มารีแอนน์ ดี เมดิสัน 

ชื่อ-นามสกุล : มารีแอนน์ ดี เมดิสัน

 

ชื่อเล่น : แอนน์ / แอนนี่ / มารีแอนน์

สีประจำตัว : สีแดงเลือดหมู (#802d52)

เกร็ด - สื่อถึงความลึกลับความโรแมนติก และมีความสง่างาม และมีความร้อนแรงและกล้าหาญจากโทนสีแดง นอกจากนี้สีแดงยังสื่อถึงโลหิตที่หลั่งมาจากหัวใจของพระแมมารีย์ที่แตกสลาย

ดอกไม้ประจำตัว : ดอกคาเนชั่นสีแดง

เกร็ด - จากตำนานที่ว่าเมื่อพระแม่มารีย์เห็นพระยูซูถูกตรึงกางเขน น้ำตาของพระแม่มารีย์ก็หลั่งมาเป็นดอกคาเนชั่นสีแดง นอกจากนี้แล้วสีแดงยังสื่อถึงได้ถึงความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยว ความโรแมนติก

ด้านพลังวิเศษ 

มีพลังในการเยียวยารักษาบาดแผลจากการสัมผัสตัวของผู้บาดเจ็บ ขอบเขตการรักษาสามารถรักษาได้ทั้งบาดแผลทางกายและทางจิตใจได้ แต่ไม่สามารถจะชุบชีวิตคนตายขึ้นมาได้ และพลังนี้ก็มีขีดจำกัดของมัน ถ้าหากใช้งานมากเกินไปหรือเกิดเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ ก็จะเสียความสมดุลในร่างกายโดยจะมีผลกระทบมากกับดวงตา ซึ่งเป็นแหล่งสะสมหลักของพลังงาน และด้านสมองทั้งด้านความสามารถในการรับรู้ตามทักษะและด้านของความทรงจำ แต่เมื่อเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ไปแล้วก็มีโอกาสกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ถ้าหากได้รับการฟื้นฟู และได้รับการกระตุ้นความทรงจำที่เหมาะสม

ระดับการใช้พลัง : ระดับการใช้เพื่อการรักษาจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของบาดแผลที่จะรักษาทั้งทางกายและทางจิตใจ

ขั้นตอนในการฟื้นฟูพลังงาน : ฟื้นฟูได้จากการพักผ่อนทั้งการพักผ่อนทางกายและการพักผ่อนทางใจให้ตนเองได้ผ่อนคลายความเครียด

ที่มาและประวัติของพลังวิเศษ : พลังวิเศษนี้ได้รับจากดอกไม้วิเศษที่ปลูกอยู่กลางป่ามีรูปลักษณ์คล้ายกับดอกคเนชั่นเกือบทุกประการแค่มีสีเข้มแดงเหมือนดั่งโลหิต และถูกตั้งทีหลังว่า ’ดอกบานรักษา (Healing Bloom)

เพศ : หญิง

เชื้อชาติ : ลูกครึ่งฝรั่งเศสกับอังกฤษ

อายุ : 26 ปี

วันเกิดปีเกิด : 14/2/1826

ราศี : กรกฎ

กรุ๊ปเลือด : A

ขนาด : สมส่วน ( สูง 155.5 ซม. น้ำหนัก 45 กก. )

