง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการในยุคปัจจุบัน
• การปรับปรุงการดำเนินงานให้ตอบสนองต่อประชาชน (E8): หน่วยงานควรพิจารณาว่าผู้รับบริการต้องการอะไร และมีการนำข้อเสนอแนะหรือความต้องการเหล่านั้นมาปรับปรุงการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมหรือไม่

• ด้านที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม:

• แม้ว่าช่องทางการเผยแพร่ข้อมูล (E4) จะเข้าถึงง่าย แต่ควรประเมินว่าข้อมูลที่เผยแพร่นั้นชัดเจน ตรงประเด็น และครอบคลุมสิ่งที่ผู้รับบริการต้องการทราบหรือไม่ (เชื่อมโยงกับ E5)
• แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะสื่อสารได้ดีในระดับหนึ่ง (E6) แต่ควรมีการพัฒนาทักษะการสื่อสารเชิงรุกและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อสร้างความพึงพอใจที่สูงขึ้น

ข้อเสนอแนะเบื้องต้น:

1. เร่งพัฒนาการให้บริการออนไลน์ (E9):

• สำรวจความต้องการ: สอบถามผู้รับบริการว่าต้องการบริการออนไลน์ใดบ้าง และมีปัญหาหรืออุปสรรคในการใช้บริการออนไลน์ในปัจจุบันอย่างไร
• ลงทุนในเทคโนโลยี: พิจารณาการลงทุนในระบบและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการออนไลน์ที่ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
• อบรมบุคลากร: ฝึกอบรมบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ
• ประชาสัมพันธ์: แจ้งให้ผู้รับบริการทราบถึงบริการออนไลน์ที่มี และวิธีการใช้งาน

2. ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงการดำเนินงาน (E8):

• รับฟังความคิดเห็น: เปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็นจากผู้รับบริการอย่างสม่ำเสมอ
• วิเคราะห์และนำไปปรับปรุง: นำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะมาวิเคราะห์ และปรับปรุงกระบวนการทำงานหรือการให้บริการให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้รับบริการมากยิ่งขึ้น
• สื่อสารผลการปรับปรุง: แจ้งให้ผู้รับบริการทราบถึงการเปลี่ยนแปลงหรือการปรับปรุงที่เกิดขึ้น

3. ทบทวนและปรับปรุงการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ (E4, E5, E6):

• ประเมินเนื้อหา: ตรวจสอบว่าข้อมูลที่เผยแพร่นั้นถูกต้อง ครบถ้วน ชัดเจน และเป็นปัจจุบันหรือไม่
• ปรับปรุงช่องทางการสื่อสาร: พิจารณาช่องทางที่หลากหลายเพื่อให้เข้าถึงผู้รับบริการได้ทุกกลุ่ม
• พัฒนาทักษะการสื่อสาร: ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่มีทักษะในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ เข้าใจง่าย และสามารถตอบข้อซักถามได้อย่างชัดเจน

เพื่อให้การวิเคราะห์มีความลึกซึ้งและนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง ควรมีการพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติม เช่น:

• ลักษณะของผู้รับบริการ: กลุ่มผู้รับบริการหลักของหน่วยงานคือใคร มีความต้องการและพฤติกรรมอย่างไร
• ประเภทของบริการ: บริการหลักของหน่วยงานคืออะไร และบริการใดที่ผู้รับบริการให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
• ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเชิงคุณภาพ (ถ้ามี): ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เข้าใจถึงสาเหตุของคะแนนในแต่ละประเด็นได้ดียิ่งขึ้น

มาตรการส่งเสริมคุณธรรมความโปร่งใสภายในหน่วยงานของคณะวิทยาการสุขภาพและการกีฬา ประจำงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยการวิเคราะห์ข้อมูลจากผลการประเมินคุณธรรมและความโปรงใสการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ใน 7 ประเด็นสำคัญประกอบด้วย

1. การะบวนการปฏิบัติงานที่โปรงใสและมีประสิทธิภาพ
2. การให้บริการและระบบ E-Service
3. ช่องทางและรูปแบบการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารภาครัฐ
4. กระบวนการกำกับดูแลการใชัทรัพย์สินของราชการ
5. กระบวนการสร้างความโปรงใสในการใช้งบประมาณและการจัดซื้อจัดจ้าง
6. กระบวนการควบคุม ตรวจสอบการใช้อำนาจและการบริหารงานบุคคล
7. กลไกและมาตรการในการแก้ไขและป้องกันการทุจริตภายในหน่วยงาน

มาตรการส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงาน

คณะวิทยาการสุขภาพและการกีฬา มหาวิทยาลัยทักษิณ

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

มาตรการส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

คณะวิทยาการสุขภาพและการกีฬา มหาวิทยาลัยทักษิณ