ถนัด (ซ้าย-ขวา) : ซ้าย

เรือนผม : ผมยาวตรงสีดำคลับยาวถึงกลางแผ่นหลัง

ดวงตา สีชาตสดใสเหลือบอำพัน

> ช่วงก่อนหน้าที่จะตาบอดเธอมีค่าสายตาสั้น

> เมื่อใช้พลังนัยนาจะเป็นอำพันทั้งหมด

> เมื่อตาบอดดวงตาจะมีสีแดงซีตเทา

โครงหน้า : โครงหน้าเรียว

ผิวพรรณ : สีผิวขาวอมขมพูผุดผ่อง

จมูก : โด้งเป็นส้น

ริมฝีปาก : ริมฝีปากบาง

จุดเด่นของสรีระ : นัยน์ตาทรงเมล็ดอัลม่อนส่งประกายวาว

หน้าตา : มีความเป็นมิตรดูอบอุ่นใจดี

เครื่องแต่งกาย : เสื้อท่อนบนชั้นนอกจากผ้าลินินสีฟ้าสลับกับสีขาว ชั้นในทำจากผ้าลินินสีขาวล้วน กระโปรงยาวสีฟัาปักด้วยลวดลายประนีต และสวมสร้อยคอเครื่องประดับรูปหัวใจที่ปักด้วยมีต พร้อมติดโบว์เล็ก ๆ บนศีรษะ และมีปอกรัดแขนสีทอง สวมแหวนหมั่นแพตตินัมไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย

ที่มา : https://pin.it/1KrrO84 ชุดหลัก

ที่มา : https://pin.it/6ZQG3YS ชุดแม่บ้าน

ภาษาและสำเนียง : ภาษาอังกฤษสำเหนียงฝรั่งเศส

อาชีพ : ครูสอนพิเศษตามบ้าน / ทำขนมเค้กขาย

เกร็ด - อดีตเคยเป็นสาวใช้ให้ ‘คลาร่า ดี เมดิสัน’

และสาเหตุที่ปัจจุบันเธอทำอาชีพเป็นครูก็เพราะมีแรงบันดาลใจมาจากคลาร่า

สถานะอารมณ์ (ร่าเริง โศกเศร้า) : มีความมั่นคงทางอารมณ์ ไม่แปรปรวนง่าย และรู้จักการแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสม ไม่พยายามกักเก็บอารมณ์มากเกินไป

ทักษะที่ชำนาญ

-ทักษะการสอน

-ทักษะในการด้านภาษาฝรั่งเศสอย่างยอดเยี่ยม

-ทักษะในการทำขนม ex. สโคน เค้ก ซิฟฟอน

-ทักษะด้านการชงชา

-ทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

-ทักษะการใช้วาทศิลป์ดีเยี่ยม

-ทักษะในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน

-ทักษะด้านความรับผิดชอบ

ทักษะที่ไม่ชำนาญ

-การประกอบอาหาร (ทำได้เล็กน้อย)

-การเล่นดนตรี/การวาดภาพ

-ทักษะภาษาอื่น ๆ นอกจากอังกฤษและฝรั่งเศส

-ทักษะเชิงตรรกะ วิทยาศาตร์

สิ่งที่ชอบ

: หนังสือนวนิยายวรรณกรรม การสอนหนังสือ โรงละคร ขนมหวาน การพิมพ์งานเขียน

สิ่งที่ไม่ชอบ

: กลิ่นของห้องทดลองทำให้รู้สึกเวียนหัวจนรู้สึกคลื่นไส้ เครื่องช็อตไฟฟ้า ของมีคมเช่นมีดผ่าตัด และกาแฟดำ

ครอบครัว

: เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงโดยวิหาร

ประวัติครอบครัว 

: แม่ของเธอเป็นหญิงชาวฝรั่งเศส ส่วนพ่อเป็นชาวอังกฤษชนชั้นสูง ทั้งสองได้มาพบรักกัน แต่สุดท้ายก็เลิกรากันไป ทำให้แม่คลอดเธอทิ้งไว้ที่วิหารแล้วหายไป และชื่อที่ถูกเรียกในปัจจุบันถูกตั้งทีหลังเมื่อเธอมาอยู่ที่อังกฤษแล้ว

ศาสนา

: เธอเป็นคริสต์แบบนิกายคาทอลิค

เชื้อชาติและชุมชนที่เคยอาศัยอยู่

: เชื้อชาติฝรั่งเศสลูกครึ่งอังกฤศ บ้านเกิดของเธอคือทีวิหารแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ที่เมืองชาร์ตร์ (Chartres)

การศึกษา

: ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองจนสามารถอ่านออกเขียนได้ อีกทั้งยังได้รับการอนุเคราะห์จากเจ้าบ้านสมัยที่เธอทำงานเป็นเมดช่วยสอนเธอด้วย

ด้านคนรอบตัวที่สำคัญในชีวิตของเธอ (ออริ)

  • คลาร่า ดี เมดิสัน’ หญิงชราชาวอังกฤษที่เธอเคยทำงานรับใช้เป็นเมดที่นั่น คอยสอนทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตให้กับเธอ และเธอนับถือเป็นเหมือนแม่แท้ ๆ และได้ยกนามสกุลนี้ให้พร้อมกับสมบัติติดตัวจำนวนหนึ่งให้เธอก่อนที่จะลาโลกไป

  • ‘ลูซี่ โรแบร์’ หญิงชาวฝรั่งเศสอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เป็นแพทย์ประจำตัวที่คอยประเมินร่างกายเธอช่วงที่กำลังวิจัยเกี่ยวกับพลังวิเศษและดอกบานรักษา มีความสำคัญมากเพราะมีหน้าที่ประเมินผลเกี่ยวกับตัวเธอ พอหลังจากจบโครงการวิจัยแล้วลูซี่ก็เข้ามารักษาเธอจากผลข้างเคียงของการทดลอง(แม้รัฐบาลจะเขี่ยเธอทิ้งแล้วก็ตาม) และเมื่อมารีแอนน์ดีขึ้นแล้วลูซี่ถึงส่งเธอกลับไปให้โชล์มดูแลต่อและคอยมาประเมินอาการเธอที่อพาร์ทเม้นอยู่บางครั้ง

ใกล้ชิดกับใครเป็นพิเศษ (ยูเมะ)

: เชอร์ล็อก โฮล์มส์ (เฮอร์ล็อก โชล์ม)

งานอดิเรก

: การอ่านหนังสือนวนิยาย และการใช้เวลาในการออกไปเดินเล่นที่สวนสาธรณะ

ความผิดหวังขั้นรุนแรง

— การถูกวิจัยเกี่ยวกับโครงการดอกบานรักษาในร่างกายของเธอ โดยตัดขาดจากโลกภายนอก และการใช้เครื่องมือต่าง ๆ มาทดลองกับร่างกายเธอมากมายทำให้รู้สึกทรมาณเหมือนนรกบนดิน และสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือการควักเอาลูกตาที่เป็นแหล่งพลังงานออกไปแล้วใส่ลูกตาดวงใหม่กลับเข้าไปแทน (ยาสลบออกฤทธิ์ไม่เต็มที่ทำให้ทรมาณมาก) เป็นผลทำให้กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรงจนเสียสูญไปในที่สุด

ระดับสติปัญญา

: ระดับปานกลาง มีไหวหริบดีในด้านการเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่าง ๆ

อุปนิสัย

: เธอเป็นคนที่มีจิตใจดีโอบอ้อมอารีย์ เป็นมิตรกับผู้คนรอบข้าง และเอาใจใส่พวกเขาอยู่เสมอ มีความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยว กล้าที่จะปกป้องคนที่ตัวเองรักและปกป้องคนอื่น มีความมั่นใจในตัวเองในระดับที่พอดี และมองโลกในแง่บวกและคิดว่าทุกปัญหาจะมีทางออกอยู่เสมอ  ด้านการวางตัว เธอมีวาทศิลป์ที่ยอดเยี่ยมพูดจาน่าฟัง เธอวางตัวอย่างสุขุมเสมอกับคนรอบข้าง และไม่ชอบการอยู่เฉย ๆ เพราะด้วยนิสัยแล้วไม่ชอบอยู่บ้านนาน ๆ ถึงลักษณะภายนอกจะมีความสุขุมแต่ก็ยังมีความหัวรั้นอยู่บ้าง บางครั้งก็พึ่งพาตัวเองมากเกินไปจนไม่ค่อยปรึกษาคนอื่น บางทีก็ห่วงคนอื่นมากเกินไปจนละเลยตัวเอง และเป็นคนที่เก็บด้านที่อ่อนแอไว้กับตัวเองไม่ค่อยเปิดเผยกับใคร(แต่ก็ยังชอบที่จะช่วยเหลือดูแลคนอื่นเมื่อคนอื่นอ่อนแอ) และปรกติก็ไม่ค่อยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังนอกจากคนที่รู้สึกไว้ใจ

พฤติกรรมส่วนตัว

: เคยสูบบุหรี่จัดประมาณหนึ่งแต่ปัจจุบันเลิกแล้ว

บุคลิก

: ท่าทางอ่อนหวาน ใจดีเข้ากับคนง่ายเป็นมิตร มีเสน่ห์ มีกิริยามารยาทที่ดี พูดจาดูจาไพเราะน่าฟัง เป็นที่รักของทุกคนที่พบเห็น

ประวัติ

  • เกิดที่ประเทศฝรั่งเศสแถบชนบทอาศัยอยู่ที่วิหารแห่งหนึ่งที่คอยดูแลเด็กกำพร้า ( ปี 1826 )
  • ด้วยความที่อาหารค่อนข้างจะขาดแคลนช่วงอายุ 5 ขวบได้เข้าไปในป่าเพื่อไปหาของกินสุดท้ายไปเจอดอกไม้วิเศษเข้าจึงกินมันเพื่อประทังความหิวโหยและได้รับพลังวิเศษนี้ตอนที่รักษาแผลที่หกล้มให้กับตัวเอง
  • เมื่อผู้คนสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่ดวงตาของเธอมีสีเหลือบอำพันที่แปลกผิดมนุษย์ทำให้ช่วงแรกเธอก็ถูกต่อต้านว่าเป็นแม่มด แต่สุดท้ายพอชาวบ้านรู้ถึงพลังวิเศษก็พากันสรรเสริญกลายเป็นคิดว่าเธอเป็นคนจากสวรรค์ไปเสียอย่างนั้น และพากันมารักษา บางครั้งก็ให้อาหารและบริจาคเงินให้กับโบสถ์
  • เมื่อข่าวนี้แพร่ไปถึงหูของรัฐบาลฝรั่งเศส ก็ได้จับตัวเธอไปเข้ารับการทดลองเกี่ยวกับพลังของเธอแต่สุดท้ายเธอก็หลุดมาได้
  • ตอนนี้เธอมาอยู่ที่ปารีสโซซัดโซเซจนมาเจอลูแปงและได้นำเงินติดตัวจำนวนหนึ่งให้เขาเพื่อแลกกับให้เขาช่วยพาไปที่ท่าเรือเพื่อจะตรงไปยังอังกฤษ
  • เมื่อมาถึงที่อังกฤษแล้วช่วงแรกก็พยายามหางานทำไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายมาเจอ’คลาร่า ดี เมดิสัน’ ทำให้เธอได้ทำงานและได้รับความรู้มากมาย และยังเป็นคนที่ตั้งชื่อและให้นามสกุลกับเธอโดยการรับเป็นบุตรบุญธรรม เมื่อคลาร่าเสียชีวิตไปก็ได้มอบทรัพย์สินส่วนหนึ่งให้กับเธอ
  • จากนั้นเธอก็ได้มาอาศัยอยู่ที่อพาร์ทเม้นแถวถนนเบเกอร์และยังทำงานเป็นครูสอนตามบ้านด้วย ทำให้เธอได้มาเจอเชอร์ล็อกและหมอวัตสัน ไม่นานระหว่างเธอกับเชอร์ล็อกความสัมพันธ์ก็กลายเป็นความรัก ในขณะเดียวกันหมอวัตสันเองก็กำลังจะแต่งงานกับแมรี่
  • เกิดเหตุการณ์การเสียชีวิตของแมรี่ขึ้น
  • และไม่กี่สัปดาห์ถัดมาหลังจากเหตุการณ์นั้น ทางรัฐบาลอังกฤษก็เรียกตัวมารีแอนน์เข้ามาคุยเพื่อส่งตัวเธอกลับไปที่ศูนย์วิจัยที่ปารีสเพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างฝรั่งเศสและอังกฤษ เธอจึงยอมไปและหายตัวไปจากชีวิตเชอร์ล็อกอย่างกระทันหัน
  • ไม่กี่ปีต่อมาก็มีจดหมายส่งมาถึงโชล์มเกี่ยวกับมารีแอนน์โดยผู้ส่งคือ’ลูซี่ โรแบร์’ เรียกโชล์มเข้ามาพูดคุยที่คลินิก (ลูซี่ย้ายมาตั้งตัวอยู่ที่อังกฤษ) และได้อธิบายทุกอย่างให้ฟัง รวมไปถึงพูดคุยเรื่องแนวทางการรักษาเธอด้วย ช่วงแรกมารีแอนน์มีสภาพเหมือนซากศพเดินได้ ขาดการตอบสนองกับโลกภายนอกจนสื่อสารกับใครไม่ได้จึงต้องอยู่รักษาก่อน
  • เมื่อมารีแอนน์ดีขึ้นแล้วโชล์มก็พารับกลับมาอยู่ที่อพาร์ทเม้นเพื่อดูแลต่อ สภาพเธอดูดีขึ้นสามารถพูดคุยใช้ชีวิตได้ตามปรกติ เพียงแต่ความทรงจำหายไป และดวงตาที่บอดทั้งสองข้าง เรื่องวิสัยทัศน์การมองของเธอ ทุกอย่างเป็นภาพสีปรกติเพียงแต่ทุกอย่างมันเบลอจนกลืนเป็นภาพเดียวกันและแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร จึงต้องใช้ไม้เท้าและอักษรเบลส์ในการใช้ชีวิต ( ปี 1853 )

— เส้นเรื่อง common route …

เกร็ดข้อมูลไม่จำเป็นเกี่ยวกับเธอ

  • ความทรงจำเลือนลางมากจนต้องพึ่งความทรงจำจากไดอารี่ของตัวเองที่เคยเขียนตอนอยู่ที่ห้องทดลอง ซึ่งแม้ตัวเองจะมองไม่เห็น แต่ช่วงที่รักษาอยู่กับลูซี่ ลูซี่จะคอยอ่านไดอารี่เล่มนั้นให้เธอฟังเกี่ยวกับข้อมูลของมันทุกวันจนเธอจำได้ว่าข้อมูลมีอะไรบ้าง

  • สาเหตุที่มารีแอนน์ยังคงสวมแว่นตาอยู่บางครั้งแม้ดวงตาจะใช้การไม่ได้แล้ว ก็เพราะเธอรู้สึกว่ามันเป็นของสำคัญและผูกพันธ์กับเธอ เธอจึงหยิบขึ้นมา

  • โชล์มไม่กล้าเล่นไวโอลินเพลง ‘Romance for Violin and Orchestra No. 2 in F major, Op. 50’ ของธีโธเฟนให้มารีแอนน์ฟ้ง เพราะมันก็เป็นเพลงโปรดของเธอ ทำให้เมื่อก่อนเขาเล่นให้เธอฟังบ่อยมาก ทำให้ทุกครั้งที่เขาบรรเลงเพลงนี้ขึ้นมามันทำให้เผลอไปกระตุ้นความทรงจำของเธอเข้า ส่งผลให้เธอปวดศีรษะอย่างรุนแรง เขาจึงไม่เล่นอีกเพราะเป็นห่วง